:::     :::

การกลับมาของ "มาร์ติน โอเดการ์ด"

วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2563 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
2,202
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลังย้ายมาร่วมทีมเรอัล มาดริด อย่างเป็นทางการในช่วงปี 2015

สำหรับ มาร์ติน โอเดการ์ด  ดาวเตะพรสวรรค์สูง ก่อนที่จะถูกส่งไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์แบบยืมตัวมาตลอด ทั้งกับ ฮีเรนวีน, วิเทสส์ฯ และเรอัล โซเซียดาด 


โดยฤดูกาลหน้า เรอัล มาดริด ทำการตัดสินใจครั้งสำคัญ ด้วยการดึง โอเดการ์ด กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง แม้ว่าดาวเตะทีมชาตินอร์เวย์ ยังคงเหลือสัญญายืมตัวที่เรอัล โซเซียดาด อีกหนึ่งปี 


ทั้งนี้ มาร์ก้า สื่อดังของประเทศสเปน จึงวิเคราะห์ถึงปัจจัยที่ราชันชุดขาวดึงตัวแข้งรายนี้กลับมา ส่วนจะมีแง่มุมไหนบ้างนั้น เราไปติดตามกัน 


กลายเป็นผู้เล่นที่แตกต่าง 


แฟนบอลเรอัล มาดริด หลายต่อหลายคน สงสัยกันว่า มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง หลังจากถูกส่งไปให้กับทีมในเนเธอร์แลนด์ อย่างฮีเรนวีน และวิเทสส์ ทำการยืมตัว ตามด้วยเรอัล โซเซียดาด อย่างไรก็ตาม โอเดการ์ด เติบโตขึ้นมาก ทั้งแง่ของผลงานในสนาม และวุฒิภาวะ 


โดยเฉพาะการเติบโตขึ้นที่เรอัล โซเซียดาด จากโอกาสที่ได้ลงสนามมากขึ้น พร้อมกับการรับบทบาทหัวใจสำคัญการปั้นเกม ส่งผลให้เขากลายเป็นหนึ่งในกองกลางคุณภาพ ในศึกลาลีกา เมื่อฤดูกาล 2019-20 ที่ผ่านมา หากนับรวมทุกรายการแล้วนั้น เขามีส่วนร่วมกับ 13 ประตูของโซเซียดาด จากผลงานยิง 7 ประตู และแอสซิสต์ 6 ครั้ง


ไม่ต้องทุ่มซื้อแข้งแพง

การกลับมาของโอเดการ์ด เปรียบเหมือนกับการเซ็นสัญญานักเตะใหม่ของเรอัล มาดริด แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย สอดคล้องกับมาตรการการรัดเข็มขัด เนื่องจากภาวะโรคระบาดอย่างโควิด-19 ส่งผลให้การซื้อนักเตะใหม่เข้าสู่ทีมของทางเรอัล มาดริด ในฤดูกาลหน้า ต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากในเรื่องของราคาอย่างแน่นอน 


ด้วยเหตุนี้ การกลับมาของโอเดการ์ด จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเหมือนกัน นอกจากไม่ต้องเสียเงินค่าตัวอีกแล้ว ส่วนค่าเหนื่อยของดาวเตะวัย 21 ปี ยังถือว่ายังพอรับไหว


เพราะอย่าลืมว่า นักเตะภายในทีมอย่างแกเร็ธ เบล และฮาเมส โรดริเกซ ต่างมีค่าเหนื่อยสูงมาก และแทบไม่ได้ลงสนามเลย หากอยากได้ตัวซูเปอร์สตาร์อย่าง ปอล ป็อกบา ทีมก็ต้องเสียค่าตัว และค่าเหนื่อยเป็นจำนวนมากอีก พูดอีกนัยคือ โอเดการ์ด ถือว่าพิสูจน์ตัวเองได้ในระดับหนึ่งแลัวกับลีกแดนกระทิงดุ สามารถใช้งานได้เลย เพียงแค่ต้องรอดูผลการปรับตัวกับทีม


แผงกลางต้องการความสดใหม่ 

หากเหลือบตาไปมองบรรดาแผงกองกลางของเรอัล มาดริด ในช่วงเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นทางคาเซมิโร่, ลูก้า โมดริช และโทนี่ โครส นี่คือนักเตะที่อยู่ในระดับแถวหน้าของวงการฟุตบอลยุโรปมาอย่างยาวนาน รวมถึงเป็นฟันเฟืองสำคัญ ในการพาสโมสรเก็บเกี่ยวความสำเร็จมากมาย


อย่างไรก็ตาม หนึ่งสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงไป นั่นคือการที่พวกเขาเริ่มมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น (คาเซมิโร่ 28 ปี, ลูก้า โมดริช 34 ปี และโทนี่ โครส 30 ปี) โดยทีมจำเป็นต้องเติมความสดใหม่ลงในแผงกองกลางบ้าง ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ การพ่ายต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่แดนกลางค่อนข้างเป็นรอง สโมสรจึงเชื่อว่า นี่ถือเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้ว ในการเติมเต็มพื้นที่แดนกลางของสนาม


ซีเนอดีน ซีดาน รู้จักเป็นอย่างดี 


กุนซือชาวฝรั่งเศส รู้จักโอเดการ์ด เป็นอย่างดี เนื่องจากทั้งสองคนทำงานร่วมกันที่เรอัล กาสติญ่า โดยรวมแล้ว ทั้งสองทำงานร่วมกันมากถึง 25 เกมเลยทีเดียว ก่อนที่จะได้รับโอกาสลงเล่นในนามทีมชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ


นอกจากนี้ ตัวของซีดาน ยังคงติดตามผลงานของโอเดการ์ด อยู่เสมอ ทั้งในช่วงของผลงานปรีซีซั่น รวมไปถึงการแข่งขันจริง โดยซีดาน เป็นคนตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดในกับนักเตะเสมอ 

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด