แฟนบอลบาเลนเซียมากกว่า 500 คนรวมตัวกันประท้วงบริเวณโดยรอบสนามเมสตาย่าเพื่อต่อต้านและขับไล่ 'เมอริตัน โฮลดิ้ง' บริษัทของ ปีเตอร์ ลิม มหาเศาษฐีชาวสิงค์โปร์ที่เป็นเจ้าของสโมสรคนปัจจุบัน 

มันเป็นช่วงเวลาที่ทำใจยากสำหรับสาวกทีมค้างคาวหลังมีข่าวว่าสโมสรแจ้งกับนักเตะทีมชุดใหญ่มากกว่า 10 คนสามารถย้ายสังกัดได้ในช่วงซัมเมอร์นี้หากมีข้อเสนอเข้ามา เนื่องจากมีความจำเป็นต้องลดภาระค่าใช้จ่าย 

แฟนบอลทีมค้างคาวทำได้แค่มองตาปริบๆหลังเห็นนักเตะเริ่มย้ายออกจากถิ่นเมสตาย่า ไล่จาก เฟร์ราน ตอร์เรส ที่ชิ่งหนีไปค้าแข้งกับ แมนฯซิตี้ เป็นคนแรก ก่อนที่ ดาเนียล ปาเรโฆ กับ ฟร็องซิส โกเกอแล็ง จะหอบเสื้อผ้าหนีไปอยู่กับ บียาร์เรอัล เมื่อวันพุธที่ผ่านมา 

แต่การเห็นนักเตะย้ายออกจากทีมคงไม่หยุดเพียงเท่านี้ เนื่องจากยังมีผู้เล่นที่อยู่ในข่ายโละทิ้งอีกหลายคนทั้ง ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น, มุกตาร์ ดิยากาบี้, เอเลียกิม ม็องกาล่า, เจฟเฟร่ กงด็อกเบีย, โรดรีโก้ โมเรโน่, เควิน กาไมโร่, รูเบน โซบรีโน่ กับ เธียร์รี่ กอร์เรอา 

ขณะที่ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ กับ กวาเม่ กอสต้า ย้ายกลับ โรม่า และ บียาร์เรอัล เมื่อหมดสัญญายืมตัวหลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา 

แม้แต่ผู้เล่นอายุน้อยอนาคตไกลอย่าง กอนซาโล่ เกเดส ทีมค้างคาวก็พร้อมปล่อยปีกชาวโปรตุกีสหากได้รับข้อเสนอที่น่าสนใจ 

ตามแผนงานของสโมสรวางตัว โฆเซ่ หลุยส์ กาย่า แบ็กซ้ายวัย 25 ปีเป็นกัปตันทีมคนใหม่ ขณะที่ กาเบรียล เปาลีสต้า, การ์ลอส โซเลร์ กับ ฆวาเม่ โดเมเน็ก ยังคงเป็นแกนหลักของทีมค้างคาวโฉมใหม่ ส่วน มักซี่ โกเมซ, คริสเตียโน่ ปิคซินี่, ดาเนียล วาสส์, เดนิส เชรีเชฟ กับ อี กัง อิน ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของทีมค้างคาวในฤดูกาลหน้า 

ทว่าสถานการณ์ปัจจุบัน บาเลนเซีย มีสภาพไม่ต่างจาก 'เซเว่น อีเลฟเว่น' ที่คุณมีโอกาสหยิบจับสินค้าทุกชนิดถ้าคุณมีเงินจ่าย ทีมค้างคาวพร้อมปล่อยนักเตะทุกรายถ้าหากได้รับข้อเสนอที่เหมาะสม 

ยกตัวอย่าง ดาเนียล ปาเรโฆ หนึ่งในนักเตะดีที่สุดของสโมสร มิดฟิลด์วัย 31 ปี รับใช้ทีมมานาน 9 ปีนับตั้งแต่ย้ายมาจาก เคตาเฟ่ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2011 จนกระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีม ก่อน บาเลนเซีย จะปล่อย ปาเรโฆ ย้ายซบ บียาร์เรอัล แบบไม่มีค่าตัวและเซ็นสัญญา 4 ปี หลังการยกเลิกสัญญากับสโมสรด้วยความเห็นชอบของทั้งสองฝ่าย 

ปาเรโฆ ยังมีสัญญาจนถึงปี 2022 เขาเป็นนักเตะที่มีความภักดีต่อสโมสรตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาและเคยยืนยันเจตนารมณ์ว่าต้องการเล่นกับทีมค้างคาวไปจนกระทั่งเลิกค้าแข้ง แต่ผู้บริหารปัจจุบันตัดสินใจโละทิ้งมิดฟิลด์วัย 31 ปี 

'ผมสุขใจใน บาเลนเซีย นี่เป็นหนึ่งในเมืองที่ยอดเยี่ยม ครอบครัวผม ลูกๆผม พวกเขาทั้งหมดมีชีวิตสมบูรณ์แบบใน บาเลนเซีย'

'ผมอยู่ที่สโมสรมา 9 ปีแล้วและสำหรับผม มันคือบ้านของผมและนั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึก ผมเหลือสัญญาอีก 2 ปีที่นี่และผมต้องการยุติอาชีพค้าแข้งที่ บาเลนเซีย เพราะมันเป็นอาชีพของผม'

'แต่ฟุตบอลก็คือฟุตบอล และคุณไม่มีทางรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่สำหรับผม บาเลนเซีย เป็นสิ่งสำคัญที่สุด' 

ตลอดการเล่นอาชีพกับ บาเลนเซีย นาน 9 ปี ปาเรโฆ ลงสนาม 383 นัด ทำ 64 ประตูและเป็นที่รู้จักกันในฐานะผู้เชี่ยวชาญในการเล่นลูกตั้งเตะคนหนึ่งของลูกหนังเมืองกระทิง

ปาเรโฆ ย้ายมาค้าแข้งกับ บียาร์เรอัล พร้อมเพื่อนร่วมสังกัดอย่าง ฟร็องซิส โกเกอแล็ง มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสที่มีค่าตัวเพียง 8 ล้านยูโร โดยเป็นการจ่ายเงินเบื้องต้นเพียง 6.5 ล้านยูโรเท่านั้น หลังการปล่อย เฟร์ราน ตอร์เรส ย้ายซบ แมนฯซิตี้ ด้วยค่าตัว 27 ล้านยูโรหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ 

การตัดสินใจปล่อยสองผู้เล่นสำคัญอย่าง ดาเนียล ปาเรโฆ กับ เฟร์ราน ตอร์เรส ของ บาเลนเซีย ทำให้ ซานติอาโก้ กานญีซาเรส ตำนานนายทวารของทีมค้างคาวออกมาตั้งคำถามถึงการขายสองมิดฟิลด์ดีที่สุดของสโมสร รวมถึงการแต่งตั้ง ฆาเบียร์ กราเซีย เป็นเทรนเนอร์คนใหม่ มันทำให้มองไม่เห็นอนาคตของบาเลนเซียว่าจะไปในทิศทางใด 

อานิล เมอร์ธี่ย์ ประธานสโมสร บาเลนเซีย ให้สัมภาษณ์ 'เดอะ สเตรท ไทม์ส' สื่อของสิงค์โปร์โดยยอมรับว่าทีมค้างคาวต้องเผชิญกับฤดูกาลที่ยากลำบากจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส'โควิด-19' 

เมอร์ธี่ย์ เปิดเผยว่าสโมสรต้องตัดสินใจที่ยากลำบากเพื่อหลีกเลี่ยงการล้มละลาย หลังประสบปัญหาทางการเงินและยังสูญเสียรายได้หลังพลาดตั๋วเล่นฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า 

บาเลนเซีย จำเป็นต้องลดภาระค่าใช้จ่ายทุกทางที่เป็นไปได้โดยเฉพาะการปล่อยนักเตะออกจากสังกัดไม่ว่าจะเป็นการขายหรือยกเลิกสัญญา ส่วนพวกที่ยังอยู่กับทีมก็ต้องยอมรับชะตากรรมเพราะสโมสรวางแผนลดค่าจ้างนักเตะถึง 40 เปอร์เซ็นต์ด้วย 

'เรากำลังเตรียมพร้อมสำหรับฤดูกาลที่ยากลำบากและ บาเลนเซีย ไม่ได้เป็นเพียงสโมสรเดียวที่ได้รับผลกระทบ' 

'เรากำลังจะมีฤดูกาลที่ยากลำบากเนื่องจาก'โควิด-19' ดังนั้นเราจึงต้องรับผิดชอบและควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด ถ้าสโมสรล้มละลายจะมีดีอะไร?'

'หากสถานการณ์ทางการเงินแย่เนื่องจาก'โควิด-19' ทุกสโมสรจะต้องเดือดร้อน เราต้องนำไปสู่การจัดการที่มีความรับผิดชอบในช่วงวิกฤตโควิด-19'

เมอร์ธี่ย์ ยังได้รับการสนับสนุนจาก ปีเตอร์ ลิม มหาเศรษฐีชาวสิงคโปร์ เจ้าของทีมค้างคาวที่ถูกแฟนบอลบาเลนเซียวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงการรวมตัวประท้วงเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา 

'ก่อนที่ ปีเตอร์ ลิม จะเข้ารับตำแหน่ง สโมสรไม่มีความมั่นคง' เมอร์ธี่ย์ กล่าวเสริมก่อนย้ำว่า 'เราอยู่ในสถานการณ์นี้ระยะยาวเพื่อเปลี่ยน บาเลนเซีย ให้เป็นสโมสรที่มั่นคงและประสบความสำเร็จ'

'เรายอมรับว่าเราสามารถทำผิดพลาดได้ แต่เราจะทำงานเพื่อนำทางสโมสรเสมอให้กลับมาดีที่สุดอีกครั้ง' 

แน่นอนว่า เมอร์ธี่ย์ พยายามออกหน้ารับแทนเจ้านายโดยชี้แจงถึงปัญหาของสโมสรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่สาวกบาเลนเซียยังพุ่งเป้าไปที่ ปีเตอร์ ลิม ด้วยการรวมตัวประท้วงขับไล่มหาเศรษฐีชาวสิงค์โปร์ในช่วงคืนวันพุธที่ผ่านมา 

ปีเตอร์ ลิม เข้ามาซื้อหุ้นสโมสรบาเลนเซีย 70.4 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2014 ท่ามกลางความคาดหวังของสาวกทีมค้างคาวว่านักธุรกิจที่ร่ำรวยอันดับ 10 ของประเทศสิงค์โปร์ มีทรัพย์สินกว่า 2.5 พ้นล้านดอลล่าร์จะเข้ามาช่วยสโมสรลืมตาอ้าปากอีกครั้งเหมือนเจ้าของทีม แมนฯซิตี้, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง หรือแม้แต่ เชลซี นับตั้งแต่ โรมัน อบราโมวิช เข้ามาซื้อสโมสร 

ทว่าตลอด 6 ปีที่่ผ่านมา ปีเตอร์ ลิม แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นเพียงนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในงานที่ถนัดเท่านั้น เขาไม่ใช่คนที่รักเกมลูกหนังและชื่นชอบฟุตบอลอย่างแท้จริง มันยิ่งเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในช่วงที่สโมสรประสบปัญหาทางการเงินจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 

แต่มหาเศรษฐีชาวสิงค์โปร์วางแนวทางให้สโมสรรัดเข็มขัดทุกวิถีทางและปล่อยนักเตะออกจากทีมมากกว่าการเจียดเงินของตนเองเพื่อช่วยประคับประคองให้สโมสรผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤต

นับตั้งแต่ ปีเตอร์ ลิม เข้าครอบครองสโมสร บาเลนเซีย ทำผลงานดีสุดคือการคว้าอันดับ 4 คว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก 3 ครั้ง เคยดิ้นรนหนีการตกชั้น 2 ฤดูกาลก่อนจบซีซั่นอันดับ 12 ทั้งสองปี ส่วนซีซั่นล่าสุดจากที่เคยคาดหวังถึงการคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนจบอันดับ 9 

6 ปีของ ปีเตอร์ ลิม ใช้เทรนเนอร์รวมกัน 8 คน เขาเข้ามาพร้อมการปลด ฮวน อันโตนิโอ ปิซซี่ ออกจากตำแหน่งก่อนตั้ง นูโน่ เอสปีรีโต ซานโต้ เป็นนายใหญ่คนใหม่ แต่เทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสทำงานราวปีครึ่งก่อนลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับแนวทางการบริหารของสโมสร

จากนั้น บาเลนเซีย เปลี่ยนเทรนเนอร์เป็นว่าเล่นทั้ง แกรี่ เนวิลล์, ปาโก้ อาเยสตาราน, เชซาเร่ ปรันเดลลี่, มาร์เซลีโน่ การ์เซีย โตราล, อัลเบิร์ต เซลาเดส มาจนถึง ฆาเบียร์ กราเซีย ซึ่งยังไม่นับรวม ซัลบาดอร์ กอนซาเลซ 'โบโร่' ที่ถูกดันขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการอีก 4 ครั้งระหว่างการเปลี่ยนแปลงเทรนเนอร์ 

'จุดเปลี่ยน' ที่สร้างความไม่พอใจต่อสาวกบาเลนเซียมากสุดคือการสั่งปลด มาร์เซลีโน่ การ์เซีย โตราล ออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2019 ทั้งที่เทรนเนอร์วัย 54 ปีเพิ่งนำทีมค้างคาวคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ในซีซั่น 2018-2019 ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์แรกในรอบ 11 ปีของสโมสร เนื่องจากมีความคิดเห็นไม่ลงรอยกับ ปีเตอร์ ลิม

ก่อนหน้านี้ คิม ลิม บุตรสาวของ ปีเตอร์ ลิม เคยโพสต์ข้อความลงอินสตาแกรมในช่วงเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมาจนสร้างความหงุดหงิดให้แฟนบอลทีมค้างคาวที่มองว่าครอบครัวเธอเห็นสโมสรเป็นเพียงของเล่นของพวกเศรษฐี 

'ที่นี่อีกครั้ง แฟนบอลบาเลนเซียด่าว่าครอบครัวของฉันและตัวฉัน พวกเขาไม่เข้าใจบ้างเลยหรือ? สโมสรนี้เป็นของพวกเราและพวกเราสามารถทำอะไรก็ได้ที่เราต้องการกับมันและไม่มีใครสามารถพูดอะไรได้' แม้ว่า คิม ลิม จะลบโพสต์ดังกล่าวในเวลาต่อมา ทว่าตามสายตาของสาวกบาเลนเซียนีสต้าถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว

การซื้อขายสโมสรฟุตบอลสามารถทำได้เหมือนธุรกิจทั่วไป แต่สิ่งที่ ครอบครัว ลิม ไม่มีคือความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับสโมสรมากที่สุดนั่นคือแฟนบอล 

เมืองบาเลนเซียมีประชากรราว 2.5 ล้านคนและเกือบทั้งหมดต่างรู้สึกว่าสโมสรบาเลนเซียเป็นของพวกเขาเช่นเดียวกัน 

'โดยทั่วไปแล้ว ความหยิ่งผยองที่ 'เมอริตัน' กลุ่มบริษัทของ ลิม ที่ควบคุมสโมสร มีพฤติกรรมมาถึงจุดที่พวกเขาทำให้แฟนบอลบาเลนเซียรู้สึกอับอาย' กานญีซาเรส กล่าวถึง ปีเตอร์ ลิม 'พวกเขาสร้างความบาดหมางครั้งใหญ่และความโกรธเกรี้ยวในหมู่มวลบาเลนเซียนีสต้าที่ตอนนี้ต้องการให้ 'เมอริตัน' ออกไปจากชีวิตพวกเขา'

'ถ้า เมอริตัน จ้างคนที่มีประสบการณ์และความสามารถมาทำการตัดสินใจด้านกีฬาที่ถูกต้องและให้อิสระพวกเขาอย่างแท้จริง เราสามารถเริ่มต้นสร้างความเชื่อมั่นอีกครั้งว่า บาเลนเซีย จะเป็นสโมสรที่ทุกคนปรารถนาให้เป็น'

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจำเป็นจะต้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่ความสัมพันธ์ระหว่างแฟนบอลกับเจ้าของสโมสรจะพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง ถ้าหาก ปีเตอร์ ลิม ไม่ต้องการปล่อยมือจากสโมสร เขาควรต้องลดทอนอำนาจการควบคุมลงบ้าง แต่มหาเศรษฐีชาวสิงค์โปร์จะยอมทำเช่นนั้นหรือถ้าหากประเมินจากแนวคิดของลูกสาวของเขาก่อนหน้านี้ 

บางที ปีเตอร์ ลิม ควรล้มเลิกความคิดเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลแล้วหันไปโฟกัสในการทำธุรกิจด้านอื่นที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จมากขึ้นน่าจะดีกว่า