ชื่อนี้สำหรับแฟนบอลที่อายุ 30 ปีขึ้นไปคงรู้จักมักคุ้นและเคยเห็นเขาในสมัยที่ยังลงไล่หวดกองหน้าฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะแฟนบอล ลิเวอร์พูล ที่คงจดจำกองหลังรายนี้ได้ชัดเจนแม้ว่าจะอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ไม่นาน
แต่สำหรับในนามทีมชาติแคเมอรูน นี่คือหนึ่งในนักเตะระดับตำนานและกองหลังผู้ที่มีสถิติมากมาย (ทั้งดีและไม่ดี) ในนามทีมชาติ
สำหรับ ซง การได้ลงรับใช้ชาติบ้านเกิดถือเป็นเกียรติประวัติและความภาคภูมิใจอย่างหาอะไรมาเปรียบมิได้
แน่นอนว่าด้วยผลงานและฝีเท้าของเขาทำให้ ซง มีโอกาสลงรับใช้ทีมชาติแคเมอรูนในฟุตบอลโลกมากว่า 4 สมัย และรับใช้ชาติมากกว่า 100 เกม
นับตั้งแต่ประเดิมสนามให้ทีมชาติในวัย 17 ปี ลากยาวไปจนถึงช่วงปลายอาชีพของเขา มาจนวันนี้ได้ผันตนเองให้กลายมาเป็นกุนซือ เราลองมาย้อนอดีตกับความเห็นและความทรงจำของอดีตกองรายนี้ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหลาย 10 ปีที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไรบ้าง ...
ริโกแบร์ ความทรงจำแรกของคุณที่เกี่ยวกับฟุตบอลโลกคืออะไร?
"ฟุตบอลโลกที่ผมได้ดูเป็นครั้งแรกคือปี 1990 และมันเป็นการชมผ่านโทรทัศน์จอขาว-ดำ มีพวกราหลายๆ ที่ต้องเบียดเสียดกับรอบจอเล็กๆ กระตือรือร้นเพื่อไม่ให้พลาดช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่นี้ แน่นอนว่า พวกเกิดความหลงใหลมากกว่าเดิมในตอนที่แคเมอรูนลงสนาม ชัยชนะแต่ละครั้งได้ทำให้เกิดภาพที่ประทับใจ ช่วงเวลาที่ไม่สามารถลืมเลือนได้ เกมที่สร้างความประทับใจให้กับผมได้จริงๆ คือเกมที่ แคเมอรูน พบ อาร์เจนติน่า สำหรับผม นั่นคือหนึ่งในเกมที่คลาสสิค
"ก่อนลงสนาม ในฐานะกองเชียร์เรากลัวสิ่งที่เลวร้ายที่สุดโดยเฉพาะในตอนที่ มาราโดน่า เริ่มเลี้ยงบอลด้วยเท้า, หัว หรือหัวไหล่หลังจากมีการเสี่ยงทายเหรียญกับกัปตันทีมของพวกเรา แม้ว่าจะมีใบแดง 2 ใบ เราเอาชนะจากประตูที่สุดยอดของ โอมาม บียิค - หนึ่งในประตูที่อยู่ในประวัติศาสตร์ มันเป็นเรื่องที่อัศจรรย์กับการได้เห็นว่าคนของเราได้แสดงให้ทั่วโลกเห็นว่าฟุตบอลเป็นสากล นั่นคือตอนที่ผมตระหนักได้ว่าฟุตบอลโลกคืออะไร สิ่งที่ผมผมบอกได้กับทีมนี้? มันยากที่จะเจาะจงไปยังนักเตะแค่คนเดียว เหมือนกับเครื่องจักร จากนั้นพวกเขาเดินเครื่องในเกมที่เหลือ โรเจอร์ มิลลาร์ และประตูของเขา มหัศจรรย์มาก!"
แล้วรู้อย่างไรที่หลังจากนั้นได้ร่วมทีม?
"มันเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีวันจะลืมไปได้ ในตอนที่ผมมีชื่อติดทีมชาติชุดแรก อยู่ร่วมกับคนที่ทำให้ผมเกิดความฝันในปี 1990 ผมคิดว่า 'พระเจ้า ผมอยู่เคียงข้างกับตำนานและมีกำลังจะมีโอกาสลงเล่นฟุตบอลโลก ในตอนอายุ 17ปี!' ผมไม่เคยลืมความสุขสนุกที่ผมรู้สึกในตอนที่ผมลงเล่นฟุตบอลโลกเกมแรก ความฝันในวัยเด็กของผมเป็นจริง และเกิดความทรงจำในชีวิต"
ในปี 1994 โรเจอร์ มิลลาร์ กลายมาเป็นนักเตะที่อายุมากที่สุดที่ทำประตูในฟุตบอลโลก สำหรับคุณแล้ว อะไรคือความพิเศษของเขา?
"ก่อนอื่นเลย อายุไม่สำคัญในเกมฟุตบอล ผมชอบพูดถึงผลงาน ประสบการณ์และความเป็นผู้ใหญ่ ก่อนที่ผมจะทำได้ในฟุตบอลโลกหนนั้น ผมเคยลงเล่นร่วมกับเขาที่สโมสร Tonnerre Kalara ที่ตั้งในกรุงยาอุนเด้ ผมบอกได้เลยว่าการได้ตามประกบเขาในการซ้อมและได้รับคำแนะนำจากเขาทำให้ผมได้เรียนรู้และเติบโตอย่างรวดเร็ว เขาไม่ต้องวิ่งมากนักเพื่อสร้างผลกระทบในเกม เขามีการยืนตำแหน่งที่ยอดเยี่ยม ประสบการณ์และการเติบโตของเขาสร้างความแตกต่างอยู่เสมอ สำหรับผมแล้ว โรเจอร์ มิลลาร์ นอกจากการเป็นผู้นำในฐานะหนึ่งในนักเตะอาวุโสของทีม ยังเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม ผมชื่นชมและเคารพเขาอย่างมาก"
แล้วควาทรงจำในฟุตบอลโลกหนที่สองของคุณในปี 1998 คืออะไร?
"เกมดวลกับ ชิลี ที่ น็องต์ มันรู้สึกเหมือนกับว่าโอกาสเข้ารอบน็อกเอาท์ของพวกเราหลุดมือไป มีความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากใบแดงและถูกปฏิเสธการได้ประตู แน่นอนว่ามันสร้างบาดแผลให้กับคุณ ในความเป็นจริงที่ตระหนักได้คือเราโยนโอกาสทิ้งไปในเกมดวลกับ ออสเตรีย เรานำ 1-0 แต่กลับมาพลาดในช่วงไม่กี่วินาทีเพราะแนวรับเสียสมาธิ"
ช่วยอธิบายสองใบเหลืองของคุณที่เกิดขึ้นในเกมดวลชิลีหน่อยหลังจากที่คุณเคยโดนไล่ออกมาแล้วในฟุตบอลโลกก่อนหน้านั้น?
"อย่างที่คุณทราบ ในตอนที่ผมอยู่ในสนาม ผมเป็นคนที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ผมต้องการเอาชนะ และในตอนที่ผมลงเล่นให้ทีมชาติบ้านเกิด ผมทุ่มเทเต็มที่ วันนั้น ผมตอบสนองได้แย่มากกับอารมณ์เดือดในตอนนั้น - บางทีอาจจะถูกกระตุ้นด้วยการตัดสินที่ไม่ยุติธรรมที่เราได้รับ"
คุณครองสถิตินักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่โดนไล่ออกในฟุตบอลโลก และเป็นนักเตะคนเดียวที่ร่วมกับ (ซีเนดีน) ซีดาน ที่ได้ใบแดงในฟุตบอลโลก 2 ครั้ง เมื่อมองย้อนกลับไป คุณคิดอย่างไรกับสถิติดังกล่าว?
"ผมคิดว่ามันเป็นผลมาจากการที่ผมยังเป็นหนุ่ม ผมถูกไล่ออกในการลงเล่นฟุตบอลโลก 2 ครั้งแรก หลังจากนั้น ผมเรียนรู้จากบทเรียนของตนเอง (หัวเราะ) ในปี 2002 ผมไม่โดนไล่ออก เช่นเดียวกับปี 2010 แม้ว่าผมจะลงเล่นน้อยกว่าเดิมในครั้งหลัง"
ความทรงจำที่แจ่มชัดในฟุตบอลโลก 2002 และ 2010 ของคุณคืออะไร?
"ฟุตบอลโลกสองครั้งนี้น่าผิดหวัง เพราะผมคิดว่าทั้งสองชุดมีศักยภาพที่จะประสบความสำเร็จในบางสิ่ง ความผิดพลาดทางเทคนิคแค่นิดเดียวและขาดสมาธิ ยังรวมไปถึงข้อตำหนิเล็กๆ น้อยๆ จากการบริหารงายภายในของพวกเรา ส่งผลเสียหายอย่างมาก ฟุตบอลในระดับสูงมักจะตัดสินด้วยรายละเอียดเหล่านั้น"
ตั้งแต่อิตาลี 1990 แคเมอรูน ตกรอบแรกในรอบสุดท้ายมา 4 ครั้ง แล้วเราจะได้เห็นทีมที่ทำได้เหมือนปี 1990 อีกครั้งหรือไม่?
"เป็นไปไม่ได้ที่จะทำได้แบบเดียวกับรุ่น 1990 จะต้องทำงานอย่างหนักและขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย การเตรียมการที่ดี นักเตะที่ก้าวไปถึงระดับสูง ประสบการณ์และโชคช่วย นั่นคือปัจจัยที่นำมาใช้ได้กับทุกๆ ทีมในแอฟริกา ตั้งแต่รุ่น 1990 ของพวกเรา มีเพียงสองชาติจากแอฟริกาที่ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลก ทวีปเต็มไปด้วยนักเตะพรสวรรค์ แต่อย่างที่ผมพูดไป การก้าวผ่านสถิตินี้ พรสวรรค์อย่างเดียวไม่พอ แต่ผมเชื่อว่าในเร็วๆ นี้ชาติจากแอริกาจะสามารถทำได้และผ่านทีมชุด 1990 ผมหวังว่าแคเมอรูนจะทำได้เป็นชาติแรก"
คุณวางแคเมอรูนชุดปัจจุบันไว้ในระดับใด?
"ทีมแคเรอรูนตอนนี้เป็นทีมที่ดีที่ยังสามารถพัฒนาต่อไปได้ มันคือทีมที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่าย พวกเขามีนักเตะที่มีโอกาสลงสนามให้สโมสรมากกว่าเดิม บางคนในทีมกำลังลงเล่นในรายการฟุตบอลยุโรป นั่นเป็นสิ่งที่ดีและจะทำให้โค้ชมีกลุ่มนักเตะที่พยายามแข่งขันกัน นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มนักเตะที่ก้าวมาจากชุดยู-23 และทีมเอ ซึ่งโค้ชสามารถเรียกมาใช้งานตอนไหนก็ได้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทีม ทีมปัจจุบันกำลังพัฒนาและถ้านักเตะสามารถลงเล่นร่วมกันได้มากพอ จากนั้นพวกเขาจะทำหลายๆ สิ่งแบบอัตโนมัติและแข็งแกร่งกว่าเดิม"
แคเมอรูน ต้องเจอกลุ่มแข็งในรอบคัดเลือกรอบ 3 ของฟุตบอลโลก 2020ช2 โซนแอฟริกา คุณมั่นใจหรือไม่ว่าพวกเขาจะผ่านไปเล่นรอบสุดท้ายที่กาตาร์?
"ฟุตบอลมีเรื่องราวมากมายที่เกี่ยวข้อง แม้แต่ทีมทีอันดับต่ำกว่า มีความแตกต่างเล็กน้อย ชาติเล็กๆ ไม่มีอยู่อีกต่อไป ทุกๆ ทีมมีความฝันที่จะลงเล่นฟุตบอลโลกและจะทำทุกๆ ทางที่จะไปอยู่จุดนั้น แคเมอรูน ต้องไปฟุตบอลโลก ผมไม่เคยสงสัยเลยว่าทีมจะทำได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องยากและการผ่านรอบที่ 3 ไปเป็นเรื่องที่ยากกว่า แต่นั่นคือโอกาสในการผ่านไปเล่นรอบสุดท้าย เราต้องเสียสละอย่างเต็มที่เพื่อเข้ารอบ แคเมอรูนเป็นทีมที่ดีและผมเชื่อว่าพวกเขาจะไปเล่นที่ กาตาร์ ในปี 2022"
ช่วงเวลาที่คุณภาคภูมิใจมากที่สุดในอาชีพของคุณ?
"ผมภูมิใจกับความจริงที่ว่าผมมีส่วนร่วมกับฟุตบอลโลกถึง 4 สมัย ผมรู้ว่านักเตะส่วนใหญ่จะทุ่มเทเต็มที่เพื่อมีโอกาสลงเล่นได้สักครั้ง สำหรับผม ฟุตบอลโลกเป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ผมภูมิใจที่มีโอกาสลงสนามในฟุตบอลโลกให้กับทีมชาติถึง 4 สมัย ต้องขอบคุณฟุตบอลโลกที่ทำให้ผมมีโอกาสลงเล่นเกมอาชีพในยุโรปและมีเส้นทางอาชีพอย่างที่ผมทราบ"
