:::     :::

ลิเวอร์พูล กับไนกี้ การจับมือด้านลูกหนัง

วันอังคารที่ 18 สิงหาคม 2563 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,961
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เปิดตัวกับแบรนด์ใหม่อย่างเป็นทางการไปแล้ว

สำหรับลิเวอร์พูลยอดทีมจากเกาะอังกฤษ ที่จับมือกับแบรนด์ระดับโลกอย่างไนกี้ที่เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนทีม ถือเป็นการแทนที่ของแบรนด์เดิมอย่างนิว บาลานซ์แน่นอนว่า กว่าที่จะได้ข้อสรุป ทั้งสามฝ่ายอย่าง ลิเวอร์พูล, ไนกี้ และนิว บาลานซ์ ต้องถึงขั้นไปชี้ขาดกันในชั้นศาลเลยทีเดียว


ส่วนหนึ่งที่สโมสรลิเวอร์พูล หันมาเลือกใช้แบรนด์ไนกี้ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ส่วนหนึ่งมาจากอนาคตที่สดใส โดยเฉพาะในส่วนของเม็ดเงินสนับสนุน โดยประเด็นนี้ สื่อดังจากต่างประเทศอย่างเดลี่ เมลออกมารายงานข่าวว่า ลิเวอร์พูล เตรียมรับเงินกินเปล่าจากไนกี้ ตกปีละประมาณ 30 ล้านปอนด์ กระนั้น เมื่อรวมค่าส่วนแบ่ง และสิทธิพิเศษต่างๆ ตัวเลขอาจพุ่งสูงถึง 80 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาลเลยทีเดียว


แน่นอนว่า ในตัวเลข 80 ล้านปอนด์ต่อปี ที่ลิเวอร์พูล เตรียมรับจากไนกี้ ส่งผลให้พวกเขากลายเป็นสโมสรที่ได้รับเงินจากแบรนด์กีฬามากที่สุด เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยจะเป็นรองเพียงแค่เรอัล มาดริด ที่รับจากอาดิดาส ที่ 110 ล้านปอนด์ต่อปี และบาร์เซโลน่า ที่ได้รับจากไนกี้ 100 ล้านปอนด์ต่อปี 


หากเจาะลึกกว่านั้น ลิเวอร์พูล ได้มากกว่าคู่ปรับร่วมพรีเมียร์ลีกอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่รับจากอาดิดาส 75 ล้านปอนด์ต่อปี ไล่หลังมาด้วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่รับจากพูม่า 65 ล้านปอนด์ต่อปี, อาร์เซน่อล ที่รับจากอาดิดาส 60 ล้านปอนด์ต่อปี และเชลซี ที่ได้รับจากไนกี้ 60 ล้านปอนด์ต่อปี 

ย้อนกลับไปช่วงระหว่างปี 2006 - 2015 ลิเวอร์พูล ถือว่าเข้าสู่ช่วงตกต่ำอย่างแท้จริง เมื่อผลงานในสนามของพวกเขาไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้ยอดขายเสื้อ และการตลาดตกไปด้วย เป็นเหตุผลว่า ทำไมแบรนด์ชื่อดังอย่างอาดิดาส ที่สนับสนุนทีมในช่วงปี 2006 - 2012 ต้องถอนสมอออกไป ส่วนหนึ่งเป็นเพราะค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ผสมกับความเสี่ยงเรื่องผลงาน


ขณะที่แบรนด์หลังจากนั้นอย่างวอริเออร์ ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไร ระหว่างนั้น ลิเวอร์พูล คว้าโทรฟี่แชมป์มาครองน้อยมาก กระทั่งปี 2015 นิว บาลานซ์ ตัดสินใจกระโดดเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนของลิเวอร์พูล โดยถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เพราะหลังจากนั้น ลิเวอร์พูล ทะลุเข้าไปชิงบอลถ้วยหลายหน กระทั่งประสบความสำเร็จสุดขีด ด้วยการคว้าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยที่ 6 


เมื่อผลงานดี ยอดขายเสื้อย่อมดีขึ้นตามไปด้วย ย้อนกลับไปเมื่อปี 2019 รายงานจากทางเดลี่ เมลระบุว่า ตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา สโมสรลิเวอร์พูล มียอดขายเสื้อแข่งเฉลี่ยปีละ 1.1 ล้านตัวเลยทีเดียว นอกจากนี้ ภายใต้แบรนด์นิว บาลานซ์ เกิดการทำลายสถิติยอดขายของลิเวอร์พูล 2 ครั้งด้วยกัน 

ช่วงเวลาที่ผ่านมา นิว บาลานซ์ พยายามยื่นข้อเสนอต่อสัญญากับพลพรรคหงส์แดงมาตลอด เพราะสัญญาจะหมดลงหลังจบฤดูกาล 2019-20 ทว่าระหว่างทาง ไนกี้ กระโดดเข้ามาทาบทามเช่นเดียวกัน นิว บาลานซ์ จึงอาศัยรายละเอียดที่ใส่ลงไปในสัญญาว่า พวกเขามีสิทธิยื่นข้อเสนอเทียบเท่ากับที่คู่แข่งรายใหม่ยื่นเข้ามา เพื่อเป็นการให้ลิเวอร์พูล ได้พิจารณา และยังเป็นการตีกันคู่แข่งไปในตัว


อย่างไรก็ตาม ศาลพิจารณาให้ไนกี้ และลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายชนะ เพราะมองว่า ไนกี้ มอบค่าตอบแทนด้วยเม็ดเงินที่ให้มากกว่า นอกจากนี้ ไนกี้ ยังหลุดจากช่องโหว่ที่นิว บาลานซ์ ทำเอาไว้ เพราะมอบเงินให้มากกว่า ไม่ใช่เทียบเท่าตามที่แบรนด์เดิมได้เคยลงรายละเอียดเอาไว้ นี่จึงเป็นที่มาของการเซ็นสัญญาครั้งประวัติศาสตร์นี้


สำหรับสิทธิ และผลประโยชน์ที่ไนกี้ มอบให้กับทางลิเวอร์พูล นอกเหนือไปจากรายได้ จากการขายเสื้อ และสินค้าประเภทต่างๆ เรื่องของการตลาด และบริการหลังการขาย ก็เป็นสิ่งที่ไนกี้ มอบให้กับยอดทีมจากถิ่นเมอร์ซี่ย์ไซด์ เช่นเดียวกัน 


นอกจากลิเวอร์พูล จะได้รับเงินกินเปล่าเป็นค่าลิขสิทธิ์ ไม่รวมค่าพิเศษอื่นๆ เป็นจำนวน 30 ล้านปอนด์ต่อปีแล้ว พวกเขาจะยังได้รับส่วนแบ่งอีกราว 20 เปอร์เซนต์ จากสินค้าทุกชนิดภายใต้แบรนด์ไนกี้ ที่ออกจำหน่ายทั่วโลก  ยกเว้นรองเท้าที่ออกมาเป็นแบบลิมิเต็ท อิดิชั่น ที่จะได้รับส่วนแบ่ง 5 เปอร์เซนต์ แต่ก็ถือว่าเป็นจำนวนที่มากอยู่ดี 

ลิเวอร์พูล ยังถูกนำไป Collab กับแบรนด์กีฬาที่แข็งแกร่งของทางไนกี้ อาทิ การข้ามไปร่วมมือกับศึกบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ และอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล ซึ่งเราจะได้เห็นตัวอย่างที่เด่นชัด จากการที่เปแอสเช สโมสรชื่อดังจากฝรั่งเศส ที่ข้ามสายไปร่วมมือกับแอร์ จอร์แดนจนประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายมาแล้ว


ส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายนั้น สินค้าของลิเวอร์พูล จะถูกนำไปวางขายในร้านไนกี้ ทั่วทุกมุมโลก ที่มีมากกว่า 6,000 แห่งเลยทีเดียว ซึ่งมากกว่านิว บาลานซ์ เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีฐานสั่งซื้อเป็นจำนวนมากถึง 51 ประเทศทั่วโลก ที่สามารถสั่งซื้อสิ้นค้าลิเวอร์พูล ภายใต้แบรนด์ไนกี้ ผ่านช่องทางออนไลน์อย่างไนกี้ ดอท คอม 


ปิดท้ายที่ไนกี้ จะใช้นักกีฬาระดับโลก และเซเลบในวงการบันเทิง ไม่ต่ำกว่า 3 คน โดยมาช่วยโปรโมทแบรนด์ของสโมสรลิเวอร์พูล ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ผ่านการโปรโมททางโซเชี่ยล มีเดีย ของแต่ละคน โดยยกตัวอย่างเช่น เลอบรอน เจมส์ ซูเปอร์สตาร์จากวงการยัดห่วง, เซเรน่า วิลเลี่ยม ดาวเด่นจากวงการเทนนิส หรือ เดรค นักร้องดังจากวงการเพลง

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด