เชื่อว่าแฟนบอลแดนน้ำหอมกำลังตั้งตารอคอยเพราะประเดิมคู่แรกวันศุกร์ที่ 21 สิงหาคมนี้ก็เป็นดาร์บี้แมตช์แอตแลนติกระหว่าง บอร์กโดซ์ ปะทะ น็องต์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเกมใหญ่ของลีก

ก่อนจะไปถึงตรงนั้น เราขอแนะนำ 5 แข้งรายใหม่ที่กำลังจะได้ประเดิมสนามในลีก เอิง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างผลกระทบที่ยอดเยี่ยมให้กับต้นสังกัด และมีโอกาสที่จะประกาศศักดาให้แฟนๆ ได้เห็นในเร็วๆ นี้ ... 

1. โจนาธาน เดวิส

สโมสร: ลีลล์

ย้ายจาก: เกนท์

ตำแหน่ง: กองหน้า

อายุ: 20 ปี

ทีมชาติ: แคนาดา (12 นัด/ 11 ประตู)

เกิดและเติบโตใน บรู๊คลิน กรุงนิวยอร์ก โดยพ่อแม่ชาวเฮติ ก่อนจะโยกไปฝึกฝีเท้าด้านฟุตบอลในออตตาวา เนื่องจากครอบครัวต้องโยกถิ่นฐานไปแคนาดา

แต่ที่นั่นเหมือนกับเป็นบัญชาจากสวรรค์ เพราะเขาได้มีโอกาสลงเล่นฟุตบอลตามความใฝ่ฝันของเขาที่หลงใหลเกมลูกหนังอย่างมาก และหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีโอกาสเดินทางไปลงเล่นอาชีพที่ยุโรป

ความฝันของ เดวิส เกิดขึ้นรวดเร็วอย่างมากหลังจากแมวมองไปพบและประทับใจผลงานก่อนจะส่งเรื่องไปให้ทีมในยุโรปพิจารณา ซึ่งท้ายที่สุด เกนท์ สโมสรในเบลเยียมจัดการคว้าตัวไปครอง ในปี 2018

พัฒนาของ เดวิส ถือว่ารุดหน้าและเติบโตอย่างรวดเร็วเพราะระยะเวลา 2 ปีหลังจากนั้นเขาพัฒนาผลงานและฝีเท้าจนกลายมาเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามอง ถึงขนาดหลายๆ สโมสรในยุโรปอยากได้ไปครอง

ท้ายที่สุด ลีลล์ เป็นทีมที่เอาชนะทีมใหญ่และได้ตัว เดวิส ไปครอบครอง โดยการเดินทางหลังจากนี้ถือเป็นการยกระดับและเป็นบทพิสูจน์ในลีกที่ใหญ่กว่าเดิม รวมไปถึงความคาดหวังที่ใหญ่กว่าที่ผ่านมา

ผลงาน 30 ประตูจาก 60 เกมที่ลงสนามให้ เกนท์ อาจจะดูดีและเป็นสัญญาณบวก โดยเฉพาะฤดูกาลที่ผ่านมากับผลงาน 18 ประตู และ 8 แอสซิสต์ แต่นั่นกลับไม่มีความหมายเมื่อเขาต้องลงเล่นในแดนน้ำหอม ซึ่งมีความกดดันมากกว่าลีก เบลเยียม

กระนั้น ... มันคือกำแพงที่ เดวิส ต้องการก้าวข้ามไปให้เพราะยังคงมีเวทีใหญ่กว่ารอให้เขาเดินทางไปสัมผัสในอนาคต

2. เลโอนาร์โด้ บาเลร์ดี้

สโมสร: โอลิมปิก มาร์กเซย

ย้ายจาก: โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ตำแหน่ง: กองหลังตัวกลาง

อายุ: 21 ปี

ทีมชาติ: อาร์เจนติน่า (2 นัด)

หนึ่งในกองหลังที่ถูกจับตามองมากที่สุดในอาร์เจนติน่า โดย บาเลร์ดี้ ตัดสินใจย้ายจาก โบคา จูเนียร์ส ไปร่วมทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อหน้าร้อนปี 2019 แต่กลับเจอการแข่งขันที่สูงและไม่มีโอกาสลงสนามเท่าที่ควร

แม้โอกาสในถิ่น ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค จะน้อยนิด แต่ผลงานของเขายังคงไปเข้าตา ลีโอเนล สกาโลนี่ ที่เรียกตัวไปติดทีมชาติใหญ่อาร์เจนติน่าชุดใหญ่เรียบร้อย ซึ่งผลงานของเขายังถือว่ายอดเยี่ยมจนเป็นที่จับตามอง

ด้วยส่วนสูงเกือบ 190 เซนติเมตร แต่ บาเลร์ดี้ เล่นบอลบนพื้นได้ดีตามทักษะและจุดเด่นของแข้งละติน และที่สำคัญยามที่เขาลงสนามให้ ดอร์ทมุนด์ พลพรรคเสือเหลืองกลับพาทีมเก็บ 'คลีน ชีต' ได้ 5 จากเกม 7

นั่นจึงทำให้ โอแอ็ม มองเห็นความสำคัญและจัดการดึง บาเลร์ดี้ มาร่วมทีมแบบยืมตัว ซึ่งเชื่อว่ากองหลังชาวอาร์เจนไตน์รายนี้จะกลายมาเป็นหนึ่งในขุนพลหลักของ อันเดร วิลลาช-โบอาช อย่างแน่นอน

3. มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน 

สโมสร: นีซ

ย้ายจาก: เอฟเวอร์ตัน

ตำแหน่ง: กองกลางตัวรับ

อายุ: 30 ปี

ทีมชาติ: ฝรั่งเศส (15 นัด)

ช่วงชีวิตในวงการฟุตบอลของ ชไนเดอร์ลิน มีทั้งขึ้นและลง ซึ่งหาจะพูดถึงช่วงเวลาในตอนนี้คงหนีไม่พ้นการกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในดินแดนบ้านเกิดฝรั่งเศศ

หลังจากไปโลดแล่นในอังกฤษถึง 12 ปี ผ่านร้อนหนาวกับทีมเล็กทีมใหญ่มามากมายไม่ว่าจะเป็น เซาธ์แฮมป์ตัน, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ เอฟเวอร์ตัน แต่ดูเหมือนว่าอดีตกองกลางที่ถูกคาดหวังจะไปไม่สุดเส้นทางที่หวังไว้

อย่างไรก็ตาม นีซ มองเห็นคุณค่า โดยเฉพาะ ปาทริค วิเอร่าที่ส่งเรื่องให้สโมสรจัดการดึงมิดฟิลด์เลือดน้ำหอมรายนี้มาร่วมทีม โดยหวังว่าจะใช้ประสบการณ์และฝีเท้าให้เข้ามาบัญชาการเกมกลางสนาม

ด้วยการที่ นีซ หันนโยบายมาใช้งานเด็กๆ จากทีมเยาวชนมากขึ้นในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา จึงช่วยไม่ได้ที่การเสริมทีมในแตละครั้งเราจะเห็นบรรดาแข้งมากประสบการณ์ 1-2 รายวนเวียนเข้ามาในถิ่น อัลลิอันซ์ ริเวียร่า

หนนี้คือโอกาสของ ชไนเดอร์ลิน ที่จะได้แสดงผลงานในสนามอีกครั้ง และเชื่อว่าด้วยการที่กุนซือคือ วิเอร่า อดีตกองกลางพันธุ์ดุ เขาคงจะมีอะไรแนะนำและสั่งสอนลูกทีมรายใหม่ให้งัดศักยภาพออกมาอีกครั้ง

4. วาลอน เบรีชา

สโมสร: แร็งส์

ย้ายจาก: ลาซิโอ

ตำแหน่ง: มิดฟิลด์ทางซ้าย

อายุ: 27 ปี

ทีมชาติ: โคโซโว  (20 นัด / 3 ประตู) / นอร์เวย์ (20นัด)

แม้จะไม่ใช่กองกลางระดับโลกหรือชื่อที่แฟนบอลทุกคนจะรู้จัก แต่สำหรับ วาลอน เบรีชา ถือว่าเป็นชื่อที่แฟนบอลในยุโรปรู้จัก และถือเป็นนักเตะมากประสบการณ์คนหนึ่งที่เคยลงเล่นในลีกใหญ่ๆ มาก่อน

เริ่มต้นจากปีกซ้ายในทีมซัลซ์บวร์ก ก่อนจะพัฒนาผลงาน (31 ประตูจาก 165 เกม) จนถูก ลาซิโอดึงตัวไปร่วมทีมเมื่อปี 2018 แม้ว่าการเดินทางไปกรุงโรมจะไม่เป็นตามที่คาดหวังและถูก ดุสเซลดอร์ฟ ยืมไปใช้งาน กระนั้นการเดินทางครั้งใหม่ของเขาได้เริ่มต้นอีกครั้ง

แร็งส์ ที่เพิ่งกลับไปเล่นในบอลยุโรปรอบเกือบ 70 ปี ทำให้พวกเขาต้องจัดการเสริมทีม และบอร์ดบริหารมองว่า เบรีชา คือตัวเลือกที่เหมาะสม

ตำแหน่งเดิมอาจจะเป็นตัวรุกทางซ้ายแต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาสามารถปรับเปลี่ยนการเล่นจนกลายมาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง หรือแม้แต่กองกลางตัวรับได้ตามแต่ที่ทีมต้องการ

ถือเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย เพราะนักเตะต้องการชุบชีวิตเส้นทางอาชีพของตนเองอีกครั้ง และนอกจากนั้น แร็งส์ ยังคงต้องการประสบการณ์ของแข้งทีมชาติโคโซโว ที่เชื่อว่าทั้งสองพร้อมตอบแทนกันและกันอย่างแน่นอน

5. อันเดรส กูบาส

สโมสร: นีมส์

ย้ายจาก: ตาเยเรส

ตำแหน่ง: กองกลางตัวรับ

อายุ: 24 ปี

ทีมชาติ: ปารากวัย (1 นัด) / อาร์เจนติน่า ยู-20 

ทีมตราจระเข้รอดตกชั้นจากฤดูกาลที่ผ่านมาแบบหวุดหวิด ส่งผลให้พวกเขาต้องมองหาการเสริมทีมโดยเฉพาะกองกลางตัวรับซึ่งเป็นตำแหน่งที่ขาดหายไป

ด้วยปัญหานักเตะบาดเจ็บที่สลับหมุนเวียนการหายหน้า จนกุนซือของทีมอย่าง ดาวิด กียง ต้องทำการตัดแต่งนักเตะที่ไม่ใช่กองกลางตัวรับไปทำหน้าที่ ส่งผลให้การตัดเกมขาดประสิทธิภาพอย่างมาก

อันเดรส กูบาส จึงถูกดึงมาด้วยเหตุนี้ แม้ว่าส่วนสูงจะไม่ถึง 170 เซนติเมตร แต่จุดเด่นของมิดฟิลด์ร่างเล็กรายนี้คือการแย่งบอลและกัดฝ่ายตรงข้ามไม่ปล่อย

สิ่งที่เข้ามาทดแทนร่างกายของเขาคือความอึด แข็งแกร่ง หัวจิตหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ และที่สำคัญเขาพร้อมทำงานสกปรกเพื่อให้ทีมได้ประโยชน์

ว่ากันว่าการเล่นของ กูบาส ไม่ต่างจาก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ นีมส์ หวังว่ากองกลางชาวปารากวัยจะแสดงผลงานได้ทันทีเมื่อฤดูกาลใหม่ของเวที ลีก เอิง เริ่มต้น