:::     :::

เหตุอำลา หลุยส์ ซัวเรซ

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หนึ่งในเรื่องช็อคความรู้สึกแฟนบาร์ซ่าคือการที่ โรนัลด์ คูมันน์ ตัด หลุยส์ ซัวเรซ ออกจากทีม ซึ่งด้วยเป้าหมายที่วางไว้ รวมถึงสถานการณ์หลายๆอย่างทำให้ไม่มีทางเลือก

โรนัลด์ คูมันน์ เริ่มบันไดขั้นที่ 2 ในงานของตัวเองแล้วนะครับ หลังจากขั้นแรก นั่งเจราจาโน้วน้าวให้ ลิโอเนล เมสซี่ อยู่กับทีมต่อไป 

แม้จะยังไม่ทราบผลการตัดสินใจที่แน่ชัดของ 'el d10s' แต่กุนซือฮอลแลนด์ก็ไม่รั้งรอที่จะเดินหน้างานลำดับต่อไป 


บันไดขั้นที่ 2 ของโปรเจคต์ 'คืนสู่ความยิ่งใหญ่' คูมันน์ ใช้อำนาจเต็มที่ได้จาก โจเซป บาร์โตเมว คัดสรรนักเตะที่ตัวเองต้องการและไม่ต้องการ ซึ่งจากเหตุการณ์ล่าสุด ก็เล่นเอาสั่นสะเทือนอยู่ไม่น้อย เพราะ คูมันน์ เลือกที่จะจัดการกับบิ๊กเนมอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ก่อนเลย 

กุนซือวัย 57 ใช้เวลาแค่ 1 นาทีเท่านั้น ยกหูโทรไปหัวหอกอุรุกวาโย่แล้วบอกตรงๆว่า "คุณไม่อยู่ในแผนการทำทีมฤดูกาลหน้า"

ซัวเรซ รู้สถานการณ์ของตัวเองดีอยู่แล้ว เขารับฟัง ไม่ขอคำอธิบายเพิ่มเติม เขาไม่ต้องการเป็นตัวปัญหา หรือสร้างข้อถกเถียงเพื่อทำร้ายทีม ก่อนรับคำว่าจะจากไป 


ขั้นตอนต่อจากนี้ เป็นหน้าที่ของทนายของสองฝ่ายที่จะต้องมาเจราจาหาข้อตกลงกัน ในการคิดคำนวนเรื่องเงินๆทองๆ เพราะ ซัวเรซ เหลือสัญญากับทีมอีก 1 ปีพร้อมอ๊อปชั่นต่อเพิ่มอีก 1 ปี เมื่อมีการยกเลิกสัญญาจะต้องมีการจ่ายเงินเพิ่มเติม ซึ่งรูปแบบก็อยู่ที่ตกลงกันว่าเท่าไหร่และอย่างไร 

กรณีของ หลุยส์ ซัวเรซ หากตัดเรื่องดราม่ากรณีถูกสโมสรปฏิบัติอย่างไม่ให้เกียรติทิ้งไป และว่ากันที่เรื่องของฟุตบอลล้วนๆ ก็มีจำนวนไม่น้อยที่มองว่าเขายังมีศักยภาพมากพอที่จะช่วยหลือทีมได้

ในวัย 34 ปี จากการลงสนาม 283  เกม  ซัวเรซ ทำสถิติยิงไปแล้ว 198 ประตู ได้รับบันทึกว่าเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลอันดับ 3 ของสโมสร ไม่เพียงเท่านั้นยังทำไปอีก 97 แอสซิสต์  


หรือถ้าแยกย่อยเฉพาะฤดูกาลนี้ เจ้าตัวลงสนาม 36 นัด ยิง 11 กับอีก 11 แอสซิสต์ซึ่งยังถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพึงพอใจอยู่ ซึ่งหากมองว่าถอยไปรับบทบาทตัวซัพพอร์ต ก็ยังดูว่า บาร์ซ่า จะมีขุมกำลังที่ดูดีอยู่ไม่น้อย 

จินตนาการกันว่า เลาตาโร่ ตัวหลัก...เผื่อเหลือเผื่อขาดมี ซัวเรซ ลงไปกู้สถานการณ์ ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรเสียหายตรงไหน 

อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่การเงิน และแผนการสร้างทีมใหม่ที่ คูมันน์ วางไว้ การคงอยู่ของ ซัวเรซ ถือได้ว่าเป็นอุปสรรคต่องานที่ว่า 

นอกจาก เลาตาโร่ มาร์ติเนซ แล้ว คูมันน์ ยังต้องการนักเตะใหม่เข้ามาสู่ทีม ซึ่งตามข่าวที่ออกมาเขาเล็งไปที่ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งค่าตัวอยู่ราวๆ 55 ล้านยูโร 


ลำพังค่าตัว ฟาน เดอ เบค บาร์เซโลน่า ก็แย่แล้ว ไหนยังจะค่าเหนื่อยที่จะต้องรับเป็นภาระในระยะยาวอีก (สัญญาไม่น่าจะต่ำกว่า 4-5 ปี) ซึ่งด้วยภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ สโมสรมีความจำเป็นที่จะต้องลดรายจ่ายลงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้  

 671 ล้านยูโร คืองบประมาณของสโมสรในปีที่ผ่านมา ซึ่ง 70% เป็นค่าเหนื่อยของนักเตะภายในทีม คิดออกมาเบ็ดเสร็จตัวเลขอยู่ที่ 469.7 ล้านยูโร 


ตัวเลขนี้เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ของสโมสรแล้วถือว่าชนเพดานที่กฏไฟแนนซ์เชี่ยล แฟร์เพลย์ (FFP) อนุญาตให้เกิดขึ้นได้   

เลโอ เมสซี่ รับอยู่ที่ 39 ล้านยูโร ตรงส่วนนี้ไม่อาจแตะต้องได้อยู่แล้ว (ยกเว้นเสียแต่ว่า เมสซี่ จะย้ายออกไปเอง) ส่วน อองตวน กริซมันน์ ซึ่ง คูมันน์ ต้องการเก็บไว้ใช้งานค่าเหนื่อยเกือบๆ 15 ล้านยูโรต่อปี


ปัจจุบัน ซัวเรซ รับค่าเหนื่อยกับ บาร์เซโลน่า อยู่ที่ 15 ล้านยูโร ถือเป็นนักเตะที่มีค่าเหนื่อยสูงสุดอันดับ 2 ของสโมสร ซึ่งหากว่า คูมันน์ ไม่ต้องการใช้งานเขาแล้ว แต่เก็บไว้ใช้งานในฐานะตัวสำรอง ก็ดูว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเกินเหตุ

ข้อเปรียบเทียบที่ชัดเจน เลาตาโร่ เมื่อย้ายมา จะรับค่าเหนื่อยที่ปีละ 5 ล้านยูโร และเขาคือกองหน้าตัวจริงของทีม ขณะที่สำรองลงบ้างไม่ลงบ้างในวัย 34 ของ ซัวเรซ รับค่าเหนื่อย 15 ล้าน 


มองตัวเลขกับสเตตัสแล้วก็ดูจะไม่สมเหตุสมผลซักเท่าไหร่ อีกทั้งก็ยังจะเกินลิมิตกฏ FFP ของ ยูเอฟ่า อีกด้วย 

นอกจากนี้แล้ว เงินค่าจ้างของ ซัวเรซ ที่หายไปจากการยกเลิกสัญญา บาร์ซ่า ยังสามารถนำไปเกลี่ยจ่ายให้กับนักเตะใหม่ที่จะถูกดึงเข้ามาในอนคตอันใกล้ได้อีก อาทิเช่น ฟาน เดอ เบค หรือแม้กระทั่ง จอร์จินโญ่ ไวนัลดุม ที่กำลังมีข่าวพัวพันกัน

อีกเหตุผลนึงที่ไม่มีการระบุอย่างชัดเจน แต่ก็มีความเป็นไปได้อยู่ไม่น้อย เชื่อกันว่าการที่ คูมันน์ ต้องการให้ ซัวเรซ ย้ายออกไปจากทีมนั้น ก็เพราะว่าอดีตดาวยิงลิเวอร์พูลมีอิทธิพลในห้องแต่งตัวมากเกินไป และคงยากามากแน่ๆที่จะบรรลุเป้าหมาย หากว่า คูมันน์ ไม่สามารถควบคุมห้องแต่งตัวเอาไว้ในมือ 


ทั้งนี้ ประเด็นการตัด ซัวเรซ ออกจากทีม หลายคนมองว่าอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของ เมสซี่ อาจทำให้หัวหอกอาร์เจนไตร์ที่กำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจ เลือกย้ายออกจากสโมสร อันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทุกคนอยากเห็น

เมสซี่ เป็นมืออาชีพ ไม่ว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร ย่อมไม่ควรเอากรณีของ ซัวเรซ มาเป็นหนึ่งในเงื่อนไข แต่ถ้าหากว่าการจากไปของเพื่อนรักจะมีอิทธิพลสูงถึงขั้นนั้น ก็คงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เช่นกัน เนื่องด้วยสถานการณ์เวลานี้ไม่มีทางให้เลือกมากนักเช่นกัน 

เมื่อเครื่องจักรถูกเปิดสวิตช์แล้วก็ยากที่จะหยุด การตัด ซัวเรซ ออกจากทีมก็คือแนวทางที่ คูมันน์ ตั้งใจไว้แล้ว และเขาก็คือคนรับผิดชอบการกระทำนี้ เพราะหากพาทีมกลับมาไม่ได้ตามเป้าหมาย ก็ไม่แคล้วโดนประธานสโมสรคนใหม่เชือดทิ้งเป็นแน่ 


งานนี้ จึงต้องวัดกันให้เด็ดขาด ขืนลังเลร่ำไร อาจส่งผลเสียในภายหน้า เพียงแต่ให้เจ็บใจจี๊ดก็ตรงท่าทีของบอร์ดบริหารเท่านั้น 

ในมุมของ ซัวเรซ เขาคิดว่าตัวเองเหมือนแพะรับบาปคนนึงจากความพ่ายแพ้ 2-8 ต่อ บาเยิร์น มิวนิค ขณะที่บอร์ดลอยตัวอยู่เหนือปัญหาและทำกับเขาราวเป็นนักเตะโนเนมไร้ความหมาย 


ตอนที่สื่อต่างๆเริ่มเล่นข่าวว่าเขาอยู่ในแบล็คลิสต์ของ คูมันน์ นั้น ซัวเรซ รอโทรศัพท์จากบอร์ดบริหารเพื่อให้แจ้งเรื่องนี้ต่อตัวเขาโดยตรง ทว่ากลับไม่มีใครติดต่อเข้ามาเลย จนกระทั่งต้องบอกว่าเซอร์ไพรส์เล็กๆที่ คูมันน์ เป็นคนโทรมาบอกด้วยตัวเอง 

ซัวเรซ คิดว่าควรได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่านี้จากสโมสร เพราะตลอด 6 ปีที่ผ่านมา เขาได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ในทุกเกมที่ลงสนาม คว้าแชมป์รายการใหญ่ร่วมกับทีม ยิงประตูสำคัญๆมากมาย หากเมื่อถึงคราวต้องลา ก็ควรมาบอกกันซึ่งหน้าให้สมที่เป็นลูกผู้ชาย

เพราะทีตอนมา ให้เข้าประตูหน้า มีคนรอต้อนรับเอิกเกริก แต่ทีตอนไปดันอุ๊บอิ๊บกระมิดกระเมี้ยนชี้ช่องให้ออกประตูหลังเสียอย่างงั้น...ไอ้ที่รู้สึกแย่มันก็มีอยู่เท่านี้จริงๆ 

เจมส์ ลา ลีกา 

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด