โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกทีมชาติโปแลนด์วัย 32 ปี มีช่วงเวลาสวยงามสุดในอาชีพค้าแข้งจากความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่่่ผ่านมา หลังการคว้า 'ทริเปิ้ลแชมป์' ร่วมกับ บาเยิร์น มิวนิค ทั้ง บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล ตบท้ายด้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก

เลวานดอฟสกี้ กระทุ้ง 34 ประตูคว้ารางวัลดาวซัลโวบุนเดสลีกา, กด 6 ประตูในรายการ เดเอฟเบ โพคาล และ อีก 15 ประตูบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก รวมยอด 55 ประตูจากการลงเล่น 47 เกม ตบท้ายด้วยการคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของบุนเดสลีกา

'คิกเกอร์ส' แม็กกาซีนดังของเยอรมันประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่่ผ่านมาว่า เลวานดอฟสกี้ ได้รับเสียงโหวตจากนักข่าวกีฬาแบบท่วมท้นถึง 276 เสียง ทิ้งห่างสองเพื่อนร่วมค่ายเสือใต้ทั้ง โธมัส มุลเลอร์ กับ โยชิว คิมมิค ที่ได้เสียงโหวตเพียง 54 กับ 49 ตามลำดับ 

'ผมทำงานหนักเพื่อฟอร์มการเล่นของผมและสำหรับทีม ซึ่งเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ' เลวานดอฟกี้ กล่าวถึงผลงานของตนเองที่กระทุ้ง 55 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 47 เกม

เลวานดอฟสกี้ มีฤดูกาลยอดเยี่ยมสุดในอาชีพค้าแข้ง แต่น่าเสียดายที่เขาพลาดโอกาสครั้งใหญ่ในการคว้ารางวัล 'บัลลง ดอร์' หลัง 'ฟร้องซ์ ฟุตบอล' ตัดสินใจยกเลิกการแจกรางวัลดังกล่าวในปีนี้เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ทว่าเขายังมีโอกาสลุ้นในอนาคตเนื่องจากดาวยิงชาวโปลตั้งเป้าหมายค้าแข้งต่อเนื่องไปจนอายุ 40 ปีและยังรู้สึกว่าเขายังไปไม่ถึงระดับสูงสุดของตนเองด้วยซ้ำ 

สัญญาปัจจุบันของ เลวานดอฟสกี้ กับ บาเยิร์น มิวนิค จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2023 ซึ่งจะทำให้เขาค้าแข้งกับทีมเสือใต้ไปจนอายุ 35 ปีเป็นอย่างน้อย แต่ 'เลวี่' เชื่อมั่นว่ามันจะไม่ใช่สัญญาฉบับสุดท้ายในอาชีพค้าแข้งของเขา

'มันจะไม่ใช่สัญญาสุดท้ายของผม การยุติอาชีพที่ เอฟซี บาเยิร์น เป็นทางเลือกหนึ่งแน่นอน แต่ผมยังมีเวลาอีกหลายปีที่จะเดินหน้าต่อไป'

เลวานดอฟสกี้ อายุ 32 ปี เปิดเผยว่า ณ ปัจจุบันเขารู้สึกดีกว่าตอนอายุ 26 ปี ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่คิดถึงการยุติอาชีพค้าแข้งในระยะเวลาอันใกล้นี้ 'ผมไม่ได้คิดถึงการยุติอาชีพค้าแข้งของผม ผมไม่รู้สึกเหมือนอายุ 32 ผมรู้สึกดีกว่าตอนผมอายุ 26 ด้วยซ้ำ ผมทำงานพิเศษมากๆในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อไปสู่ระดับดีที่สุดของผม' ก่อนหัวหอกชาวโปลจะกล่าวถึงการเล่นฟุตบอลอาชีพของตนเองนับจากตอนนี้ว่า 'อาจจะ (มากกว่า) 8 ปี' 

เรารู้ดีว่าต้องขอบคุณ 'แอนนา' ภรรยาของหัวหอกทีมชาติโปแลนด์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการคอยแนะนำสามีเธอเสมอ ซึ่งมีผลต่อรูปร่างของเขา ระบบการควบคุมอาหารของเขาได้รับการขนานนามว่า 'ของหวานก่อนอาหารเย็น' มีการขยายความเพิ่มเติมว่าการสลายคาร์โบไฮเดรตบางชนิด, การเผาผลาญและการย่อยอาหารของเขาจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าหากรับประทานของหวานก่อนอาหารเย็น เห็นได้ชัดว่ามันได้ผลสำหรับเขานอกเหนือจากทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำเพื่อให้มีรูปร่างดีสุดเท่าที่จะเป็นไปได้

บาเยิร์น มิวนิค สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งจากการคว้า 'ทริเปิ้ลแชมป์' พวกเขามีเวลาพักช่วงปิดฤดูกาลไม่นานนักก่อนกลับมาเตรียมความพร้อมสำหรับการเริ่มต้นซีซั่นใหม่ ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าทำให้ตารางเวลาต่างๆถูกตัดทอนลงมา ซึ่ง เลวานดอฟสกี้ มองว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ต้องเผชิญ 

'ฤดูกาลหน้าจะยากมาก คุณต้องฉลาดมากขึ้นเล็กน้อย คุณไม่สามารถเล่นตลอด 90 นาทีและทำสองประตูเมื่อคุณอยู่ภายใต้ความเครียดสูง บางครั้งคุณต้องชะลอตัวลงเล็กน้อยและให้ความสนใจว่าคู่ต่อสู้เป็นใครในเกมถัดไปเพราะทีมต้องมาก่อนเสมอ ลำดับความสำคัญของผมคือทีม ไม่ใช่ตัวเอง'

แน่นอนว่าผู้จัดการทีม, กุนซือหรือเทรนเนอร์ยังมีตัวเลือกในการเปลี่ยนตัวสำรอง 5 คนในแต่ละเกม เนื่องจากช่วงเวลาพักฟื้นร่างกายที่หดสั้นลงส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายของนักเตะโดยตรง แต่สำหรับ เลวานดอฟสกี้ ยังมีระดับความฟิตที่น่าทึ่ง ซึ่งอาจทำให้เขามีความพร้อมในการรับมือตารางแข่งขันที่อัดแน่นได้ดีขึ้น ทว่ามันอาจเป็นเรื่องยากสำหรับเชาในการทำผลงานทัดเทียมหรือดีกว่าฤดูกาลที่ผ่านมา 

อย่างไรก็ตามเขาคือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทุกอย่างเป็นไปได้สำหรับชายคนนี้!!

เลวานดอฟสกี้ มีโอกาสสัมผัสโทรฟี่ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรกกับ บาเยิร์น มิวนิค ในซีซั่นที่ผ่านมา นับจากหัวหอกชาวโปลประเดิมการยิงประตูในเกมพ่าย โอลิมเปียกอส 1-3 ในรอบแบ่งกลุ่มของซีซั่น 2011-2012 ก่อนทีมเสือเหลืองจะสิ้นสุดเส้นทางเพียงรอบแบ่งกลุ่ม

กองหน้าทีมชาติโปแลนด์จะเปิดหัวสวยด้วยการยิงประตูชัยดับ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม 1-0 ในเกมแรกของรอบแบ่งกลุ่มซีซั่น 2012-2013 ก่อนทีมเสือเหลืองจะควบเข้าป้ายฐานะแชมป์กลุ่มที่มีทั้ง เรอัล มาดริด, แมนฯซิตี้ และ อาแจ็กซ์ จากนั้น ดอร์ทมุนด์ กรุยทางสู่รอบชิงชนะเลิศ แต่พ่าย บาเยิร์น มิวนิค 1-2

'มันเป็นทักษะที่น่าทึ่งเล็กน้อยจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้' เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ดอร์ทมุนด์ ขณะนั้นกล่าวถึงการทำประตูชัยของ เลวานดอฟสกี้ ก่อนหมดเวลาเพียง 3 นาทีในเกมกับ อาแจ็กซ์ หลังหัวหอกโปลใช้เทคนิคควบคุมบอลจากการโหม่งทำทางมาให้ของ ลูคัสซ์ พิสซ์เซ็ค อย่างยอดเยี่ยมก่อนยิงประตูอย่างชาญฉลาด 'เขามีโอกาสหนึ่งหรือสองครั้งก่อนหน้านี้ แต่ในฐานะผู้ทำประตูที่คลาสสิคและเป็นแบบฉบับของเขา เขาสงบนิ่งในสถานการณ์นั้น เขาดึงออกหลังออกมาและยิงประตู นั่นคือประเภทเซนส์ฟุตบอลที่คุณต้องมี'

เลวานดอฟสกี้ ยังคงเป็นพลังทำลายล้างแนวป้องกันฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะในซีซั่น 2019-2020 หลังมีส่วนช่วย บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ในประเทศทั้งสองรายการ จากการกระทุ้ง 34 ประตูคว้ารางวัลดาวซัลโวลีกเมืองเบียร์ครั้งที่ 5 พร้อมนำทีมเสือใต้กดถาดแชมป์บุนเดสลีกา 8 สมัยติดต่อกัน เขายังทำสองประตูแมตช์ชนะ เลเวอร์คูเซ่น 4-2 ในนัดชิงขนะเลิศของศึก เดเอฟเบ โพคาล 

'เลวี่' ยังต่อยอดผลงานบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยการกด 15 ประตู ก่อนนำทีมเสือใต้คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 ของสโมสรและแชมป์ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งเป็นการคว้า 'ทริเปิ้ลแชมป์' ทั้งสองครั้ง

เลวานดอฟสกี้ โพสต์ลงทวิตเตอร์หลังการคว้าแชมป์ยุโรปครั้งแรกของเขาว่า 'อย่าหยุดฝัน!! อย่ายอมแพ้เมื่อคุณล้มเหลว ตั้งใจทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของคุณ'

ส่วน 'เลวี่' จะค้าแข้งต่อไปจนถึงอายุ 40 ปีหรือไม่ (เหมือน เคลาดิโอ ปีซาร์โร่) และจะยุติอาชีพค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค อย่างที่คาดหวังหรือเปล่า เราคงต้องติดตามผลงานของ เลวานดอฟสกี้ ต่อไป