:::     :::

พิคฟอร์ด ต้องไม่ปอด

วันพฤหัสบดีที่ 03 กันยายน 2563 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
1,762
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
"ตราบใดที่ผมยังคงโชว์ฟอร์มได้ดีในทุกสัปดาห์กับ เอฟเวอร์ตัน ผมก็จะมีโอกาสยึดมือหนึ่งทีมชาติอังกฤษอยู่แบบนี้"

    นั่นคือสิ่งที่ จอร์แดน พิคฟอร์ด เคยกล่าวเอาไว้เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2018

    ย้อนกลับไปในช่วงที่เริ่มสร้างชื่อขึ้นมา มันเป็นช่วง 4 เดือนที่มหัศจรรย์ของ พิคฟอร์ด อย่างแท้จริง เขากลายเป็นฮีโร่ของคนทั้งชาติ หลังจากฟอร์มอันแข็งแกร่งในฟุตบอลโลก และก็ได้รับสัญญาใหม่จาก เอฟเวอร์ตัน ซึ่งทำให้ค่าแรงเพิ่มขึ้นเป็นกอง แต่เขาก็ไม่ได้ละเลยถึงสิ่งที่หลายคนคาดหวังในตัวเขา

    จากความสม่ำเสมอ และพัฒนาการที่เดินหน้า พิคฟอร์ด ขึ้นขี่หลังม้าอย่างเต็มตัว และเพลิดเพลินไปกับคำชื่นชมที่เกิดขึ้น หลังจากมีผลงานที่เบ่งบานระหว่างเกมที่ อังกฤษ เอาชนะที่ สเปน ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 31 ปี

    หันมามองปัจจุบัน คนที่เป็นความหวังของทีมชาติเริ่มถูกแนวคิดที่ว่าเขาอาจไม่ได้เป็นตัวจริงในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปที่จะเกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์หน้า

    ฟอร์มที่ดิ่งลงเหวของ พิคฟอร์ด ตลอดในช่วงหลังหมายความว่าเขาจะเริ่มต้นซีซั่นใหม่ด้วยเครื่องหมายคำถามไม่ว่าจะเป็นระดับสโมสร และทีมชาติ

    แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังคงเลือก พิคฟอร์ด เข้ามาติดทีมชาติตามปกติในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เคยให้โอกาสเขาครั้งแรก เมื่อ 5 ปีก่อน ตอนที่ใช้งานเขาในช่วงที่เป็นกุนซือทีมชาติชุดยู-21 ที่พบ สหรัฐฯ ในเปรสตัน

    ตอนนี้มันเกิดเครื่องหมายคำถามในเกมกับ ไอซ์แลนด์ วันเสาร์นี้ว่าเขาอาจจะทำได้เพียงนั่งดูเพื่อนเล่นที่ข้างสนาม

    ความก้าวหน้าของ นิค โป๊ป ที่ เบิร์นลี่ย์ ทำให้เกิดแรงกดดัน ในขณะที่ ดีน เฮนเดอร์สัน จาก แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้เพิ่มมิตินั้นเข้าไปอีก

    นับเป็นเรื่องน่าสนใจมากที่ได้เห็นทั้ง 3 คนทำงานร่วมกันตลอดสัปดาห์นี้ที่เซนต์ จอร์จส์ พาร์ค เพื่อทำความเข้าใจกับการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น

    ตอนนี้ มันเลยเกิดคำถามกับ พิคฟอร์ด ว่าเกิดอะไรขึ้น?

    ความไม่น่าไว้ใจของ พิคฟอร์ด เริ่มต้นด้วยการเสียประตูให้กับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ แกรี่ เนวิลล์ ออกมาสวดยับอย่างรุนแรง และจากนั้นเขาก็มีแต่ถอยหลังลงคลอง

    เซาธ์เกต เองก็เห็นปัญหานั้นโดยตรงด้วยสองตา เมื่อกุนซือสิงโตคำรามเดินทางไปดูเกมที่กูดิสัน พาร์ค 2 ครั้งช่วงต้นปี 2020

    หนแรกคือเดือนกุมภาพันธ์ในเกมที่ ทอฟฟี่ เผชิญหน้ากับ คริสตัล พาเลซ ส่วนครั้งที่สองก็ในเดือนมีนาคมที่เสมอกับ ผีแดง 1-1

    ใน 2 แมตช์นั้น พิคฟอร์ด ทำให้ทีมเสียประตูแบบไม่น่าเสีย และแม้ เซาธ์เกต จะไม่สามารถเข้าไปชมเกมในสนามได้หลังช่วงล็อกดาวน์ แต่เขาก็ได้เห็นมันทางทีวี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมที่แพ้ วูล์ฟส์ ถึง 0-3

    กลายเป็นว่าตอนนี้ หลายคนรู้จัก พิคฟอร์ด ในฐานะตัวตลก หลายครั้งที่เราได้เห็นว่าฝีมือของเขาดร็อปลง ซึ่งเจ้าตัวก็เคยว่าไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ว่าการเป็นหนึ่งในทีมชาติอังกฤษ ทำให้ทุกคนเกลียดคุณ สำหรับคนที่ไม่ได้ซีเรียสจนเกินไป มันเป็นการเปิดเผยแบบตรงไปตรงมา

    นอกจากนี้ ความคิดของ คาร์โล อันเชล็อตติ ต่อนายทวารวัย 26 ปี คือสิ่งชัดเจนที่สุด ผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน ไม่ได้เลือกใช้คำพูดที่ไม่ชัดเจนเพื่อดึงดูดเหล่าหัวข่าวใหญ่ และเขาก็ไม่ได้ผูกติดกับนักเตะคนใดคนหนึ่งจนเกินกว่าเหตุผลที่ดี

    อันเชล็อตติ เคยหย่อนระเบิดก้อนโตในวันที่ 16 กรกฎาคม ก่อนเกมในบ้านกับ แอสตัน วิลล่า ซึ่งก็พยายามพูดให้ชัดเจนถึงสิ่งที่อยู่ในใจของเขาเกี่ยวกับฟอร์มของ พิคฟอร์ด ที่เซฟน้อยลง และก่อความผิดพลาดมากกว่าทั้ง โป๊ป และ เฮนเดอร์สัน ในฤดูกาลที่ผ่านมา

    "ผมไม่รู้ว่าเขาต้องการต้องการคนมาแข่งขันด้วยรึเปล่า" อันเชล็อตติ กล่าว

    "ผมรู้ว่าเขาทำได้ไม่ดีเลย ผมบอกกับเขา เขาทำได้ไม่ดี"

    "เขาต้องมีสมาธิในตัวเองในการโชว์ฟอร์ม มันต้องเกิดขึ้นแบบวันต่อวัน ซึ่งเขาต้องทำให้มันดีกว่าเดิม ผมไม่ได้กังวลมากหรอก เพราะเขามีคุณภาพอยู่แล้ว เขามีคาแรคเตอร์ แต่ผมต้องพูดกับเขา และผมก็บอกกับเขาว่าเขาต้องปรับปรุง"

    "ผมไม่รู้ว่าเขาสัมผัสได้ถึงความกดดันรึเปล่า ความกดดันเป็นส่วนหนึ่งในงานของคุณ คุณต้องรู้สึกกดดัน แต่ความกดดันอาจเป็นเชื้อเพลิงที่ดีสำหรับงานของคุณ"

    "ผม และคนอื่นๆ ในสโมสรมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ในคุณภาพของเขา เขารู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ในขณะที่เขาก็บ่นกับตัวเองเหมือนกัน และเขาก็เห็นด้วยว่าเขาต้องดีกว่านี้"

    "สไตล์ของผมคือการสื่อสารโดยตรงกับผู้เล่น ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ผมต้องพูดให้ชัดเจนว่ามีอะไรผิดบ้าง"

    อย่างที่เรารู้ เซาธ์เกต ถือเป็นแฟนตัวยงของ พิคฟอร์ด มานานแล้ว และก็ตระหนักถึงความสามารถของเขาตั้งแต่หลายปีก่อน โดยที่เลือกเขามาติดทีมชาติชุดยู-21 ทว่าตอนนี้มันเป็นครั้งแรกที่ตำแหน่งของเขามีรูโหว่

    พิคฟอร์ด รู้ว่าเขาต้องทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน บางทีการทำอย่างที่ตัวเองพูดไว้ เมื่อ 2 ปีที่แล้วในย่อหน้าแรกนั่นแหละคือจุดเริ่มต้นดีที่สุด

    แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะหาจุดเริ่มต้นได้เจอรึเปล่า

    พาสต้า


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด