จูด เบลลิงแฮม เปิดตัวกับ เบอร์มิงแฮม ด้วยวัยเพียง 16 ปีกับ 38 วัน ก่อนจะฉายแววเด่นกลายเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าถึง 25 ล้านยูโรหลังย้ายซบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา 

'สิ่งที่ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ทำเพื่อผม ผมไม่สามารถขอบคุณพวกเขาได้มากพอ ผมจะขอบคุณพวกเขาเป็นล้านๆครั้งเพราะพวกเขามอบแพลตฟอร์มให้ผมก้าวต่อไปและบรรลุสิ่งที่ผมมี' เบลลิงแฮม เปิดเผย

'ผมได้รับการสนับสนุนมากมายจากพวกเขาตลอดเส้นทางตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ผมต้องขอบคุณ เป๊ป โกลเต็ต มันไม่ง่ายเลยที่ผู้จัดการทีมคนใดจะทุ่มให้กับเด็กอายุ 16 ปี โดยเฉพาะในเวทีแชมเปี้ยนชิพ แต่สำหรับเขาที่จะยึดติดกับผมนั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก'

เบลลิงแฮม ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วจนคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำซีซั่น 2019-2020 ของ อีเอฟแอล พร้อมรางวัลนักเตะฝึกหัดแห่งปีของแชมเปี้ยนชิพ 'มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณภาพที่พวกเรากังวลกับผู้เล่นอายุน้อย'

'มันเกี่ยวข้องกับการมีไฟในตัวคุณ, ความกระหายที่จะโดดเด่นและเปลี่ยนเกมโดยไม่คำนึงถึงอายุของคุณ มันเป็นเรื่องง่ายที่จะได้รับการเปิดตัวครั้งแรก จากนั้นค่อยๆขยับตัวเล็กน้อย แต่การเดินหน้าต่อไปและสร้างผลกระทบอย่างที่นักเตะอายุน้อยหลายคนเคยทำคือการให้เครดิตกับผู้เล่นอายุน้อยในลีกนี้, สโมสรที่พวกเขาอยู่และลีกนั้นด้วย'

'สำหรับผมโดยส่วนตัวแล้ว มันต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ผมต้องการสิ่งนี้มากกว่าสิ่งใดในโลก การได้เข้าสู่ทีมชุดแรกและลงเล่นกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เป็นเป้าหมายเดียวที่ผมมีและนั่นคือความมุ่งมั่นของผม'

'มีโอกาสยอดเยี่ยมใน อีเอฟแอล กับการแข่งขันฟุตบอลถ้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเปิดโอกาสให้นักเตะดาวรุ่งอย่างผมและมีเวทีที่จะเปล่งประกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราเผชิญหน้ากับทีมมืออาชีพที่มีประสบการณ์'

ตอนนี้ เบลลิงแฮม กำลังเข้าแถวเคียงข้าง เจดอน ซานโช่ และ เออร์ลิง ฮาแลนด์ รวมถึงแข้งวัยรุ่นอีกหลายคนในค่ายเสือเหลือง โดยมีแผนที่จะปลดล็อกศักยภาพในเกมของเขาต่อไปพร้อมนำ ดอร์ทมุนด์ ก้าวไปอีกระดับ

'ผมรู้สึกขอบคุณมากที่ได้รับโอกาสในการเล่นให้สโมสรนี้' 

'ผมรู้สึกซาบซึ้งจริงๆที่พวกเขามอบความไว้วางใจให้ผมด้วยการเซ็นสัญญากับผม เรามีการฝึกซ้อมมากมาย, เล่นเกมปรีซีซั่น 2-3 นัดและผมแทบทนรอไม่ไหวสำหรับการเริ่มต้น ผ่านมาจนถึงตอนนี้มันดีมากสำหรับผมและผมแค่อยากนำสิ่งนั้นไปสู่เป้าหมายหลักของซีซั่น'

เบลลิงแฮม ตั้งเป้าหมายการทำงานใน ดอร์ทมุนด์ เพื่อเริ่มต้นฐานะแข้งตัวหลักของทีมเสือเหลืองและลงเล่นอย่างสม่ำเสมอในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงนี้ หลังย้ายมาค้าแข้งในถิ่น 'ซิกนาล อีดูน่า ปาร์ค' ในช่วงซัมเมอร์นี้ในฐานะนักเตะอายุ 17 ปีที่มีค่าตัวแพงสุดเท่าที่เคยมีมา

มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวอังกฤษแสดงให้เห็นถึงคุณภาพอันน่าทึ่งเขาด้วยฟอร์มการเล่นที่่น่าประทับใจในการลงเล่นเกมปรีซีซั่นกับทีม'ดำ-เหลือง' และตอนนี้เขามีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของทีมเสือเหลืองในฤดูกาลใหม่

'ผมต้องการก้าวไปอีกขั้นในการพัฒนาของผม ซึ่งรวมถึงการลงเล่นมากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้และพิสูจน์ตัวเองในการเล่นระดับสูงของบุนเดสลีกาและแชมเปี้ยนส์ลีก'

'มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผมที่จะต้องพิสูจน์ตัวเองตั้งแต่วันแรก (ฤดูกาลที่แล้ว) แม้ว่าจะเป็นฤดูกาลที่ยาวนานและเหนื่อยล้าในการลงเล่นแชมเปี้ยนชิพและเพื่อพิสูจน์ว่าผมสมควรได้รับตำแหน่ง ผ่านมาจนถึงตอนนี้มันได้ผลดีมาก'

อย่างไรก็ตาม ดอร์ทมุนด์ มีแผงมิดฟิลด์ที่มีตำแหน่งทับซ้อนกันหลายคน ซึ่ง เบลลิงแฮม จะต้องแข่งขันแย่งตำแหน่งกับ อักเซิล วิตเซล, ยูเลียน บรันด์ท, เอ็มเร่ ชาน, โธมัส เดอลานี่ย์ และ มาห์มูด ดาอูด์ เพื่อลงเล่นตัวจริงในฤดูกาลนี้ แต่เด็กหนุ่มชาวอังกฤษมีความมั่นใจในความสามารถของเขาว่ามีดีพอจะบรรลุเป้าหมายที่ตนเองตั้งไว้ 

'มันเป็นการแข่งขันที่หนักหน่วง ผมชอบแบบนั้น ความสามารถในการเรียนรู้จากผู้เล่นเหล่านี้จะช่วยให้ผมเป็นนักเตะที่ดีขึ้นด้วยตัวเอง ผมรู้ว่าผมสามารถทำอะไรได้บ้างและผมกำลังพยายามหาทางเข้าสู่ทีม'

'คุณกดดันตัวคุณเอง ถ้าหากคุณเตรียมตัวไม่ดีพอและขาดความมั่นใจ นั่นคือเหตุผลที่ผมพยายามเตรียมตัวให้ดีและมั่นใจในตัวเองเสมอเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้'

ส่วน ลูเซียง ฟาฟร์ เทรนเนอร์ชาวสวิสของ ดอร์ทมุนด์ ตื่นเต้นกับการมีหนุ่มเบลลิงแฮมอยู่ในทีมของเขาและรู้สึกว่ามิดฟิลด์ชาวอังกฤษเป็นนักเตะที่มีศักยภาพสูงสามารถนำเสนอความมีชีวิตชีวาและการบังคับทิศทางที่จำเป็นในแดนกลางของทีมเสือเหลือง

'มันเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องมีกองกลางที่สามารถเร่งสปีดเกมได้ คนที่สามารถเลี้ยงบอลและเล่นบอลในจังหวะสุดท้าย จูด รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาต้องออกจากตำแหน่งของเขาและขยับไปข้างหน้า นั่นเป็นสิ่งสำคัญ'

เบลลิงแฮม ยังก้าวกระโดดในระดับชาติหลัง ไอดี้ บูธรอยด์ เรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 ปี หลังเคยเล่นกับทีมชุดยู-15 กับ ยู-17 ปีก่อนหน้านี้ แต่กุนซือทีมสิงโตน้อยเชื่อมั่นในศักยภาพนักเตะว่าสามารถเล่นในระดับที่สูงขึ้นแม้ว่าจะแบกอายุถึง 4 ปีก็ตาม

'เขาเป็นผู้เล่นที่สามารถก้าวขึ้นมาได้ เขาถูกซื้อตัวโดยสโมสรใหญ่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและมันจะเป็นประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่แตกต่างสำหรับเขา'

'เขาจะได้รับการศึกษาที่ดีที่นั่น เหมือนอย่างที่ เบอร์มิงแฮม และจะเติบโตอย่างแน่นอนในบุนเดสลีกา'

'ด้วยผู้เล่นดีที่สุดมันคือทัศนคติของพวกเขาที่มาเป็นอันดับแรก นั่นเป็นตัวกำหนดว่าพวกเขาจะไปได้ในระดับสูงแค่ไหน'

'เขาเป็นคนหนุ่มที่มีพื้นฐานดีมาก, เป็นคนที่ยอดเยี่ยม, ฉลาด, เข้าใจว่าเขาอยู่จุดใดในฐานะนักเตะและเขาจะมีประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมใน ดอร์ทมุนด์'

ส่วนหนุ่มจูดกล่าวถึงการถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดเล็กว่า 'บอกตามตรงผมไม่ได้รู้สึกกดดันใดๆเลย ความกดดันที่ผมต้องเผชิญนั้นยิ่งใหญ่กว่าป้ายราคาใดๆ' 

เบลลิงแฮม แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขาในแคมป์ฝึกซ้อมช่วงปรีซีซั่นของ เบเฟาเบ ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีโปรแกรมลงเตะอุ่นเครื่อง 3 นัดในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา 

มิดฟิลด์วัย 17 ปี ทำประตูแรกของเขากับต้นสังกัดใหม่ในเกมขย่ม ออสเตรีย เวียนนา 11-2 ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับ เซบาสเตียน เคห์ล ฐานะผู้อำนวยการแผนกใบอนุญาตผู้เล่นของทีมเสือเหลือง 

'จูด มีการผสมผสานดีมาก เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ' เคห์ล กล่าวถึงแข้งวัย 17 ปี 'เขานำความดุดันและความแข็งแกร่งมาสู่แผงมิดฟิลด์ของเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆสำหรับเรา จูด ดึงดูดความสนใจได้มากแม้ว่าจะอายุเพียง 17 ปีก็ตาม'

ส่วน เยสโก้ ฟอน ไอช์มันน์ ผู้สื่อข่าวของ 'สกาย เยอรมนี' ประเมินว่าการเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ ดอร์ทมุนด์ ของ เบลลิงแฮม ว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา หลังปรับตัวได้อย่างรวดเร็วจนดูเหมือนว่าแข้งหนุ่มชาวอังกฤษเกิดมาเพื่อเล่นกับ 'เบเฟาเบ' จากการมีส่วนร่วมกับการลงเล่นเกมอุ่นเครื่องที่คว้าชัยชนะเหนือ อัลทัช, ออสเตรีย เวียนนา และ ดุ๊ยส์บวร์ก โดยยิงรวมกัน 22 ประตูและเสียเพียง 3 ประตูเท่านั้น 

'จูด เบลลิงแฮม เล่นเหมือนเขาเกิดมาในชุดดำและเหลือง' ฟอน ไอช์มันน์ ชี้แจง 'เขาสร้างความประทับใจในแง่ดีตลอดเวลาที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์'

'เขาเล่นราวกับว่าเขาอยู่ที่นั่นมาหลายปีแล้ว เขาเป็นตัวรุกในตำแหน่งกองกลาง ในเกมแรกของเขามีส่วนร่วมกับการทำ 3 ประตู เขายิงประตูในเกมที่สองของเขา'

'เด็กหนุ่มอังกฤษไม่ต้องการเวลาใดๆในการปักหลักและกำหนดทิศทางในแผงมิดฟิลด์ เขาได้พิสูจน์คุณภาพของเขาแล้ว เขาล้ำหน้าไปไกลจากอายุของเขา' 

การย้ายไปค้าแข้งต่างแดน นักเตะส่วนใหญ่จะประสบปัญหาเรื่องการสื่อสารจากภาษาที่แตกต่าง แต่กุญแจสำคัญในการปรับตัวของ เบลลิงแฮม คือการมี เจดอน ซานโช่ เป็นเพื่อนร่วมทีมที่คอยช่วยให้แข้งรุ่นน้อง รวมถึง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กับ โจวานนี่ เรย์น่า ที่ต่างใช้ภาษาอังกฤษได้ดีเช่นกัน

'เบลลิงแฮม ดูเหมือนจะรู้สึกดีมากทั้งในและนอกสนาม' ฟอน ไอช์มันน์ อธิบาย 'สิ่งที่ช่วยได้คือผู้เล่นอย่าง ซานโช่, โจวานนี่ เรย์น่า และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ต่างมีอายุใกล้เคียงกันและพูดภาษาอังกฤษได้ดีด้วย'

'และนั่นเกิดขึ้นในสนาม บรรยากาศในทีมดีเยี่ยม ระดับการฝึกซ้อมนั้นยอดเยี่ยมมากและผลการแข่งขันในช่วงแรกพิสูจน์มันเป็นอย่างดี'

'บรรดาแข้งดาวรุ่งของ ดอร์ทมุนด์ กำลังทำงานได้ดีมากและสโมสรกำลังมุ่งหน้าสู่เป้าหมายในแง่ของการกีฬาของพวกเขา' 

นั่นคือเรื่องราวในฐานะนักเตะใหม่ ดอร์ทมุนด์ ของ จูด เบลลิงแฮม ซึ่งปรับตัวได้อย่างรวดเร็วกับทีมเสือเหลือง แต่เขาจะได้ลงเล่นมากน้อยเพียงใด เราคงต้องติดตามผลงานของเด็กหนุ่มวัย 17 ปีในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงนี้