เลเวอร์คูเซ่น เคยปั้น ไค ลูคัส ฮาแวร์ตซ์ ก่อนลงประเดิมสนามบนเวทีบุนเดสลีกาหลังถูกส่งลงเล่นแทน ชาร์ลส์ อารานกีซ ในเกมพ่าย แวร์เดอร์ เบรเมน 1-2 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2016 กลายเป็นนักเตะอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ลงเล่นลีกเมืองเบียร์ด้วยวัย 17 ปีกับ 126 วัน 

ก่อนสถิติดังกล่าวจะถูกทำลายจากรุ่นน้องร่วมค่าย โฟลเรียน เวิร์ตซ์ ที่ลงประเดิมสนามบนเวทีบุนเดสลีกาในเกมบุกชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 4-1 เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ด้วยวัยเพียง 17 ปี กับ 15 วัน 

จากนั้น 'เจ้าชายน้อย' สร้างสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ที่ทำประตูในลีกเมืองเบียร์ ในเกมพ่าย บาเยิร์น มิวนิค 2-4 เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยวัยเพียง 17 ปี กับ 34 วัน 

ฮาแวร์ตซ์ ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมห้างยาตลอดช่วง 4 ฤดูกาลที่ผ่านมา เขาทำ 46 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 150 เกม ก่อน เลเวอร์คูเซ่น จะปล่อยมิดฟิลด์วัย 21 ปีย้ายซบ เชลซี ด้วยค่าตัว 71 ล้านปอนด์บวกโบนัสอีกจำนวนหนึ่ง 

มันไม่ใช่ครั้งแรกที่อดีตรองแชมป์บุนเดสลีกา 5 สมัย สูญเสียนักเตะดีที่สุดของสโมสร ทีมห้างยาเคยปล่อยแข้งดาวดังออกจากสังกัดรุ่นแล้วรุ่นเล่าไล่ตั้งแต่ มิชาเอล บัลลัค, โทนี่ โครส, อาร์ตูโร่ วีดาล มาจนถึง ไค ฮาแวร์ตซ์ 

แต่กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดีฉันท์ใด ทีมห้างยายังมีเด็กใหม่ที่พร้อมก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนของ'คิง ไค'เช่นเดียวกัน นั่นคือ 'เจ้าชายน้อย' โฟลเรียน เวิร์ตซ์ 

รูดี้ โฟลเลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของ เลเวอร์คูเซ่น เคยกล่าวยกย่อง ฮาแวร์ตซ์ ว่าเป็นแข้งดาวรุ่งดีสุดตลอดกาลของสโมสร หลังทำ 46 ประตูและทำ 31 แอสซิสต์จากการลงเล่นทุกรายการ 150 เกม นับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเล่นกับทีมห้างยาชุดใหญ่

อาจจะมีข้อโต้แย้งน้อยมากว่า ฮาแวร์ตซ์ เป็นผู้เล่นยิ่งใหญ่สุดของ เลเวอร์คูเซ่น หรือไม่ มิดฟิลด์วัย 21 ปียังมีศักยภาพพอที่จะยกระดับขึ้นมาเป็นหนึ่งในกองกลางดีที่สุดในโลก 

แต่สำหรับสาวกทีมห้างยาคงไม่ต้องกังวลกับการจากไปของ ฮาแวร์ตซ์ หลัง โฟลเรียน เวิร์ตซ์ กำลังก้าวขึ้นมาตามเส้นทางเดียวกัน

ฮาแวร์ตซ์ เคยคว้าเหรียญ 'ฟริตซ์ วอลเตอร์ โกลด์' ซึ่งเป็นรางวัลที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของผู้เล่นระดับเยาวชนในเยอรมัน จากการเล่นระดับยู-19 เมื่อปี 2018 

ส่วน เวิร์ตซ์ คว้าเหรียญรางวัลดังกล่าวตั้งแต่การเล่นระดับยู-17 ก่อน 'เจ้าชายน้อย' จะทำลายสถิติของ 'คิง ไค' ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์หลังฉลองวันเกิดครบ 17 ปี 

ก่อนแข้งหนุ่มวัย 17 ปี จะทำประตูแรกกับทีมห้างยาหลังยิงประตูตีตื้นในเกมพ่าย บาเยิร์น มิวนิค 2-4 จากการลงเล่นฐานะสำรองแทน คาริม เบลลาราบี้ ในช่วงครึ่งหลังและทำประตูช่วงท้ายเกม

แนวทางการทำประตูของ เวิร์ตซ์ ละม้ายคล้าย ฮาแวร์ตซ์ เช่นกัน เขาลากบอลจี้เข้าหา ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ กองหลังชาวฝรั่งเศสของทีมเสือใต้ ก่อนใช้เทคนิคล็อคด้วยขวาและยิงด้วยเท้าซ้ายข้างที่ไม่ถนัด แต่ยังสามารถบังคับทิศทางได้ดีพอจนยอดนายทวารอย่าง มานูเอล นอยเออร์ หมดสิทธิ์ป้องกัน 

'โฟล สามารถทำได้ทุกอย่าง' ยอร์ก ยาค็อบส์ ผู้อำนวยการอคาเดมี่ของ เอฟซี โคโลญจน์ โรงเรียนลูกหนังแรกของ เวิร์ตซ์ อธิบายถึงมิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 17 ปี และอาจเป็นเพียงคนเดียวที่เฝ้าตามดูพัฒนาการของเด็กคนนี้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เขาจึงไม่รู้สึกแปลกใจกับสิ่งที่ เวิร์ตซ์ ทำ

'เขาเป็นเด็กขี้เล่น, มีเทคนิคยอดเยี่ยม, มีไหวพริบในการเล่นเกมแบบน่าทึ่ง, จ่ายบอลเร็วและเลี้ยงบอลเก่ง' 

'ถ้าเขาฟิตสมบูรณ์ อย่างน้อยเขาจะอยู่ในระดับเดียวกับ ฮาแวร์ตซ์'

มันอาจเป็นข้อเรียกร้องที่ยิ่งใหญ่สำหรับเด็กวัย 17 ปีและเพิ่งมีส่วนร่วมกับทีมห้างยาเพียง 7 เกม แต่ เวิร์ตซ์ ทำให้แฟนๆและแมวมองจำนวนไม่น้อยเห็นเงาของ ฮาแวร์ตซ์ ในตัวหนุ่มโฟลเรียน 

ฮาแวร์ตซ์ ผ่านบอลประสบความสำเร็จในฤดูกาลที่ผ่านมา 87.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ เวิร์ตซ์ ตามมาไม่ห่างที่ 82.5 เปอร์เซ็นต์ หากพิจารณาจากตำแหน่งการเล่น ฮาแวร์ตซ์ อยู่ตรงกลางสนามเป็นส่วนใหญ่จึงมีบทบาทหลากหลายมากกว่า เวิร์ตซ์ ที่เล่นฝั่งขวา 

หนุ่มไคสัมผัสบอลเฉลี่ย 67 ครั้งต่อเกม ขณะที่ เวิร์ตซ์ สัมผัสบอลต่อเกม 58 ครั้ง แต่จุดแข็งของหนุ่มโฟลเรียนคือการเล่นตามแนวทางของตนเองในการดวลแบบตัวต่อตัวเพื่อเอาชนะคู่แข่ง 

การดวลกับคู่แข่งคือความท้าทายในการเอาชนะเกมป้องกันฝ่ายตรงข้าม ทั้งการเลี้ยงบอลฝ่ากองหลังหรือการดวลโหม่งกลางอากาศจากลูกเตะมุม ในส่วนนี้หนุ่มเวิร์ตซ์ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ฮาแวร์ตซ์ เอาชนะคู่แข่งเฉลี่ยต่อเกม 12 ครั้งในฤดูกาลที่ผ่านมา แม้ เวิร์ตซ์ อายุน้อยกว่าและยังเป็นแค่เด็กนักเรียน แต่หนุ่มโฟลเรียนเอาชนะคู่แข่งเฉลี่ย 16 ครั้งต่อเกม แน่นอน เลเวอร์คูเซ่น อาจค้นพบนักเตะที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับการเป็นตัวแทนของ 'คิง ไค'

'เขามีการผสมผสานระหว่างศักยภาพและความมุ่งมั่นสุดโต่งที่หาได้ยากมาก' จาค็อบส์ กล่าวถึง เวิร์ตซ์ 'ผมแทบจะไม่เคยเห็นผู้เล่นตัวรุกที่ทำงานหนักมากในการแย่งบอลกลับมา แม้ว่าเขาจะสามารถพึ่งพาศักยภาพทในการเล่นเกมรุกของเขาเพียงอย่างเดียวก็ตาม เขาต้องการเอาชนะในการดวลกับแนวรับคู่แข่งทุกครั้งและนั่นทำให้เขาเป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบ'

ฮาแวร์ตซ์ ย้ายจาก ไบอารีน่า ไปค้าแข้งในถิ่น 'สแตมฟอร์ด บริดจ์' ขณะที่ เควิน โฟลลันด์ อำลาทีมห้างยาไปอยู่กับ โมนาโก ของ นิโก้ โควัช อดีตเทรนเนอร์ของ บาเยิร์น มิวนิค เฉพาะสองคนนี้ทำรวมกัน 22 ประตูในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่แฟนๆทีมห้างยายังมั่นใจว่าแนวรุกยังคงทำผลงานได้ดีเหมือนเดิม

จากขุมกำลังปัจจุบันของ เลเวอร์คูเซ่น ยังมี ลูกัส อาลารีโอ กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินา, มุสซ่า ดิยาบี้ แนวรุกชาวฝรั่งเศส, เลออน ไบลี่ย์ ปีกความเร็วสูง, เปาลินโญ่ กองหน้าดาวรุ่งชาวบราซิเลียน รวมถึงการก้าวขึ้นมาของ โฟลเรียน เวิร์ตซ์