:::     :::

เดอ ปาย หรือ เลาตาโร่ ?

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เดอ ปาย กับ เลาตาโร่ คือตัวเลือกในแดนหน้าของ บาร์เซโลน่า ในยุค โรนัลด์ คูมัน แต่ใครจะเป็นผู้ที่ถูกเลือก ในเมื่อต่างฝ่ายต่างมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน

         แม้นักเตะขาออกจะยังติดๆขัดๆ หลายรายยังไม่อาจบรรลุข้อตกลง แต่ขาเข้าก็ใช่ว่าเป็นเรื่องที่ใจเย็นได้ 

         ก่อนที่ตลาดนักเตะปีนี้จะปิดลงในวันที่ 5 ตุลาคม บาร์เซโลน่า จำเป็นต้องปิดหนึ่งในดีลที่สำคัญที่สุดตามที่ โรนัลด์ คูมัน ร้องขอสำหรับโปรเจ็คต์ใหม่

จีนี่ ไวจ์นัลดุม ที่เคยถูกมองว่าจะเป็นหนึ่งในการเสริมทัพของทีม เวลานี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อบอร์ดบริหารเห็นว่า ตีอาโก้ อัลกานตาร่า น่าสนใจกว่า 

อายุ 29 เท่ากัน ค่าเหนื่อยพอๆกัน แต่รายหลังถูกสเปคบอร์ดมากกว่า ทั้งสไตล์การเล่น ทั้งยังเป็นเด็กเก่า 

ไวจ์นัลดุม หรือ ตีอาโก้ ? เป็นเรื่องที่ต้องขบคิด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เคร่งเครียดไปกว่าตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าของทีม 

หลัง คูมัน ตัดสินใจโล๊ะ หลุยส์ ซัวเรซ ออกจากทีม ก็ยิ่งทำให้ตำแหน่งนี้ถูกจับตามองว่าใครจะเข้ามาแทนที่ แม้ อองตวน กริซมันน์ หรือ อันซู ฟาติ จะสามารถปรับมาเล่นหน้าเป้าได้ก็ตาม แต่ คูมัน ก็ยังคงรอจิ๊กซอว์สำคัญชิ้นนี้ย้ายเข้ามาเติมเต็ม 

เลาตาโร่ มาร์ติเนซ คือแข้งที่ บาร์ซ่า ตามมานาน แต่จนแล้วจนรอดถึงตรงนี้ก็ยังไม่อาจบรรลุข้อตกลงกับ อินเตอร์ มิลาน ได้ ขณะที่ เดปาย มาแรงและถูกพูดถึงมากขึ้น เพราะเขาคือหนึ่งในขุนพลทีมกังหันสีส้มชุดที่ คูมัน ปลุกปั้นขึ้นมา 

เลาตาโร่ กับ เดปาย ต่างก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ บนเม็ดเงินลงทุนก้อนใหญ่ที่จะต้องจ่ายออก ในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ บวกกับตัวรุกรายอื่นภายในทีม ทำให้ไม่มีอ๊อปชั่นอื่นเหลืออยู่ 

ระหว่างสองคนนี้ บาร์ซ่า จำต้องเลือกเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น “แต่ใครล่ะคือกองหน้าผู้ถูกเลือก ?”

เมมฟิส เดอ ปาย 

เดอ ปาย เป็นนักเตะที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจน เลือดร้อน ไม่กลัวใคร แถมยังมีความเป็นศิลปินเต็มตัว โดดเด่นด้านเทคนิคการคอนโทรลบอล การเลี้ยงบอล ทำได้ดีในสถานการณ์ตัวต่อตัว 

บางครั้งอาจดูดื้อและพยายามครองบอลไว้กับตัวเองมากเกินไป แต่เมื่ออยู่ในกรอบเขตโทษ เดอ ปาย จะไม่เสียเวลาคิดในทุกครั้งที่มีโอกาส เขาไม่ลังเล หรือกลัวที่จะยิงประตู ซึ่งต้องบอกว่าหัวหอกดัตช์ทำได้ดีในจังหวะจบสกอร์ 

มีเทคนิคการยิงที่ดีทั้งจากแถวสองนอกกรอบเขตโทษ และการพลิกหาจังหวะยิงในกรอบ อีกหนึ่งคุณสมบัติเด่นก็คือ เดอ ปาย เล่นได้หลากหลายตำแหน่งของ 3 ตัวรุก ไม่ว่าจะเป็นตรงกลาง ฝั่งซ้าย หรือฝั่งขวา 

เดอ ปาย ไม่ใช่ ‘el 9’ (กองหน้าตัวเป้า) ธรรมชาติ เขามีความเป็นตัวริมเส้นมากกว่า ทั้งรูปร่างยังค่อนข้างเล็ก สูงแค่ 176 เซนติเมตรเท่านั้น อย่างไรก็ตามเขาก็ทดแทนด้วยเทคนิคการครอบครองบอลที่ดีในแบบฉบับที่กองหน้าตัวเป้าควรจะมี 

สรุปแล้ว แม้จะไม่ต้องตามคุณสมบัติของกองหน้าตัวเป้าไปบ้าง แต่ เดอ ปาย ก็รู้วิธีสร้างความอันตรายและเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับเกมได้ดี ซึ่งนับเป็นคุณสมบัติที่หายากในนักเตะคนอื่นๆ

กับฟอร์มการเล่นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เดอ ปาย ลงเล่นไปทั้งสิ้น 22 เกม แบ่งเป็น ลีกเอิง 13 เกม (ตัดจบเสียก่อน), แชมเปี้ยนส์ลีก 8 เกม และบอลถ้วยอีก 1 เกม คิดเป็น 1,694 นาที ทำไปทั้งสิ้น 15 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ อัตราเฉลี่ยความแม่นยำในการยิงเข้ากรอบอยู่ที่ 61.11% 

เลาตาโร่ มาร์ติเนซ 

ต้องยอมรับว่า เลาตาโร่ ดูจะได้เปรียบ เดอ ปาย อยู่พอสมควร เพราะเขาเป็นคนที่บอร์ดบริหารให้ความสนใจอย่างแท้จริง หรือพูดได้ว่าเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ในตำแหน่งนี้ ซึ่ง บาร์ซ่า วางเขาไว้เป็นกองหน้าตัวเป้าของทีมในอนาคต 

ว่ากันตามตรงแล้ว เลาตาโร่ ไม่ใช่เพชรฆาตในกรอบเขตโทษ แต่เขาโดดเด่นในการประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม นอกจากนี้แล้วอีกหนึ่งคุณสมบัติที่พิเศษในตัวของหัวหอกอาร์เจนไตร์คือมักจะโผล่มายิงประตูในช่วงเวลาสำคัญอยู่เสมอ 

เลาตาโร่ มีพรสวรรค์ติดตัวมาแต่เกิด สามารถปรับตัวกับนักเตะที่เล่นด้วยได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น ภายใต้การเล่นกับ โรเมอู ลูกากู แม้เขาจะเป็นกองหน้าโดยธรรมชาติ แต่ก็สามารถปรับการเล่นเพื่อเอื้อต่อการเล่นของเพื่อนได้ 

สามารถฉีกออกไปรับบอลริมเส้นเพื่อเปิดช่องให้คู่หูได้เข้าไปอยู่ในพื้นที่อันตรายได้ บางความเห็นบอกว่าเขายังขาดบางอย่างที่จะไต่ไปถึงระดับโลก แต่นั่นคงต้องรอการพิสูจน์ในวันที่เขาย้ายเข้ามา 

ข้อได้เปรียบอีกอย่างของ เลาตาโร่ คือเขามีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับ เลโอ เมสซี่ เล่นร่วมกันในทีมชาติอาร์เจนติน่า นั่นทำให้เขาลดปัญหาในการปรับตัวให้เข้ากับทีมลงไปมาก ซึ่งมันจะช่วยให้เขาสามารถเล่นด้วยความมั่นใจได้ในทันทีที่ย้ายมา 

กับฟอร์มการเล่นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เลาตาโร่ ลงเล่นไป 49 เกม คิดเป็น 3,595 นาที ยิง 21 ประตู (14 ประตูใน กัลโช่ เซเรีย อา) พร้อมกับทำไป 5 แอสซิสต์ ส่วนเปอร์เซนต์ความแม่นยำในการยิงประตูอยู่ที่ 53.54% 

สรุปแล้ว บาร์เซโลน่า ควรเลือกใคร ? 

ความจริงที่น่าเศร้าก็คือการตัดสินใจเลือกนักเตะซักคน บางครั้งก็ไม่ได้วัดกันที่คุณภาพหรือผลงานในสนามเพียงอย่างเดียว หากแต่ยังมีปัจจัยแวดล้อมต่างๆอีกหลายอย่าง 

ในกรณีนี้ เลาตาโร่ เป็นที่ถูกใจบอร์ดบริหารของ บาร์เซโลน่า มากกว่า ตำแหน่งการเล่นของเขาตรงตามสเปคมากกว่า ทั้งยังมีพรสวรรค์สูง อายุยังน้อย (23 ปี) สามารถพัฒนาไปได้อีก หมายถึงในอีก 2 ปีข้างหน้า เลาตาโร่ จะยิ่งเฉียบขาดกว่านี้ชนิดที่เงินระดับ 90 ล้านยูโรก็อาจจะซื้อเขาไม่ได้ 

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญในห้วงเวลาเช่นนี้ก็คือเรื่องการเงิน ค่าตัวของ เลาตาโร่ สูงมาก ทั้งการเจราจากับ อินเตอร์ มิลาน ก็ไม่เคยง่ายเลย 

ราคาไม่ต่ำกว่า 90 ล้านยูโร แน่ ขณะที่ เดอ ปาย เด่นกว่าตรงที่มีประสบการณ์มากกว่า (อายุ 26 ปี) กุนซือย่าง โรนัลด์ คูมัน รู้จักวิธีการใช้งานอย่าทะลุปรุโปร่ง ที่สำคัญคือราคาถูกกว่ามากแค่ 25 ล้านยูโรซึ่งเหมาะกับภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ 

สรุปแล้ว เลาตาโร่ คือเบอร์ 1 ในดวงใจของ บาร์ซ่า แต่หาก อินเตอร์ ออกลูกเขี้ยวจนเกินไป บาร์ซ่า จะถอย และหันไปเดิมพันกับ เดอ ปาย ที่ราคาถูกกว่า

เจมส์ ลา ลีกา 




ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด