เมมฟิส เดอปาย อาจล้มเหลวกับ แมนฯยูไนเต็ด แต่แนวรุกชาวดัตช์สามารถฟื้นฟูอาชีพของตนเองกลับมาสู่เส้นทางที่ควรจะเป็นอีกครั้งในการค้าแข้งกับ โอลิมปิก ลียง จนกระทั่งมีโอกาสย้ายมาเล่นกับสโมสรใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า

ตามรายงานจาก 'เด เทเลกราฟ' สื่อเมืองกังหันลมรายงานว่า ลียง ตอบรับข้อเสนอเบื้องต้น 25 ล้านยูโรจาก บาร์เซโลน่า ซึ่งทีมอาซูลกราน่าจะจ่ายเงินเพิ่มอีก 5 ล้านยูโรในช่วงซัมเมอร์ปีนี้ นอกจากนี้ยังมีโบนัสอีก 2 ล้านยูโร

นับตั้งแต่ โรนัลด์ คูมัน อำลาตำแหน่งเทรนเนอร์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์สเพื่อรับตำแหน่งนายใหญ่ของ บาร์เซโลน่า แทน เอ็นรีเก้ เซเตียน ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ชื่อของ เดอปาย ถูกจับโยงกับทีมอาซูลกราน่ามาตลอดเพราะกองหน้าวัย 26 ปีเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆของเทรนเนอร์ชาวดัตช์ในการปรับปรุงแนวรุกของทีมยักษ์กาตาลุนย่า หลังทั้งคู่คุ้นเคยกันดีระหว่างร่วมงานกันในทีมกังหันลม 

เดอปาย เริ่มเล่นฟุตบอลกับ มอร์เดรชท์ ทีมเล็กๆในบ้านเกิดเพียง 3 ฤดูกาล ก่อนทำผลงานเตะตาแมวมอง สปาร์ต้า ร็อตเธอร์ดัม จนดึงเข้าสังกัดตอนอายุ 8 ขวบ ซึ่งประธานสโมสรในขณะนั้น ทอน เรเดเกลด์ กล่าวถึงหนุ่มน้อยเดอปายว่า 'เมมฟิส เป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สมบูรณ์แบบ เขาเล่นได้ทั้งสองเท้าและแข็งแกร่ง ถ้าเราชนะ 7-0 เขาจะยิง 5 ประตูและแอสซิสต์อีก 2 ครั้ง' 

เมื่อเขาอายุ 12 ปี เดอปาย ตกเป็นเป้าสนใจของสโมสรยักษ์ใหญ่ของเมืองกังหันลมทั้ง อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม, พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น และ เฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม แม้คุณปู่ของเดอปายจะเป็นสาวก อาแจ็กซ์ ก็ตาม แต่เขาแนะนำหลานว่าควรเลือกย้ายมาเล่นกับ พีเอสวี จนกระทั่งลงเอยกับ ไอนด์โฮเฟ่น เมื่อปี 2006 

เดอปาย ไต่เต้าจาก ยอง พีเอสวี ก่อนลงเจิมทีมชุดใหญ่ในช่วงเดือนกันยายนปี 2011 ในรายการ ดัตช์ คัพ รอบ 2 ที่ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น บุกขย่ม VVSB 8-0 จนกระทั่งเขาได้ลงประเดิมเวทีพรีเมียร์ดัตช์เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ปีถัดมาในเกมชนะ เฟเยนูร์ด 3-2 ที่ 'ฟิลิปส์ สตาดิโอน' ก่อนปิดฉากผลงานซีซั่นแรกด้วยการยิง 5 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 11 เกม

หนุ่มเมมฟิสก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในแนวรุกของ พีเอสวี หลังจากนั้นจนกระทั่งทำผลงานกระฉูดด้วยการยิง 22 ประตูจากการลงเล่น 30 เกม คว้ารางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ดัตช์ในซีซั่น 2014-2015

เดอปาย ตกเป็นเป้าสนใจของหลายสโมสรทั้ง อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล และ แมนฯยูไนเต็ด ก่อน พีเอสวี จะยืนยันการปล่อยนักเตะย้ายซบทีมปีศาจแดงเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2015 ซึ่ง หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือยูไนเต็ดขณะนั้นเผยว่าเขาถูกบังคับให้ต้องเร่งทำข้อตกลงก่อนกำหนดหลังมีข่าวว่า ปารีส แซงต์ แชร์กแมง กำลังเดินหน้าทาบทามนักเตะ

จนกระทั่ง แมนฯยูไนเต็ด ยืนยันการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับ เดอปาย ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ปีกชาวดัตช์เซ็นสัญญา 4 ปีพร้อมอ็อปชั่นเพิ่มเติมอีก 12 เดือน กลายเป็นศิษย์เก่า พีเอสวี รายที่ 4 ที่ย้ายซบทีมปีศาจแดงต่อจาก ยาป สตัม, พาร์ค ชี ซุง และ รุด ฟาน นิสเตลรอย

เดอปาย ลงประเดิมสนามตั้งแต่เกมเปิดซีซั่นพรีเมียร์ลีกที่ 'โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด' ซึ่ง แมนฯยูไนเต็ด เฉือนชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-0 แต่ปีกชาวดัตช์ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามช่วงนาที 68 โดยมี อันเดร์ เอร์เรร่า ลงเล่นแทน ซึ่ง ฟาน กัล ให้เห็นผลถึงการถอดออกจากสนามว่า เมมฟิส ลงเล่นด้วยท่าทางกระตือรือร้นเกินไป

อดีตปีก พีเอสวี ทำผลงานไม่ปังอย่างที่สาวกผีแดงคาดหวัง ปีกชาวดัตช์แก้ตัวกับ 'เด เทเลกราฟ' สื่อบ้านเกิดว่า 'มีเกมมากมายในแมนเชสเตอร์ มีวันพักน้อยมากและในวันฝึกซ้อม ส่วนใหญ่คุณจะกังวลถึงการฟื้นตัว มันหนักมาก, 2 เกมต่อสัปดาห์, เล่นในระดับสูงเสมอ และร่างกายของผมก็ต้องคุ้นชินกับสิ่งนั้น'

ทว่าข้ออ้างของ เดอปาย ถูกโต้แย้งโดย ไรอัน กิ๊กส์ อดีตนักเตะ แมนฯยูไนเต็ด และมือขวาของ ฟาน กัล ตำหนิการใช้ชีวิตนอกสนามของปีกชาวดัตช์เป็นสาเหตุที่ทำให้นักเตะทำผลงานแย่ ส่วนเทรนเนอร์ชาวดัตช์กล่าวเตือน เดอปาย ว่าจะล้มเหลวในอาชีพค้าแข้งกับทัพปีศาจแดงลักษณะเดียวกับ อังเคล ดิ มาเรีย จนต้องย้ายออกจาก 'โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด' ก่อนปีกชาวดัตช์จะมาถึง

การค้าแข้งกับ แมนฯยูไนเต็ด ปีแรกของ เดอปาย ลงเอยด้วยการยิงเพียง 7 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 45 เกม เนื่องจากปีกชาวดัตช์ทำผลงานขาดความคงเส้นคงวา เล่นดีบางนัด แต่แย่หลายเกมจนถูกดร็อปเป็นตัวสำรองในช่วงหลัง

ปัญหาของ เดอปาย ยังมีต่อเนื่องจนถึงฤดูกาล 2016-2017 จนถูกลดบทบาทเป็นเพียงสำรอง ลงเล่นพรีเมียร์ลีกเพียง 4 เกมและลงเล่นทุกรายการ 8 นัด จนกระทั่งสิ้นสุดฐานะแข้งปีศาจแดง หลังถูกปล่อยไปค้าแข้งกับ ลียง ด้วยค่าตัวราว 17 ล้านปอนด์บวกโบนัสเพิ่มเติมเป็น 22 ล้านปอนด์เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2017

ตลอดช่วง 4 ฤดูกาลที่่ผ่านมาเป็นช่วงฟื้นฟูอาชีพของ เดอปาย จนกลับมาทำผลงานยอดเยี่ยมอีกครั้ง เขาทำรวมกัน 57 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 140 เกม แม้ว่าจะบาดเจ็บหนักถึงขั้นเอ็นเข่าฉีกขาดในช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนฟิตกลับมาลงสนามอีกครั้งในช่วงรีสตาร์ทซีซั่นบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งมีส่วนช่วยทีมโอแอลผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ

เดอปาย ยังทำผลงานดีต่อเนื่องจนถึงฤดูกาลนี้หลังทำแฮตทริคตั้งแต่เกมแรกของซีซั่น 2020-2021 นำต้นสังกัดขย่ม ดิฌง 4-1 แนวรุกวัย 26 ปีกล่าวหลังเกมดังกล่าวว่า 'ผมมีความสุขจริงๆที่ทำได้สามประตูในวันนี้'

'มันไม่ใช่เกมดีสุดที่ผมเคยเล่น แต่เราเริ่มต้นฤดูกาลด้วยการเก็บ 3 คะแนนและนั่นเป็นสิ่งสำคัญสุด'

'เราแสดงให้เห็นแล้วว่าเราสามารถต่อกรกับทีมใหญ่ๆได้ แต่เราต้องมีสมาธิและเอาชนะทีมที่ถูกเรียกว่า'ทีมเล็กกว่า' เรามีนักเตะที่ดีมากมาย เราต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อมุ่งหน้าไปสู่จุดสูงสุด' 

ปีกชาวดัตช์ยังกล่าวถึงอนาคตค้าแข้งของตนเองเพิ่มเติมว่า 'คนเราต้องคิดถึงอาชีพของตัวเอง คิดถึงความทะเยอทะยาน การไม่ได้เล่นแชมเปี้ยนส์ลีก (ฤดูกาลหน้า) เป็นเรื่องยอมรับได้ยาก แต่ตอนนี้ ผมยังอยู่ที่นี่'

ขณะที่ รูดี้ การ์เซีย กุนซือ ลียง ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะรั้งตัว เดอปาย อยู่กับทีมโอแอลต่อไปถ้าหากกองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์ได้รับข้อเสนอจากสโมสรใหญ่โดยเฉพาะ บาร์เซโลน่า

'เมมฟิส เป็นผู้เล่นระดับแนวหน้า ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่กลับมาจากการบาดเจ็บ'

'ถ้าเขาสามารถผ่านฤดูกาลไปกับ ลียง เราจะแข็งแกร่งมากขึ้น'

'อย่างไรก็ตามเหมือนกับนักเตะชั้นยอดหลายคนของผม ถ้าพวกเขามีโอกาสที่จะเล่นกับสโมสรที่สร้างขึ้นเพื่อคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก ผมจะผลักดันพวกเขาไปที่นั่นเป็นการส่วนตัว'

แม้ ฌอง มิเชล-โอลาส ประธานสโมสรลียงจะพยายามโน้มน้าวให้ เดอปาย ทำข้อตกลงใหม่ก็ตาม แต่ถ้าหากแนวรุกชาวดัตช์จะฝากอนาคตไว้กับทีมโอแอลต่อไปก็คงตอบสนองความต้องการของสโมสรก่อนหน้านี้ ดังนั้น โอลาส จึงต้องเรียกร้องค่าตอบแทนมากสุดในการปล่อย เดอปาย ออกจากทีมแม้ว่านักเตะจะเหลือสัญญาไม่ถึงหนึ่งปีก็ตาม 

แน่นอน เดอปาย ยังสงวนท่าทีเกี่ยวกับอนาคตค้าแข้งของตนเอง แต่เขาอาจจะลงเล่นนัดสุดท้ายกับทีมโอแอลในเกมเยือน มงต์เปลลิเย่ร์ บนเวที ลีก เอิง วันอังคารนี้ 

คูมัน ฐานะเทรนเนอร์ของ บาร์เซโลน่า ไม่ยึดติดกับระบบ 4-3-3 เขาปรับทัพมาเล่นระบบ 4-2-3-1 ในเกมอุ่นเครื่องกับ คิมนาสติก เด ตาร์ราโกน่า โดยปรับตำแหน่ง อองตวน กรีซมันน์ มาเล่นหน้าเป้า ส่วน เดอปาย สามารถเล่นสลับกับกองหน้าชาวฝรั่งเศสหรือเล่นแนวรุกฝั่งซ้ายเหมือน อุสมาน เดมเบเล่ หรือ อันซู ฟาตี 

ด้วยวัยวุฒิมากขึ้นและเคยล้มเหลวในการค้าแข้งกับ แมนฯยูไนเต็ด ก่อนหน้านี้ นั่นทำให้ เดอปาย มีความมั่นใจมากขึ้นว่าเขาสามารถประสบความสำเร็จกับสโมสรใหญ่โดยเฉพาะกับทีมอาซูลกราน่า ซึ่งมีเทรนเนอร์ที่รู้ใจและคู่มือการใช้งานเขาอย่าง โรนัลด์ คูมัน