คุยกับ อเดบาโย กาเดโบ : ถึงเวลาของเหล่าแข้ง "ช้างศึกยุทธหัตถี"
แมน : สวัสดีครับ อเด เกมนัดที่แล้วประเดิมการกลับมาด้วย 3 แต้มเต็มเลย นักเตะหลายๆ คนโชว์ฟอร์มได้ดีมากเลยนะครับ
อเดบาโย : ค่อนข้างโชคดีด้วยครับ เราโชคดีที่ไม่เสียประตู และพอจังหวะที่เรามีโอกาสก็สามารถทำให้เป็นประตู ถือว่านักเตะเราใช้โอกาสได้ดีด้วยครับ
แมน : ผมอยากจะถามคำถามนี้ เป็นคำถามเดียวกับที่เคยคุยกับโค้ชคนอื่นๆ นะครับ ฟุตบอลไทยลีกเราหยุดแข่งไปประมาณ 6 เดือนกว่า เป็นช่วงการพรีซีซั่นที่ต้องรอคอยนานที่สุดในชีวิตของหลายๆ คน ในมุมของ อเด เองรู้สึกยังไงบ้างครับที่บอลลีกของเรากลับมาแข่งกันได้แล้ว
อเดบาโย : ผมตื่นเต้นนะครับ ใช่เลยที่ครั้งนี้คือการรอคอยนานที่สุดในชีวิต การทำงานก็ต้องปรับเปลี่ยนเยอะครับ ปกติพอจบฤดูกาล เราจะมีเวลาพักแค่ประมาณเดือนเดียวแล้วก็ต้องกลับมาพรีซีซั่นกันเพื่อเตรียมสำหรับฤดูกาลใหม่แล้ว แต่นี่หยุดไปครึ่งปี การวางแผนงานมันก็เปลี่ยนไป ถ้าในสถานการณ์ปกติการพรีซีซั่นก็จะทำควบคู่ไปกับการหานักเตะเข้ามาเสริมด้วย แต่ครั้งนี้เราไม่ได้เสริมใครเข้ามาเลย การซ้อมมันก็เลยอาจจะง่ายขึ้นเพราะไม่ต้องปรับจูนกันใหม่ แต่ในตลาดรอบต่อไปก็อาจจะมีการเสริมความแข็งแกร่งในบางจุดด้วยเหมือนกัน
แมน : ดูเหมือนว่า อเด จะมองในแง่ดี ว่าการไม่เสริมนักเตะเลยยิ่งทำให้ทำงานต่อเนื่องได้ง่าย
อเดบาโย : จริงนะครับ ทาง โคราช เองก็เหมือนกัน เขาก็แทบไม่ได้มีการเสริมนักเตะเข้ามาเลย การทำงานมันก็เลยค่อนข้างจะง่ายไม่ต้องปรับจูนอะไรกันเยอะทั้งสองทีม ปีนี้การเปลี่ยนแปลงนักเตะโดยเฉพาะต่างชาติมันค่อนข้างจะยาก เพราะต้องมีเรื่องการเดินทางระหว่างประเทศด้วย กว่าจะมาได้ก็ต้องมีกักตัว ต้องมาปรับตัวอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งกว่าจะเข้ามาได้ก็แทบไม่ทันลีกเปิดแล้ว ผมก็เลยมองว่าทีมที่เปลี่ยนแปลงนักเตะเยอะๆ อาจจะต้องลุ้นหน่อยว่าจะปรับจูนได้เร็วแค่ไหน
แมน : ถ้าสุพรรณบุรีไม่เจอปัญหาที่อันแดร์สัน ดอส ซานโต๊ส ไปฟ้องฟีฟ่า จนมีคำสั่งห้ามซื้อนักเตะในตลาดรอบนี้ ทีมจะมีการเสริมทัพมั้ยครับ
อเดบาโย : เรื่องนี้ผมก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียดมากเท่าไหร่ครับ รู้แค่ว่าเขาเคลียร์กันไปแล้วนะครับ แต่ผมเองจริงๆ ก็ตั้งใจอยู่แล้วว่ารอบนี้จะไม่เปลี่ยนอะไรเยอะครับ โดยเฉพาะตัวต่างชาติที่เราค่อนข้างพอใจกับพวกที่เขาอยู่กับเราอยู่แล้ว
แมน : เห็นว่าแฟนบอลเข้าไปเต็มโควตาที่ศบค.อนุญาต 4,000 เลยนะครับ แฟนบอลของทีมช่วยกระตุ้นนักเตะได้เยอะมั้ยครับ
อเดบาโย : ผมคิดถึงพวกเขามากนะครับ ในช่วงที่บอลไม่เตะไปหลายๆ เดือน พอได้เห็นแฟนบอลกลับมา ผมรู้สึกดีมากๆ ครับ
แมน : ยังมีแฟนบอลบางส่วนไม่ใช่แค่ของสุพรรณบุรีนะครับ แต่ทุกๆ สนามเลย ที่ค่อนข้างจะการ์ดตก ไม่ปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐในการเว้นระยะห่าง ยังเห็นคนไม่ใส่แมสต์เยอะเลย อเด อยากจะฝากบอกอะไรถึงแฟนบอลบ้างครับ
อเดบาโย : อ๋อ ผมก็อยากให้เขาไม่ประมาท จะการ์ดตกไม่ได้นะครับ ทางภาครัฐเขากำหนดมาตรการอะไรมาเราก็ควรปฏิบัติตาม อย่างน้อยก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่ดี เพื่อที่ว่าอนาคตหากสถานการณ์ดีขึ้นแฟนบอลก็อาจจะเข้ามาได้มากขึ้นอีก และถ้าเราประมาทแล้วเกิดมีคนติดเชื้อในสนามบอลขึ้นมา ทุกฝ่ายจะยิ่งเดือดร้อนกันไปหมดนะครับ เรารอตั้งนานกว่าจะได้กลับมาแข่งกัน ดูอย่างเวียดนามเป็นตัวอย่างก็ได้ครับ ที่เขากลับมาเตะแต่แฟนบอลไม่ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐ แล้วเจอคนติดเชื้อ มีคนเสียชีวิตเพิ่ม ลีกเขาก็สั่งยกเลิกไปเลย ถ้าเราไม่อยากเป็นแบบนั้นต้องไม่ประมาทครับ
แมน : เกมกับโคราช ผมประทับใจผลงานของนักเตะหลายๆ คนนะครับ โดยเฉพาะ กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์, ปาณเดชา เงินประเสริฐ แล้วก็ ทินกร อสุรินทร์ 3 กองกลางของทีม สำหรับ อเด คิดเห็นยังไงกับฟอร์มของพวกเขาครับ หรือประทับใจลูกทีมคนไหนเป็นพิเศษมั้ย
อเดบาโย : ผมพอใจกับผลงานของทุกคนเลยครับ เพราะเราเล่นด้วยความคิดเดียวกันทั้งทีม คือทุกคนเล่นเพื่อทีม เล่นเพื่อเพื่อนร่วมทีม เราไม่มีบิ๊กเนม เราไม่มีใครเล่นเพื่อให้ตัวเองโดดเด่นคนเดียว และทุกคนก็ทำได้แบบนั้นจริงๆ คือเล่นด้วยความคิดที่เหมือนกัน
แมน : หมายถึงทีมสปิริตหรือเปล่าครับ เล่นแบบไม่มีซูเปอร์สตาร์ ทุกคนมีความสำคัญ ทุกคนมีส่วนร่วมกับเกม
อเดบาโย : อ่า ใช่ครับ คือทีมเราไม่มีใครเป็นซูเปอร์สตาร์เลย ซึ่งนั่นคือข้อดีของทีมเรา นักเตะกล้าเล่น กล้าทำผลงาน และไม่เห็นแก่ตัว เวลาบุก บุกทุกคน เวลารับก็ช่วยกัน เสียบอลก็ช่วยกันแย่งคืนครับ
แมน : ก็คือเล่นแบบคอมแพ็คเพลย์ รุกรับช่วยกันทั้งทีมนะครับ ผมสังเกตว่าบทบาทของ กษิดิ์เดช เปลี่ยนไปเล็กน้อยหรือเปล่าครับ เดิมทีเขามักจะออกไปเล่นทางริมเส้นฝั่งซ้าย แต่ตอนนี้เขาเคลื่อนที่อิสระขึ้น มีบทบาทในการสร้างสรรค์เกมมากขึ้น ปาณเดชา ก็เด่นมากๆ เลยครับ สองคนนี้เขาอยู่ในทีมชาติไทยยู-19 รุ่นเดียวกับพวก ชนาธิป, ฐิติพันธ์, ธนบูรณ์ ด้วยนะครับ (สมัยนั้น ปาณเดชา ยังใช้ชื่อว่า สุบรรณ เงินประเสริฐ) อเด คิดว่าน่าจะถึงเวลาของพวกเขาบ้างแล้วหรือยังที่จะติดทีมชาติไทย
อเดบาโย : โจ๋ กับ บาส หรอครับ อ๋อ นักเตะกลุ่มนี้มีความสามารถสูงทุกคนอยู่แล้วครับ ผมคิดว่านักเตะแต่ละคนจะมีช่วงเวลาของตัวเอง เขาอาจจะมีช่วงเวลาที่ก้าวขึ้นมาช้ากว่าคนอื่นๆ ในรุ่นเดียวกัน แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่เก่งเท่าคนอื่นนะครับ เขาเพียงรอคอยเวลาของเขาเท่านั้นเอง ซึ่งปีนี้องค์ประกอบในทีมเราก็ส่งผลดีต่อเขามากๆ เพราะเราทำงานกันเป็นทีม อยู่ด้วยกัน ช่วยเหลือกัน ทุกคนก็น่าจะมีโอกาสได้โชว์ความสามารถได้เต็มที่ครับ
แมน : กำลังสำรองจะเป็นปัญหาในระยะยาวมั้ยครับ ถ้าเกิดตัวหลักมีอาการบาดเจ็บหรือฟื้นฟูร่างกายไม่ทัน ในช่วงที่โปรแกรมเตะถี่ๆ
อเดบาโย : ไม่มีปัญหานะครับ เราก็ไม่ได้เตะถี่มากนะครับ มีแค่บางสัปดาห์ที่เราต้องเตะวันพุธ ส่วนใหญ่ก็เตะอาทิตย์ละเกม แล้วทีมเรามีการแข่งขันสูงอยู่นะครับ นักเตะทุกคนรู้ดีครับว่ามีโอกาสขึ้นมาเป็นตัวจริงได้เสมอ ต้องแข่งขันกันตลอดครับ
แมน : ตำแหน่งประตูล่าสุดเป็น พาทริค เดย์โต้ ได้ลง เป็นเพราะ เยี่ยม สหวิทย์ ขำเปี่ยม มีอาการบาดเจ็บอยู่หรือเปล่าครับ ตำแหน่งนี้ก็ถือว่าการแข่งขันสูงมั้ย เพราะก่อนหน้านี้ เยี่ยม ก็ทำผลงานได้ดี
อเดบาโย : เยี่ยมเขายังเจ็บหัวไหล่อยู่ แต่ พาทริค เขาก็เก่งอยู่แล้วครับ ทุกตำแหน่งมีการแข่งขันกันหมดครับ นี่คือสิ่งที่ดีนะครับ เพราะทุกคนไม่มีใครการันตีว่าจะได้ลงเล่นตลอด ถ้าตอนซ้อมทำได้ดีก็มีโอกาสครับ
แมน : ปีนี้ อเด มองว่ามีนักเตะคนไหนของ สุพรรณบุรี ที่น่าจับตามองเป็นพิเศษมั้ยครับ ว่าจะเป็นปีทองของเขา
อเดบาโย : ทุกคนเลยล่ะครับ ไม่ใช่แค่นักเตะไทยนะ นักเตะบราซิลทั้ง อาลีฟ (Alef), ฟีลิป (Felipe Amorim), เอลียังดรู (Eliandro Gonzaga) ก็ดีมากๆ นะครับ คุณจะเห็นว่านักเตะบราซิลของเราเล่นเป็นทีมเวิร์คกับนักเตะไทยมากๆ ไม่มีหวงบอล ไม่มีการต่อว่ากัน นั่นเป็นเพราะเราคุยกันทั้งตอนซ้อมและตอนอยู่ร่วมกันครับ ว่าพวกเราต้องเล่นด้วยกัน ถ้าทีมชนะเราชนะด้วยกัน ถ้าแพ้ก็แพ้ด้วยกัน ไม่มีแบบคุณเล่นดีแต่ทีมแพ้ หรือคุณเล่นดีคนเดียวแล้วทำให้ทีมชนะ แบบนั้นไม่ถูกต้องในความคิดผมครับ
แมน : ก็คือเน้นความเป็นยูนิตี้ภายในทีมนะครับ ประเด็นนี้ที่ผมถาม เพราะเชื่อว่าในการประกาศรายชื่อนักเตะทีมชาติไทยที่ อากิระ นิชิโนะ จะเรียกไปเก็บตัวช่วงเดือน ต.ค. นี้ อาจจะเป็นโอกาสของนักเตะใหม่หลายๆ คน เพราะเขาไม่สามารถเรียกนักเตะของทีมที่ถูกเลื่อนโปรแกรมในลีกได้ รวมถึง 4 คนที่อยู่เจลีกก็มาไม่ได้เพราะติดเรื่องการเดินทาง ซึ่งผมมองว่านักเตะสุพรรณบุรี ก็อาจจะมีลุ้นด้วยครับ
อเดบาโย : ตรงนั้นก็แล้วแต่ทาง มร.อากิระ จะตัดสินใจนะครับ ผมไม่อยากแสดงความเห็นว่าเขาควรเรียกใครไปติดทีมชาติ แต่ผมยินดีมากๆ นะครับถ้านักเตะของเราจะได้ไปรับใช้ทีมชาติไทย เพราะตัวผมเองถึงจะเป็นคนอัฟริกัน (ไนจีเรีย) แต่ผมอยู่เมืองไทยมา 20 กว่าปีแล้วครับ ผมซาบซึ้งบุญคุณของแผ่นดินไทย ภรรยาผมก็เป็นคนไทย ลูกๆ ผมก็ถือสัญชาติไทยทุกคนครับ ถ้าทีมชาติไทยต้องการเรียกนักเตะในทีมของผมไป ผมจะยินดีมากครับ
แมน : พูดถึงเรื่องลูกๆ ของ อเด มีคนเคยฝากผมถามมาครับ ว่าลูกชายของ อเด เตะฟุตบอลหรือเปล่า
อเดบาโย : ลูกชายผมไม่เล่นกีฬาเลยครับ ตอนนี้เขาก็เล่นเกมส์เล่นคอมไปตามวัย เราก็ตามใจเขาครับ เขาอาจจะชอบทางด้านอื่นมากกว่า แต่ลูกสาวผมเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลครับ เขาเก่งที่สุดในโรงเรียนตอนที่อยู่มัธยมที่ไทย ตอนนี้เขาไปเรียนต่อที่แคนาดาครับ แล้วก็เล่นบาสเก็ตบอลให้ทางมหาวิทยาลัยด้วย
แมน : มีแนวโน้มที่จะเทิร์นโปรไปเล่นบาสลีกอาชีพมั้ยครับ
อเดบาโย : ก็น่าจะมีนะครับ เขาก็อยากไปทางนั้นอยู่แล้ว แต่ผมก็แล้วแต่เขาครับ
แมน : อเดน่าจะเป็นห่วงลูกสาวมากเลยมั้ยครับ เจอช่วงโควิดแบบนี้ การใช้ชีวิตที่นั่นจะเป็นยังไง แล้วลูกสาวของอเด ถือสัญชาติไทยอย่างเดียวเลยใช่มั้ยครับ เผื่ออนาคตอาจจะได้เล่นบาสหญิงให้ทีมชาติไทย
อเดบาโย : ตอนนี้อยู่เมืองไทยครับ โชคดีว่าโรงเรียนเขาปิดภาคเรียนแล้วก็กลับมาก่อนช่วงโควิด ถ้ากลับมาช้ากว่านี้ก็อาจจะลำบากหน่อยครับ เขาถือสัญชาติไทยเป็นคนไทยครับ เพราะคุณแม่เขาเป็นคนไทย แล้วก็เกิดที่เมืองไทยครับ
แมน : ขอวกกลับมาที่เรื่องทีมสุพรรณบุรีนะครับ พอชนะในเกมล่าสุด ตอนนี้เริ่มมีความหวังที่สูงขึ้นไปอีกระดับมั้ย แล้วทางบอร์ดบริหารตั้งเป้าหมายให้ อเด ไว้ยังไงบ้างในเลกแรกหรือซีซั่นนี้ครับ
อเดบาโย : ทางผู้บริหารไม่ได้กดดันอะไรผมเลยนะครับ เขาก็บอกว่าเชื่อว่าผมทำได้ เป้าหมายของผมก็คงทำอันดับให้ดีที่สุด ขึ้นอยู่กับว่าดีที่สุดของเราจะไปจบที่ตรงไหน ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ครับ แต่สำหรับตัวผมเองถ้ามองในจุดที่ว่าเราเป็นนักเตะต่างชาติคนเดียวที่อยู่จนมาเป็นโค้ชในไทยลีก ตอนนี้ไม่มีใครนอกจากผมเลยนะครับ ผมเองก็เคยคว้าแชมป์ไทยลีกกับ บีอีซี เทโร ศาสน ผมก็มีความฝันเอาไว้ว่าอยากจะเป็นคนต่างชาติคนแรกที่คว้าแชมป์ไทยลีกได้ทั้งในฐานะนักเตะและโค้ชครับ มันเป็นฝันที่ผมหวังลึกๆ ว่าจะสมหวังในสักวันครับ
แมน : เลกแรกถ้าจบอันดับ 1-4 จะได้ไป เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ถามจริงๆ ว่า อเด ลุ้นให้สุพรรณบุรีไปอยู่ตรงนั้นมั้ยครับ
อเดบาโย : ผมเคยได้ไปเล่นถ้วยเอเชียหลายครั้งครับ ก็เหมือนกันครับ ผมเคยไปเล่นในฐานะนักเตะ ผมก็อยากพาทีมไปในฐานะโค้ชให้ได้เหมือนกันครับ
แมน : ตอนก่อนจะเริ่มนัดแรกหลังช่วงโควิด มีหลายคนบอกว่า อเด น่าจะเป็นหนึ่งในกุนซือที่เครียดมากๆ แต่หลังจบเกมกับ โคราช มีการพูดเล่นๆ ว่า อเด หล่อขึ้นเยอะเลย
อเดบาโย : 555 ผมไม่ได้เครียดอะไรเลยครับ ไม่ได้มีความกดดันอะไรเลย เพราะผมเชื่อมั่นในทีมของเราครับ และผู้บริหารก็ไม่ได้มากดดันอะไรผมด้วยครับ ปีนี้เราเจอสถานการณ์ที่ไม่ปกติ หลายๆ สโมสรก็ต้องพยายามประคองตัวให้ผ่านพ้นไปด้วยกัน ซึ่งผมคิดว่ายิ่งเราไม่ถูกกดดัน ไม่ถูกคาดหวัง ไม่ได้ถูกมองเป็นทีมเต็ง เรายิ่งรีแล็กซ์ เราเป็นตัวของตัวเอง เรากล้าเล่นกล้าทำผลงานมากขึ้นไปอีกครับ
แมน : ขอบคุณมากๆ ครับ อเด ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ ไว้โอกาสหน้าผมจะขอรบกวนใหม่ครับ
อเดบาโย : ยินดีมากๆ ครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณภาพประกอบจากเพจ Suphanburi FC : Photo by Viwat Rueangsomboon
ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์)