:::     :::

จานลุยจิ บุฟฟ่อน กับจิตใจที่เข้มแข็ง

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,673
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
กลายเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ วงการฟุตบอลอิตาลี

สำหรับ​ “จานลุยจิ บุฟฟ่อนผู้รักษาประตูระดับตำนานของทีมชาติอิตาลี และสโมสรยูเวนตุส เจ้าของสถิติเป็นผู้เล่นที่ลงสนามในศึกกัลโช่ เซเรีย อา มากสุดในประวัติศาสตร์


อย่างไรก็ตาม บุฟฟ่อน เกือบจะไม่ได้สร้างตำนานในเส้นทางสายลูกหนัง และเกือบไม่เคยสัมผัสแชมป์ฟุตบอลโลก เนื่องจากเขาเคยประสบปัญหาในแง่ของสภาพจิตใจอย่างหนัก โดยถือเป็นการเสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากับโรคซึมเศร้า

ย้อนกลับไปปี 2003 ถือเป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าจดจำของบุฟฟ่อน เมื่อยูเวนตุส พ่ายต่อเอซี มิลาน ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ผลการแข่งขันดังกล่าว ไม่เพียงสร้างความน่าเสียดายเท่านั้น ในช่วงปลายปีดังกล่าว บุฟฟ่อน ยังต้องพบกับข่าวร้าย เมื่อถูกแจ้งว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับอาการซึมเศร้า


กระนั้น ไม่ใช่การเผชิญหน้าครั้งแรก เมื่อบุฟฟ่อน ต้องเจอโรคซึมเศร้า ตั้งแต่ที่เขาย้ายจากปาร์ม่า มาเฝ้าเสาให้กับยูเวนตุส ในช่วงปี 2001 โดยเวลานั้นเขารู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้มีค่าในสายตาคนทั่วไป ที่มองเขาเป็นนักฟุตบอล ไม่ใช่ฐานะมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง หลายต่อหลายครั้งที่เขาแจ้งกับโค้ชว่า ไม่พร้อมจะลงทำการแข่งขัน 


บุฟฟ่อน เริ่มเล่าวว่า นับตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2003 จนถึงเดือนมิถุนายน 2004 เขาต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคซึมเศร้า จากนั้น เขาตัดสินใจเดินทางไปเข้าพบนักจิตวิทยา เนื่องจากเขาเริ่มไม่มีความสุขกับชีวิตส่วนตัว รวมถึงการเล่นฟุตบอลด้วย มันตามมาด้วยอาการหลายอย่างมากมาย ที่นำพาเขาดำดิ่งไปสู่ห้วงอารมณ์ที่ตกต่ำ 

สิ่งที่บุฟฟ่อน ต้องเผชิญหน้า และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ นอกจากภาวะซึมเศร้าแล้ว ขาสองข้างเริ่มสั่นแบบเฉียบพลัน โดยที่ไม่สามารถที่จะบังคับตัวเองได้เลย ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่แสนจะมืดมน เพราะโดยปกติแล้ว เขาถือว่าเป็นคนร่าเริง และมองโลกในแง่ดีเป็นอย่างมาก 


ปัญหาดูเหมือนจะลุกลามมากขึ้น ทำให้บุฟฟ่อน จำเป็นต้องหาทางออกเป็นการด่วน เขาตัดสินใจบอกเรื่องดังกล่าวกับบรรดาคนใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว, เพื่อนร่วมทีม และเพื่อนฝูง ที่คอยช่วย และสนับสนุนเขาในทุกเรื่องที่ต้องการ กระทั่งอาการป่วยของเขาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับสลัดออกจากความเศร้าได้บ้าง 


บุฟฟ่อน กล่าวต่อว่า ทุกอย่างคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี จากที่เขาเคยรู้สึกหวาดกลัวในการลงสู่สนาม แต่ในศึกยูโร 2004 รอบสุดท้าย เกมที่ทีมชาติอิตาลี ประเดิมทัวร์นาเมนต์กับทีมชาติเดนมาร์ก ถือเป็นนัดที่น่าหวั่นเกรง เนื่องจากเป็นเกมที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด แต่เขากลับเป็นคนเดียวในสนาม ที่ยังสามารถยิ้มออกได้

บุฟฟ่อน เปิดเผยต่อในภายหลังว่า เขาต้องต่อสู่กับภาวะของจิตใจ และอาการซึมเศร้าอย่างหนัก เพราะเขาไม่ต้องการพัก และหายไปจากการเล่นฟุตบอล เพราะเขารู้สึกแล้วว่า นี่คือความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ต่อเพื่อนร่วมทีม และคนที่คาดหวังในตัวเขา ซึ่งเขาไม่อยากทำให้ผู้คนเหล่านั้นรู้สึกย่ำแย่ตามไปด้วย 


นี่คือการต่อสู้ของบุฟฟ่อน ที่ 3 ปีต่อมา หลังจากโดนโรคซึมเศร้าเล่นงาน เขากลับมาต่อสู้กับมัน จนพลิกกลับมาพาทีมชาติอิตาลี คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกอย่างยิ่งใหญ่ แน่นอนว่า ทำให้เขายืนหยัด ด้วยการลงเล่นฟุตบอล ล่วงเลยมาจนถึงวัย 42 ปี และยังคงเดินหน้าไขว่คว้าความสำเร็จต่อไป 


บุฟฟ่อน ทิ้งท้ายว่า หากเขาไม่ได้ผ่านประสบการณ์นั้น เขาก็อาจไม่สามารถหลุดพ้นจากมันได้ เขาสามารถเข้าใจอย่างชัดเจนว่ามันเป็นจุดพลิกผัน ระหว่างการยอมแพ้ กับการเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่มั่นคง เขาไม่เคยเกรงกลัวที่จะแสดงให้เห็น หรือว่าร้องไห้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา ไม่รู้สึกว่ามันน่าอับอายเลย

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด