10. พอล แลมเบิร์ต (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์) 

แม้ แลมเบิร์ต ค้าแข้งกับ ดอร์ทมุนด์ ช่วงสั้นๆแต่เป็นประสบการณ์หอมหวาน 

ซีซั่นเดียวคือ 1995-96 ผู้เล่นสกอตต์ร่วมคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก นับเป็นดาวเตะสหราชอาณาจักรคนเดียวที่หากินต่างบ้านต่างเมืองแล้วครองเจ้ายุโรป 

ผลงานของอดีตมิดฟิลด์คนนี้ก็โดดเด่นทั้งรอบรองฯ และนัดชิงชนะเลิศ ไฮไลท์คือสั่งสอน แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งสองเลก รอบตัดเชือก หรือแมตช์ชิงฯ ที่ชนะ ยูเวนตุส 3-1 ก็จับตาย ซีเนดีน ซีดาน จนเหมือนนักเตะบ้านๆ 

9.  เกล็น ฮ็อดเดิ้ล (โมนาโก ) 

ฮ็อดเดิ้ล โด่งดังอยู่ก่อนฐานะแข้งอังกฤษฝีเท้าดี จึงมีโอกาสไปโชว์ที่ต่างแดน 

โดยเหตุผลมี 2 ปัจจัยคือ เรื่องแรกสโมสรจากอังกฤษโดนห้ามแข่งฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป เพราะคดีที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล ก่อเมื่อโศกนาฏกรรม เฮย์เซล ปี 1985 กว่าจะได้บู๊อีกก็หลังฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 1990 

กับเรื่องสองสไตล์ของ ฮ็อดเดิ้ล ดูเป็นสากลมากกว่าบอลบู๊ล้างผลาญของอังกฤษ

ตอนโยกสู่ โมนาโก ปี 1987 โดยเทรนเนอร์ อาร์แซน เวนเกอร์ คุมทัพ แล้วมิดฟิลด์ผู้ดีก็ตอบแทนความคุ้มค่าคว้ารางวัลผู้เล่นต่างชาติยอดเยี่ยมแห่งปี แล้วส่งทีมได้แชมป์ ลีก เอิง 

หากไม่เผชิญปัญหาเจ็บเข่ารบกวนจนไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งได้เหมือนเดิม เชื่อว่าอดีตผจก.ทีมชาติอังกฤษคงประสบความสำเร็จมากกว่านี้ 

8. เดวิด เบ็คแฮม (เรอัล มาดริด/แอลเอ แกแล็กซี่/เอซี มิลาน/ เปแอสเช) 

หากการจัดอันดับเอาแค่ผลเรื่องการตลาด บอกเลยว่าผู้ชายคนนี้ยืนหนึ่ง แต่มันรวมเรื่องผลงานความสำเร็จด้วยจึงได้แค่ที่ 8 

เบ็คแฮม ออกไปเผชิญโลกกว้างเมื่อปี 2003 หลังย้ายออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด 

เขาเป็นส่วนหนึ่งของ เรอัล มาดริด ยุค กาลาติกอส ร่วมคว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน จากนั้นโยกไปเป็นหน้าเป็นตา เมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ สหรัฐฯ

'เบ็คส์' อาศัยเวลาว่างที่ลีกมะกันปิดซีซั่นกลับมาค้าแข้งที่ยุโรปกับ มิลาน และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 

หากเอาความหลากหลายเรื่องแชมป์ลีกที่ได้รับทั้ง สเปน, สหรัฐฯ และฝรั่งเศส หนุ่มเบ็คแฮม ก็หลากหลายสุดในหมู่นักเตะยูเคส่งออก 

7. เดวิด แพล็ต (บารี่/ยูเวนตุส/ซามพ์โดเรีย)

เดวิด แพล็ต คือนักเตะยอดนิยมของเซเรีย อา อิตาลี เพราะเมื่อย้ายไป บารี่ ปี 1991 บรรดาสโมสรใหญ่ของที่นั่นล้วนจ้องตาเป็นมัน 

แม้สถิติผลงานฐานะหอกเป้าไม่น่าประทับใจ แต่เรื่องความขยัน, ทักษะกับลูกฟุตบอล เป็นเหตุให้ ยูเวนตุส ติดต่อดึงร่วมงานในฤดูกาลต่อมา 

ไฮไลท์ฐานะ ยูเว่ คือเป็นแชมป์ ยูฟ่า คัพ 1992 แม้ไม่ได้เล่นนัดชิงฯ แต่รอบรองฯ ทั้งสองเลกมีส่วนร่วม

เวลาต่อมาไปสนิทกับ โรแบร์โต้ มันชินี่ กองกลางทีมชาติอิตาลี ล่มหัวจมท้ายที่ ซามพ์โดเรีย ร่วมคว้าแชมป์ โคปปา อิตาเลีย 1994 แล้วจึงได้กลับอังกฤษปี 1995 มาอยู่ อาร์เซน่อล

6. สตีฟ แม็คมานามาน (เรอัล มาดริด)

แม็คมานามาน อยากทดสอบตัวเองบนเวทียุโรป จึงผละจาก ลิเวอร์พูล เมื่อปี 1999 ไปเล่นให้ เรอัล มาดริด 

'แม็คก้า' ประสบปัญหาในช่วงแรกจากเคยเล่นปีกแบบอังกฤษ แต่ไปอยู่สเปนไม่เข้าสไตล์จึงปรับสไตล์มาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง 

ไฮไลท์ผลงานคือแชมป์ ชปล.เมื่อวอลเล่ย์ตุงตาข่ายนัดชิงฯพบ บาเลนเซีย ปี 2000 ทว่าจากนั้นไม่นานผู้บริหารทีมบีบนักเตะทีมชาติอังกฤษให้ออกจาก ซานติอาโก เบร์นาเบว เพื่อหาเงินไปซื้อ หลุยส์ ฟิโก้ 

ทว่านักเตะปฏิเสธข้อเสนอของ มิดเดิ้ลสโบรช์, เชลซี และ ลาซิโอ ยืนกรานอดทนที่ มาดริด ต่อไป 

กระทั่งมาได้รางวัลตอบแทนจากเทรนเนอร์ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ให้อยู่แผนงาน จนได้แชมป์ชปล. 2002 อีกสมัย จึงกลับอังกฤษมาเล่นให้ แมนฯ ซิตี้  

5. คริส ว็อดเดิ้ล (มาร์กเซย)  

ผู้เล่นสหราชอาณาจักรไม่กี่คนที่ไปเล่นต่างแดนแล้วจะกลายเป็นขวัญใจแฟนบอลท้องถิ่น โดยหนึ่งในนั้นคือ ว็อดเดิ้ล 

เขาย้ายจาก ท็อตแน่ม เมื่อปี 1989 สู่ตอนใต้ฝรั่งเศส แล้วใช้ความทุ่มเทมัดใจกองเชียร์เมืองน้ำหอมจนรับฉายา 'มหาเวทย์ คริส' 

เล่นกับ 'โอแอ็ม' ได้แชมป์ลีก เอิง 3 สมัย แต่ยิงจุดโทษพลาดจนทีมอดแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1991

เรื่องที่โดนแซวถึงทุกวันนี้ระหวางค้าแข้งที่สต๊าด เวโลโดรม คือการผนึกกำลังทีมเมต บาซิเล่ โบลี่ ออกผลงานเพลง 'วี เฮฟ ก็อต เดอะ ฟีลลิ่ง'  

4.แกรี่ ลินิเกอร์ (บาร์เซโลน่า/นาโงย่า แกรมปัส เอตท์ ) 

หนึ่งในกองหน้าสัญชาติอังกฤษที่ดีสุดตลอดกาลถูกจับจ้องโดยโลกลูกหนังจากผลงานดาวซัลโว เวิลด์ คัพ 1986 ซึ่งหนึ่งทีมที่เล็งคือ บาร์เซโลน่า 

กระทั่งโดนเซ็นสัญญาโดย เทอร์รี เวนาเบิ้ลส์ เทรนเนอร์เวลานั้น ผลงานฤดูกาลแรกเด่นทันที 21 สกอร์ โดยกดเบิ้ลตั้งแต่นัดเปิดตัว

เจ้าของฉายา 'มิสเตอร์ ไนซ์ กาย' เป็นแชมป์ โกปา เดล เรย์, ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ และสร้างชื่อจากแฮตทริกใส่ เรอัล มาดริด คู่อริ 

ลินิเกอร์ กลับมาชุบตัวที่อังกฤษอีกครั้งปี 1989 แล้วค่อยทิ้งทวนอาชีพที่ญี่ปุ่นกับสโมสร นาโงย่า แกรมปัส เอตท์ สองฤดูกาล

3. แกเร็ธ เบล (เรอัล มาดริด)

แม้โดนบีบให้ย้ายออกจาก เรอัล มาดริด แต่ต้องยอมรับว่าผลงานของ เบล ที่ มาดริด จับต้องได้ 

เมื่อย้ายจาก สเปอร์ส ไปซานติอาโก เบร์นาเบว ปี 2013 ก็ด้วยราคาสถิติโลก ภาพรวมมักทำประตูเกมใหญ่อย่างนัดชิงน โกปา เดล เรย์ 2014 โซโล่กดใส่ บาร์เซโน่า หรือเป็นการยิงนัดชิงฯ ชปล. 2 หน 

ทว่าความไม่ลงรอยกับเทรนเนอร์ ซีเนดีน ซีดาน ทำให้ต้องหยุดชีวิตฐานะ มาดริด เพียง 7 ซีซั่น  ร่วมคว้า 2 แชมป์ ลา ลีกา สเปน, 1 โกปา เดล เรย์, 4 แชมเปี้ยนส์ ลีก, 3 ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 

2.เควิน คีแกน (ฮัมบูร์ก) 

คีแกน คือฟันเฟืองสำคัญช่วย ฮัมบูร์ก ปะสบความสำเร็จระหว่างค้าแข้ง แล้วเป็นนักเตะยูเคเพียงไม่กี่คนในทศวรรษนั้นที่ค้าแข้งต่างแดน 

เพราะอิ่มตัวกับความสำเร็จที่ ลิเวอร์พูล ทำให้ คีแกน ออกไปท้าทายความสามารถต่างแดน 

แม้ช่วงแรกติดหล่ม แต่พอปรับตัวได้ก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมัน ส่วนเกียรติยศบุคคลได้บัลลง ดอร์ 1978 และ 1979  

1. จอห์น ชาร์ลส์ (ยูเวนตุส/โรม่า) 

ไม่มีนักเตะสหราชอาณาจักรคนไหนที่ประสบความสำเร็จมากกว่า จอห์น ชาร์ลส์ เจ้าของฉายา 'ยักษ์ใจดี' ผู้เป็นที่รักของสโมสร ยูเวนตุส ทั้งเรื่องนิสัยการวางตัวและจำนวนประตู

เขาไม่เคยโดนใบเหลือง-ใบแดงตลอดอาชีพ ตอนย้ายไป ยูเว่ สนนราคา 65,000 เมื่อปี 1957 ก็เป็นสถิติแพงสุดนักเตะยูเคแล้ว

ทั้งยังเป็นแข้งส่งออกจากสหราชอาณาจักรรายแรกๆ โดย ชาร์ลส์ พกส่วนสูง 6 ฟุต - 2 นิ้ว ไปเป็นดาวซัลโวเซเรีย อา ตั้งแต่ฤดูกาลแรก โดยประสานงานกับ เอ็นริเก้ ซิโวรี่ และ จามปิเอโร่ โบนิเปอร์ติ จนถูกตั้งฉายาว่า 'สามศักดิ์สิทธิ์' 

ผลงาน 108 ประตูจากการลงสนาม 155 นัดให้ ยูเวนตุส คว้าสคูเด็ตโต้ 3 สมัย, 2 โคปปา อิตาเลีย 

เมื่อปี 1997 ได้รับโหวตให้เป็นนักเตะต่างชาติที่ดีสุดประวัติศาสตร์สโมสร แม้ตอนย้ายไปเล่น โรม่า ปี1962 ไม่เปรี้ยงแล้วก็ตาม