:::     :::

กว่าจะมีวันนี้ของ "ดิโอโก้ โชต้า"

วันเสาร์ที่ 19 กันยายน 2563 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
4,725
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
"นี่เป็นการย้ายทีมที่ถอยหลังลงคลองของเขา เด็กมีพรสวรรค์อย่าง โชต้า ไม่ควรไปเล่นกับทีมแบบนี้"

นั่นเป็นเสียงก่นบ่นของนักข่าวในโปรตุเกส หลังจากรู้ว่าดาวรุ่งที่ฝีเท้าดีมาก ๆ อย่าง "ดิโอโก้ โชต้า" เลือกย้ายไปอยู่กับ วูล์ฟแฮมตัน ในปี 2017 ซึ่งบนช่วงเวลานั้น ทีมหมาป่ายังเล่นในระดับแชมเปี้ยนชิพ อีกด้วย

"ทุกคนต่างงุนงงกับการตัดสินใจของผม มีเพียงครอบครัวของผมเท่านั้นที่รู้ว่าผมกำลังทำและกำลังคิดอะไรอยู่"
------------------------------------------------------------------

หมุนเข็มนาฬิกากลับไปยังวันที่ 4 ธันวาคม 1996 อิซาเบล กับ โจอาคิม ซิลวา ได้ให้กำเนิดเด็กชายขึ้นมาคนหนึ่ง พวกเขาตั้งชื่อเด็กน้อยคนนั้นว่า "ดิโอโก้ โชเซ่ เทย์เซร่า ดา ซิลวา" พร้อมกับมีนิคเนมสั้น ๆ ว่า "โชต้า"

ดิโอโก้ เติบโตมาในเมือง มาสซาเรโลส ซึ่งเป็นเขตปกครองส่วนท้องถิ่นเล็ก ๆ ในเมืองปอร์โต้ ทุกวันหลังเลิกเรียน ดิโอโก้มักจะออกไปวิ่งไล่หวดลูกหนังตามท้องถนนและในสนามกีฬาของโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นทั่วไป เมื่ออายุได้ 9 ขวบ เขากลายเป็นสมาชิกเยาวชนของทีม กอนโดมาร์ สโมสรลูก ของ เอฟซี ปอร์โต้

แต่ด้วยความสามารถที่เก่งเกินวัย ดิโอโก้มักจะเล่นฟุตบอลแบบข้ามรุ่นอยู่เสมอ จนกระทั่งได้ย้ายไปอยู่กับทีมที่ใหญ่กว่าอย่าง ปากอส เดอ แฟร์เรร่า ในเวลาต่อมา

ที่นี่ คือที่ที่ทำให้เขาได้พบกับ รูเบน คาร์วัลโญ่ โค้ชเยาวชนชุดอายุต่ำกว่า 17 ซึ่งประทับใจในตัวของ ดิโอโก้ตั้งแต่วันที่มาทดสอบฝีเท้า

"มีอยู่สุดสัปดาห์นึง ทีมเราต้องเล่น 2 เกมติดกัน วันเสาร์ผมส่ง ดิโอโก้ ลงเป็นตัวจริง เขายิงแฮตทริค ส่วนวันอาทิตย์ผมส่งเขาลงครึ่งหลังตอนโดนนำ เขายิง 2 ลูก พาทีมเรากลับมาชนะได้อย่างยอดเยี่ยม นับจากวันนั้น ผมรู้ทันทีว่าเด็กคนนี้คือโปรเจคท์สำคัญที่ผมสามารถผลักดันเขาไปจนติดทีมชุดใหญ่ได้ในอนาคต"

รูเบน ใช้เวลาแค่ 1 ปีเท่านั้นในการผลักดัน ดิโอโก้ ไปจนถึงชุดใหญ่อย่างที่หวัง ก่อนที่ศิษย์รักคนนี้จะทำประตูแรกได้ในช่วงท้ายฤดูกาล 2014-15 แถมยังเป็นการทำ 2 ประตู อีกต่างหาก

ดิโอโก้ ขึ้นแท่นกลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดของ ปากอส ที่ทำประตูในลีกสูงสุดได้ และยังเป็นแข้งโปรตุเกสที่อายุน้อยที่สุด ซึ่งยิงได้ 2 ประตูในเกมเดียวบน พรีเมร่า ลีกา อีกด้วย โดยดาวรุ่งอายุน้อยที่สุดคนสุดท้ายที่ทำได้คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สมัยเล่นให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน โน่นเลยทีเดียว

เมื่อเข้าสู่ ฤดูกาล 2015-16 ดิโอโก้ กลายเป็นตัวหลักของ ปากอส เต็มตัว เขายิงได้ถึง 14 ประตู กับ 10 แอสซิสต์ รวมทุกถ้วยทุกรายการ ถูกบันทึกว่าเป็นนักเตะอายุ 19 ปีคนแรกที่ยิงในลีกได้ 12 ประตูในฤดูกาลเดียว และได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดในฤดูกาลดังกล่าวอีกกระทง



ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นขนาดนั้น ดิโอโก้จึงถูก แอตเลติโก มาดริด ซื้อตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวถึง 7 ล้านยูโร ก่อนตราหมีจะเลือกปล่อยให้ ปอร์โต้ ยืมตัวมาใช้งาน 1 ฤดูกาล

ที่ เอฟซี ปอร์โต้, ดิโอโก้ ได้เล่นร่วมกับ รูเบน เนเวส และกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน เขายิงประตูแรกใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้บนนัดที่พบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ แถมทำแฮตทริคให้กับ ปอร์โต้ ได้ในการลงเล่นเพียงนัดที่ 5 อีกต่างหาก

9 ประตู 7 แอสซิสต์ จาก 38 นัด คือตัวเลขที่หรูหราหมาเห่ามากแล้วสำหรับเด็กวัย 20 ปี แต่มันยังไม่ดีพอที่จะทำให้ แอตเลติโก มาดริด เหลียวมอง ดิโอโก้ถูกยื่นหนังสือเพื่อส่งออกไปยืมตัวอีกครั้ง ว่ากันว่ามีหลายทีมดังในยุโรปที่สนใจออปชั่นนี้ แต่สุดท้าย ดิโอโก้กลับเลือกทางเดินที่ทำให้ทุกคนต้องตั้งคำถาม

ดิโอโก้ โชต้า เลือกไปเล่นในแชมเปี้ยนชิพกับ วูล์ฟแฮ​มป์ตัน



"ในโปรตุเกส ทุกคนไม่เข้าใจว่าทำไมผมเลือกไปเล่นในลีกรอง หลายคนบอกว่าผมกำลังถอยหลังลงคลอง ขนาดเพื่อนสนิทอย่าง รูเบน เนเวส ยังถามผมย้ำ ๆ เลยว่า คิดดีแล้วเหรอ?"

"ทุกคนเอาแต่พูดในด้านลบ แต่โชคดีที่ครอบครัวของผมเข้าใจและเชื่อมั่นในการตัดสินใจของผม"


เหตุผลสำคัญที่ ดิโอโก้ เลือกมาอยู่กับ วูลฟ์ฯ มีแค่เหตุผลเดียวครับ นั่นก็คือ "นูโน่ เอสโปซิโต้ ซานโต" โค้ชของทีม

นูโน่ เสนอโปรเจคท์ยักษ์ในหัวให้ดิโอโก้ฟัง เขาเล่าถึงแผนพัฒนาทีมในระยะยาว ความทะเยอทะยาน รวมไปถึงการแสดงวิสัยทัศน์ในการต้องการผลักดันตัวเขาอย่างเต็มที่ เลยทำให้ดิโอโก้ค่อนข้างมั่นใจว่าการถอยหลังก้าวนึงครั้งนี้ของเขา จะเป็นการถอยเพื่อวิ่งแล้วก้าวกระโดดได้ในอนาคตอันใกล้



"บางครั้ง หากคุณอยากประสบความสำเร็จ การถอยหลังบ้างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ผมได้ฟังโปรเจคท์ของพวกเขา เห็นการซื้อตัวเสริมทัพที่ดี ได้รับรู้ถึงแรงทะเยอทะยาน มันทำให้ผมตัดสินใจได้ง่ายขึ้น"

ดิโอโก้ กลายเป็นสตาร์ของทีมในเวลาอันรวดเร็ว เขายิงได้ 17 ประตู 6 แอสซิสต์ พร้อมกับพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาพรีเมียร์ลีกได้ในปีเดียว แถมมาในฐานะแชมป์ อีกด้วย

เมื่อเลื่อนชั้นขึ้นมา ดิโอโก้ยังคงสร้างชื่อให้ตัวเองได้อย่างไม่หยุดหย่อน เขาเป็นนักเตะ วูลฟ์ฯ คนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรที่สามารถทำแฮตทริคได้สำเร็จบนพรีเมียร์ลีก แถมฤดูกาลล่าสุด เขายังอหังการ์ทำแฮตทริคได้ถึง 2 เกมติดต่อกันในถ้วย ยูโรปา ลีก โดยในเกมถล่ม เบซิคตัส เขายิงแฮตทริคจากการลงสำรอง และใช้เวลาเพียงแค่ 12 นาที เท่านั้นในการสลุต 3 ลูก!



"ดิโอโก้ เป็นนักเตะที่เล่นได้ตามแผน และเขาจะเป็นสตาร์ที่โค้ชทุกคนในโลกอยากมีไว้ในมือ" รูเบน คาร์วัลโญ่ โค้ชคนแรกของเขาให้คำจำกัดความถึงศิษย์เอกคนนี้

และจากวันนั้น
วันที่ ดิโอโก้ โชต้า ถูกตั้งคำถามถึงการเลือกถอยหลังไปเล่นในแชมเปี้ยนชิพ เขาได้แสดงให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า การถอยหลัง 1 ก้าว เพื่อสปริงตัวข้ามไปในขั้นที่สูงกว่านั้น ไม่ใช่เรื่องที่ผิดบาปอะไรเลย

กลับกัน มันยังเป็นการยกระดับตัวเองไปถึงจุดที่หลายคนคิดไม่ถึงอีกด้วย

กว่าจะมีวันนี้
วันที่กลายเป็นแข้งระดับทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก เป็นสมาชิกของทีมที่เพียบแปล้ไปด้วยประวัติศาสตร์อันข้นคลั่ก เป็นลูกทีมของโค้ชที่นักเตะค่อนยุโรปอยากมาทำงานด้วย

ดิโอโก้ โชต้า มาไกลจาก เทิร์นนิ่ง พอยต์ วันนั้นเหลือเกิน ทว่า มันก็โคตรคุ้มค่าและเป็นคุณสมบัติที่คู่ควรกับการสวมเสื้อหงส์แดงตัวนี้มากจริง ๆ ใช่มั้ยล่ะครับ




ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})