:::     :::

สยบสิงห์

วันจันทร์ที่ 21 กันยายน 2563 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
2,605
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เชลซีปีนี้เป็นทีมที่ทุกคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาเสริมทัพได้ "ดุดัน" ที่สุดในลีก หรือจะบอกว่าที่สุดในโลกก็ยังไม่เวอร์เกินไปเลยนะครับ ทำให้กองเชียร์ทีมอื่นได้แต่อิจฉาและอยากให้ทีมที่ตัวเองเชียร์เสริมทีมแบบนี้บ้าง แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องมาวัดกันในสนามอยู่ดีนั่นแหละครับ ว่าการที่พวกเขาเสริมทีมครั้งใหญ่ครั้งนี้ มัน"ดีพอ" ที่จะต่อกรกับสุดยอดทีมแห่งยุคอย่างแชมป์เก่าลิเวอร์พูลชุดนี้ไหม .....



แท็กติกพิชิตหงส์

          เหมือนว่าหลายๆ ทีมจะเริ่มรู้แล้วล่ะครับ ว่าจะหาวิธีรับมือหรือสู้กับลิเวอร์พูลได้อย่างไร โดยการดูได้จากเกมแรกที่ลีดส์ ยูไนเต็ดทำให้ทั้งลีกดู นั่นคือการเล่นเกมรับให้รัดกุมและต่อบอลกันตั้งแต่แนวรับแดนตัวเอง เพื่อล่อให้ผู้เล่นลิเวอร์พูลดันเข้ามาแย่งบอลไป ซึ่งนั่นทำให้แผงหลังของลิเวอร์พูลเองก็ต้องดันตัวเองขึ้นสูงตามไปด้วย และพอเป็นแบบนั้น ก็อาศัยจังหวะวางบอลยาวแม่นๆ ให้กองหน้าที่มีความเร็วจัดของทีม ไปวัดกับแผงหลังของลิเวอร์พูลครับ ถ้าจังหวะดีๆ พวกเขาก็จะได้ประตูแบบที่ลีดส์ทำให้ดูนั่นแหละ เกมนี้เชลซีก็ใช้แผนแบบนี้เช่นกันครับ โดยคนที่รับหน้าที่ปั่นป่วนกองหลังของหงส์แดงในวันนี้ก็คือ ติโม แวร์เนอร์ ผู้ซึ่งเลือกเชลซีมากกว่าลิเวอร์พูลนั่นเอง และก็ต้องบอกว่า แผนนี้ได้ผลในระดับนึงครับ แผงหลังลิเวอร์พูลเองก็ดูจะปั่นป่วนไปเหมือนกัน เมื่อเจอเล่นงานแบบนี้ ต่อไปคล็อปป์เอง คงต้องหาทางมารับมือแผนแบบนี้มากยิ่งขึ้นแล้วล่ะครับ เพราะคงมีหลายๆ ทีมเล่นแบบนี้กันเยอะขึ้นแน่ๆ


คำตอบของ CB

          หลังจากการจากไปของ เดยัน ลอฟเรน แฟนๆ ก็เป็นห่วงกับเรื่องตำแหน่งของเซนเตอร์แบ็กของทีมมาตลอดเลยนะครับ เพราะว่าตอนนี้เท่ากับว่า ลิเวอร์พูลนั้นมีกองหลังตัวกลางอยู่แค่ 3 คนเท่านั้น (หรืออาจจะนับว่า 2 คนครึ่งก็ยังได้ เพราะมาทิปนั้นเจ็บบ่อยเหลือเกิน) แฟนๆ ก็ได้แต่ลุ้นว่าลิเวอร์พูลจะซื้อใครมาแทน แต่จากข่าวที่ออกมา เหมือนว่าเจอร์เก้น คล็อปป์และทีมงานของเขาไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรกับเรื่องนี้เท่าไรนัก เป็นแฟนๆ เสียอีกที่ร้อนใจว่าทำไมถึงไม่มีข่าวกับกองหลังตัวกลางอะไรกับเขาเลย ..... วันนี้คำตอบนั้นชัดเจนแล้วครับ คล็อปป์นั้นแก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยการถอยเอาฟาบินโญ่ลงมาเล่นในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง แถมเจ้าตัวนั้นก็โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดเสียด้วย เขานั้นจัดการกับติโม แวร์เนอร์ได้อย่างอยู่หมัดแทบจะเก็บใส่กระเป๋ากลับบ้านไปเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีความเร็วอะไรมากมายแต่ว่าเขานั้นมีการอ่านเกมที่ดีมากๆ ซึ่งมันทำให้เขาเล่นในตำแหน่งนี้ได้อย่างไม่เคอะเขินใดๆ ในเกมนี้นั้นเขาโชว์ฟอร์มได้ดีมากๆ โดยหลายๆ สำนักให้เขาเป็น MOTM ไปเลยด้วยซ้ำ นี่น่าจะเป็นคำตอบที่ดีแล้วสำหรับตำแหน่งกองหลังตัวกลางนี้ และนั่นทำให้ลิเวอร์พูลนั้นดูแข็งแกร่งและลงตัวขึ้นเยอะเลยทีเดียวล่ะครับ

จุดเปลี่ยนของเกม

          ทั้งสองทีมนั้นชิงไหวชิงพริบกันอยู่นาน และดูเหมือนว่าจะระมัดระวังตัวกันสูงทั้งคู่ แต่แล้วจุดเปลี่ยนของเกมก็เกิดขึ้น จากจังหวะที่กัปตันเฮนโด้ เล่นเร็วและมองเห็นช่องว่างในพื้นที่ระหว่างแผงกองหลังกับโกล์ของเชลซี ก็จัดการวางบอลไปยังจุดนัดพบหวังให้มาเน่สปีดหนีไปเอาบอล ซึ่งในจังหวะนั้นก็ดูเหมือนว่ามาเน่จะหลุดเดี่ยวไปดวลกับเกป้าได้แล้วเพราะเขาเหมือนจะสลัดการประกบของคริสเตนเซ่นไปได้ แต่แล้วในคริสเตนเซ่นก็ตัดสินใจรวบมาเน่ล้มลงในจังหวะนั้น กรรมการพอล เทียร์นี่ย์เป่าฟาวล์ทันที แม้ว่าทีแรกเขานั้นจะให้แค่ใบเหลือง แต่พอดู VAR แล้วก็เปลี่ยนมาให้เป็นใบแดงแทน .... และนั่นเองคือ จุดเปลี่ยนของเกมนี้เพราะหลังจากนั้นก็หมดครึ่งแรก และแท็กติกที่ทั้งสองกุนซือเลือกใช้กับสถานการณ์นี้ ยิ่งส่งผลต่อเกมนี้อย่างใหญ่หลวง     โดยทางเจอร์เก้น คล็อปป์นั้นรู้ดีว่าเกมนี้พวกเขาจะเป็นฝ่ายครองเกมโดยส่วนใหญ่อย่างแน่นอน เขาจึงเลือกเอานักเตะใหม่อย่าง ติอาโก้ อัลคันเทร่าลงมาแทนเฮนโด้ที่ดูจะไม่สมบูรณ์เท่าไร ส่วนทางกุนซือเชลซีอย่างแลมพาร์ดนั้นเลือกที่จะเล่นเกมรับโดยการ ส่ง ฟิคาโย่ โทโมรี่ ลงมาแทน ไค ฮาแวร์ตซ์ ซึ่งนั่นทำให้เกมโต้กลับของเชลซีนั้นหมดความน่ากลัวไปเลย และการที่ส่งโทโมรี่เข้ามานั้น ทำให้พวกเขาต่อบอลกันในแดนหลังกันมากจังหวะขึ้น แต่ว่านักเตะของเชลซีนั้นดูจะไม่เหมาะกับแผนนี้ซักเท่าไร พวกเขาดูเหมือนจะทักษะไม่พอที่จะเล่นแผนแบบนี้ ทำให้เราเห็นว่าเชลซีนั้นต่อบอลไม่ได้เลย หรือว่าต้องเตะทิ้งให้ลิเวอร์พูลเอาบอลกลับมาบุกได้บ่อยๆ หรือยิ่งกว่านั้นคือ โดนกดดันจนแย่งบอลไปหลายจังหวะเลยทีเดียว ตรงนี้ต้องบอกว่าแท็กติกที่ทั้งสองฝั่งเลือกมานั้น ทางคล็อปป์เลือกได้ถูกต้องกว่าทางแลมพาร์ดอย่างชัดเจน เพราะตั้งแต่ติอาโก้ลงมานั้น เกมแทบจะเป็นของลิเวอร์พูลอยู่ข้างเดียว และพอลิเวอร์พูลได้ประตูนำไปก่อนด้วย นักเตะเชลซีก็ยิ่งกดดัน และอย่างที่บอกล่ะครับ ว่านักเตะของพวกเขานั้นไม่เหมาะกับแท็กติกแบบนี้ซักเท่าไร นั่นทำให้เราเห็นว่า เกป้าพลาดในจังหวะต่อบอลกันเองแบบนี้จนได้ และมอบของขวัญให้มาเน่ยิงเข้าไปได้อย่างสบายๆ เลย แลมพาร์ดนั้นเป็นกุนซือที่น่าจับตาดูและมีฝีมือจริงครับ แต่ด้านแท็กติกและการแก้เกมนั้น ดูเขายังต้องเรียนรู้อีกมากพอสมควรเลย ....




เปิดตัว ติอาโก้

          ถ้าไม่เขียนถึงเขาคนนี้คงโดนสวดยับเลยทีเดียว ซึ่งก็อย่างที่เห็นนั่นแหละครับ ว่าติอาโก้นั้นฝีเท้าของเขาคือ “ของจริง” อย่างแน่นอน แต่กระนั้นก็อย่าเพิ่งอวยกันจนเกินเลยครับ เกมนี้ที่เราเห็นเขาเล่นได้อย่างสุดยอดทั้งๆ ที่เพิ่งมาเล่นกับเพื่อนร่วมทีมได้ไม่ถึงสัปดาห์นั้นก็เพราะว่าเกมนี้มัน “เข้าทาง” การเล่นของเขาด้วยนั่นแหละครับ คือ ในเกมนี้แทบจะไม่ต้องเล่นเกมรับ และเน้นการครองบอลแบบนี้ การมีนักเตะอย่างติอาโก้นั้นย่อมดีกว่านักเตะที่เน้นเกมรับมากกว่าอย่างเฮนโด้ที่ดูจะไม่ค่อยสมบูรณ์แน่นอนอยู่แล้ว เขาจึงเห็นว่าติอาโก้นั้น เล่นได้อย่างเนียนตาเอามากๆ เขาขยับรับบอล วางบอลไปที่ว่าง และให้บอลอย่างคล่องแคล่วและแม่นยำ ซึ่งดูแล้วเพลินตาดีจริงๆ แต่จริงๆ แล้วเขานั้นก็ยังต้องเรียนรู้จังหวะกับเพื่อนร่วมทีมเพิ่มเติมให้ดีล่ะครับ เพราะเกมนี้จริงๆ แล้วเขาก็ก่อความผิดพลาดขึ้นเหมือนกันเมื่อไปเข้าบอลไม่ระวังไปสะกิดแวร์เนอร์จนเสียจุดโทษ แต่ยังโชคดีที่อลิสซงนั้นเซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ติอาโก้นั้นเล่นเกมเปิดตัวได้อย่างยอดเยี่ยมพอสมควรล่ะครับ แต่ผมเชื่อว่าเขานั้น ดีได้มากกว่านี้อย่างแน่นอน รอดูติอาโก้ร่างสมบูรณ์ได้เลยครับ ฮรี่ๆ
    
          บิ๊กแมชต์ครั้งแรกในปีนี้ของลิเวอร์พูลนั้น ผ่านไปได้อย่างยอดเยี่ยม ลิเวอร์พูลยังคงฟอร์มดีและเก็บผลการแข่งขันได้อย่างสุดยอด และยิ่งกับสถานการณ์ของทีมตอนนี้ ลิเวอร์พูลดูแข่งแกร่งและลงตัวไปทุกขุมกำลังจริงๆ ครับ ต้องเรียกว่าพวกเขานั้น “พร้อม” มากๆ กับการไล่ล่าแชมป์สมัยที่ 20 ครั้งนี้จริงๆ YNWA ครับ ...

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด