วันพระวันเจ้าไม่เว้นกันเลย อยากจะชนะอย่างเดียว ไม่เข้าใจจริง ๆ เลย ทั้งตัวเก๋าทั้งดาวรุ่งตะโกนหาสรรหาแต่ 3 แต้ม เป็นอะไรกัน! เฮ้ยย
ทั้งวันเลย วันนี้ทำงานมีแต่ไฮไลต์บีจีโผล่มาทั้งวันเลย ส่งไปให้แล้วก็ยังจะให้ดูอีก มันหมายความว่าไงเนี่ย คนที่ไหน เชียร์ทีมไหนกันพวกท่านเนี่ย
………….
หลังช่วงไทยลีกสลัดโควิด กลับมาแข่งขันอีกครั้ง หลายคนยังมองว่า การท่าเรือ เอฟซี และ ทรู แบงค็อกฯ ยังคงเป็นทีมเต็งสำหรับหัวตาราง ที่มีโอกาสหยิบโควตา เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ในช่วง 15 นักแรก
สิงห์เจ้าท่า เสริมทัพแบบบ้าคลั่ง อยากได้ตัวไหนมาดามจัดให้ ขณะที่ บียู ยึดทีมชุดเดิมที่มากด้วยคุณภาพอยู่แล้ว ทำให้หลายฝ่ายมองว่า ทั้งสองน่าจะกอดคอเป็นทีมที่มีโอกาสเกาะหัวตารางมากที่สุด
ตัดภาพมาแถวคลอง 4 อีหนึ่งเจ้าบุญทุ่ม ที่เสริมทัพเด็ดไม่แพ้กัน แต่องค์ประกอบโดยรวมในโมงยามนั้น กูรูลูกหนังหลายคนมองว่า ยังไม่เฉียบเท่าที่ควร
ส่วนหนึ่งคือการที่สโมสรทำเซอร์ไพรส์ปล่อยตัวดาวซัลโวอย่าง บาร์รอส ทาเดลลี ออกจากทีม เพราะหลายฝ่ายมองว่า กองหน้าตัวเป้าที่มีไม่น่าเพียงพอจะข่มขวัญคู่ต่อสู้ให้ฝ่อได้
เจนรบ สำเภาดี ที่อิมพอร์ตมาจากท่าเรือคลองเตย เป็นเพียงตัวเลือกลำดับ 3-4 ในถิ่น แพท สเตเดียม ขณะที่ สุรชาติ สารีพิมพ์ อยู่ในวัยปาเข้าไป 34 ปี มีดีที่ท่าดีใจตอนยิงประตูได้เท่านั้น
แม้จะขันน็อตในแนวรับอัด อันเดรส ตูเญซ เข้ามาเติมเต็มหลังบ้าน เล่นร่วมกับ อิรฟาน ฟานดี และ วิกเตอร์ การ์โดโซ แต่เมื่อฟุตบอลตัดสินกันด้วยผลประตู เกมรุกจึงยังคงดูน่าห่วง
หากแต่เมื่อโควิดหลบฉากไป ไทยลีกกลับมาโม่แข้งอีกครั้ง ลูกทีม ดุสิต เฉลิมแสน กลับแสดงให้เห็นอานุภาพอันแข็งแกร่งของทีม
พวกเขาบุกไปตบ การท่าเรือ คาคลองเตย 1-0 ด้วยฝีตีนของอดีตเด็กเก่าอย่าง เจนรบ จนทำให้ จเด็จ มีลาภ ถูกเด้งจากเก้าอี้ ก่อนที่นักล่าสุดจะมาบุกไปเชือด ทรู แบงค็อกฯ ที่ชนะรวดแบบสบายเท้า 2-0 กระโดดขึ้นจ่าฝูงแต่เพียงผู้เดียว
การชนะ 2 ทีมเต็งแชมป์ ของ บีจี ปทุมฯ เปรียบเสมือนการประกาศศักดิ์ดาให้ทีมอื่นในไทยลีกรับรู้ว่า คลอง 4 จะไม่ใช่ทางผ่านอีกต่อไป แม้ศักยภาพทีมจะทำให้หลายคนข้องใจ แต่ผลงานในสนามตอบข้อสงสัยใครหลายคนได้หมดจด
แนวรับ 3 ทหารเสือทั้ง ฟานดี การ์โดโซ ตูเญซ ตอบคำถามได้อย่างหมดจด ว่านี่คือกำแพงที่แกร่งสุดในไทยลีกเวลานี้ เพราะ 6 นัดล่วงผ่าน พวกเขาเสียไปเพียงประตูเดียว เก็บคลีนชีตไปถึง 5 เกมติดกัน แถมประตูที่เสียมาจากจุดโทษอีกด้วย
ขณะที่แดนกลาง สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ สุมัญญา ปุริสาย เหนียวแน่นหนึบ ช่วยกันเนรมิตรเกมรับ-รุก ได้อย่างลงตัว ด้านกองหน้าไม่ว่าจะเป็น มิตสึรุ มารุโอกะ, สุรชาติ หรือ เจนรบ แม้จะไม่ใช่ดาวยิงประเภทถล่มประตู แต่สามารถสร้างประโยชน์ให้ทีมได้เสมอ
บีจ ปทุมฯ ช่วงหลังพ้นโควิด-19 กลายเป็นทีมที่มีบาลานซ์การเล่นอย่างดี รูปแบบการเข้าทำชัดเจน ที่ผ่านมา 2 นัดเขาแสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถเก็บแต้มจากบิ๊กทีมได้อย่างชิล ๆ
ปัญหาอย่างเดียวของทีมเวลานี้คือ การยืนระยะ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของทีมหัวตาราง ยังไม่ต้องมองไกลถึงการเป็นแชมป์ไทยลีก เอาแค่หากยังรักษามาตรฐานตรงนี้ได้ เชื่อว่าการเป็น 1 ใน 4 สโมสรที่จะได้ไปโลดแล่น เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า ที่สโมสรเฝ้าคอยมาตลอด
คงไม่ใช่แค่ฝันกลางวันอีกต่อไป
