:::     :::

3 วันจาก ผลเป็นอื่น!!!

วันศุกร์ที่ 02 ตุลาคม 2563 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
1,347
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ลิเวอร์พูลกับอาร์เซน่อล ต้องมีวาระโคจรมาพบกันอีกครั้ง หลังจากที่เพิ่งซัดกันไปเมือคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ แม้ผลเมื่อวันจันทร์ลิเวอร์พูลจะเป็นฝ่ายกำชัยไปได้อย่างสมศักดิ์ศรีแต่ด้วยความเป็น "ถ้วยรอง" อย่างคาราบาว คัพแบบนี้ หลายๆ อย่างก็ไม่เหมือนกับวันนั้นล่ะครับ





เอานะ !


          เมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้เจอเก้น คล็อปป์นั้นมักจะส่งผู้เล่นชุดเยาวชน + สำรอง(ที่โลกลืม) ลงในถ้วยนี้ซะเป็นส่วนใหญ่นะครับ แต่ด้วยวันนี้ ลิเวอร์พูลของเขาได้พัฒนาขึ้นมาเป็นขั้นเป็นตอนตามลำดับ ทำให้ฤดูกาลนี้ถ้วยคาราบาว คัพ กลายเป็นแมชต์ที่เรียกฟอร์มของผู้เล่นตัวสำรองมากกว่าที่จะมาดูฟอร์มเด็กๆ อย่างที่ผ่านๆ มา และทำให้ลิเวอร์พูลนั้นดู “จริงจัง” กว่าเดิมขึ้นค่อนข้างเยอะเลย ผู้เล่นที่คล็อปป์ทำการส่งลงสนามไปในวันนี้นั้น มีทั้ง ทำงสำรองฟอร์มดีๆ อย่าง ทาคุมิ มินามิโนะ ,ดิโอโก้ โชต้า , อาเดรียน เด็กๆ ที่มีแววพอที่จะสอดแทรกชุดใหญ่ได้อย่าง เคอร์ติส โจนส์ , เนโกร วิลเลี่ยม , รีส วิลเลี่ยมส์ แถมด้วยผู้เล่นชุดใหญ่อย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กับ โม ซาล่าห์อีกต่างหาก จะมีเซอร์ไพรซ์หน่อยก็ตรง เจมส์ มิลเนอร์ที่ลงมาแทน ซิมิคัสที่บาดเจ็บ และ แฮรี่ วิลสัน ที่ได้ลงตัวจริงครั้งแรกในรอบหลายปีเลย เป็นสัญญาบ่งบอกว่า เจอร์เก้น คล็อปป์นั้น “เอานะ” ในถ้วยนี้อยู่เหมือนกัน ..... แต่ ..... ทางด้านพี่ปืนโต เขาดันดูจะ “เอาจริง” กว่านี่สิครับ นักเตะตัวชุดใหญ่อย่างกาเบรียล, ร็อบ โฮลดิง, เลโน,​เซบายอส, ชากา รวมถึงตัวเด็ดๆอย่างนิโกลาส์​ เปเป และบูกาโย ซากา มากันครบครัน บ่งบอกได้เลยว่างานนี้ไม่ง่ายแน่นอน




ฟอร์มดีแต่มีช่องโหว่

          โดยรวมๆ นั้นต้องบอกว่าลิเวอร์พูลยังเล่นได้ดีเหมือนเดิมครับ โดยเฉพาะในแดนหน้า ที่ดูวูบวาบและเข้าที่เข้าทางเหลือเกิน โชต้า , ทาคิ , ซาล่าห์ เล่นกันได้อย่างวูบวาบน่ากลัว และสร้างโอกาสได้อยู่เรื่อยๆ แต่จุดที่อ่อนที่เห็นได้ชัดที่ต่างจากชุดใหญ่มากๆ คือ ขุมกำลังในแดนกลางและแบ็กทั้งสองข้างครับ กรูยิช-โจนส์ยังพอมีบทบาทและวูบวาบเรื่อยๆ แต่กับ แฮรี่ วิลสันนั้นเหมือนเขาหายไปจากเกมไปเลย คงต้องยอมรับกันจริงๆ ครับว่าทางเดินของเจ้าหนุ่มหน้าหล่อคนนี้กับลิเวอร์พูลคงจะเป็นเส้นขนานไม่มีวันบรรจบกันได้เสียแล้ว ส่วนแบ็กทั้งสองฝั่งนั้น ทางฝั่งซ้ายที่เป็นเจมส์ มิลเนอร์ก็ดูเหมือนว่าปีนี้เขาจะโรยราไปพอสมควรทีเดียว ดูสปีดและความคล่องตัวหายไปอย่างเห็นได้ชัดเหลือแต่ลูกเก๋าอย่างเดียวจริงๆ ส่วนเจ้าหนูเนโกรนั้น .... ช่วงนี้คือช่วงมรสุมของเจ้าตัวอย่างแท้จริงครับ เขาโดนถล่มจากฟอร์มการเล่นที่ดำดิ่งแบบกู่ไม่กลับ จนหลายๆ คนต้องออกมาปกป้อง ซึ่งเกมนี้ก็ดูเหมือนว่าเจ้าตัวพยายามอย่างเต็มที่จริงๆ แต่ก็ยังดูไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไร และยังมีข้อบกพร่องเยอะมากเหลือเกิน น่าจะต้องเป็นหน้าที่ของบรรดาโค้ชล่ะครับ ที่จะต้องคอยปลุกปั้นเจ้าหนูคนนี้ให้เติบโตขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่งให้ได้   แต่จากที่กล่าวมานี้ถึงแม้ว่าจะดูว่าลิเวอร์พูลมีข้อบกพร่องแบบนี้ แต่ในรูปเกมก็สู้กันได้สูสีนะครับ และน่าจะได้ประตูนำไปเสียด้วยซ้ำ เมื่อทาคิได้ซ้ำจากจังหวะที่โชต้าโหม่งแล้วเลโน่ปัดมาเข้าทาง แต่บอลมันกระชั้นชิดไปหน่อยครับ ทำให้วางเท้าได้ไม่ดีพอ บอลจากเท้าของเขาเลยไปชนคานเต็มๆ เสียอย่างนั้น จบครึ่งแรกไปอย่างน่าเสียดายจริงๆ



เลโน่ โชว์


          เกมในครึ่งหลัง ดูเหมือนว่าเล่นไปเล่นมา ลิเวอร์พูลจะเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่าไปซะอย่างนั้นครับ มาร์โค กูยิช นั้นค่อนข้างโดดเด่นทีเดียว ด้วยรูปร่างที่ได้เปรียบของเขา ประสบการณ์ที่ผ่านเวทีบุนเดสลีกามากว่า 2 ปี กับเกมระดับนี้ดูเจ้าตัวจะเอาอยู่แบบสบายๆ ครับ จริงๆ แล้วถ้าขุมกำลังแดนกลางไม่พอเขาสามารถลงไปเล่นได้อย่างไม่เคอะเขินเลย แต่ดูเหมือนว่าลิเวอร์พูลอยากจะแปรทรัพย์สินเป็นทุนเสียมากกว่า ซึ่งกับฟอร์มที่เจ้าตัวแสดงออกมาก็น่าจะได้ราคาอยู่พอสมควรล่ะครับ ลิเวอร์พูลนั้นหาโอกาสเข้าทำได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะ ดิโอโก้ โชต้า ที่โชว์ให้ทุกคนเห็นว่าทำไมทีมถึงเลือกเขามากกว่าติโม แวร์เนอร์ วันนี้เขาขยัน ทุ่มเท และหาโอกาส ยิงได้สวยๆ หลายจังหวะทีเดียว จะมีข้อเสียก็ตรงเขานั้นเอาชนะ แบรนด์ เลโน่ ไม่ได้จริงครับ จังหวะที่โชต้าลากจี้ๆ มาแล้วซัดเต็มข้อเข้าใส่นั้นปกติน่าจะเป็นประตูแล้วครับ แต่เลโน่ยังโชว์ปฏิกริยาสุดยอด ปัดออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ ฟอร์มของเลโน่ วันนี้สุดจัดจริงๆ เขาปัดป้องลูกยิงของทางฝั่งลิเวอร์พูลได้ทุกครั้ง ทางฝั่งอาร์เซน่อลเองก็มีสวนมาให้เสียวๆ บ้างครับ และได้เสียวสุดๆ จากจังหวะที่ร๊อบ โฮลดิ้ง ได้โหม่ง ลูกเตะมุม แต่อาเดรียนก็ไม่น้อยหน้าเลโน่ครับ โชว์ปฏิกริยาปัดออกไปได้อย่างสวยงามเช่นกัน ทำให้หมด 90 นาทีทั้งสองทีมเสมอกันไปแบบทำอะไรไม่ได้ 0-0 ต้องดวลจุดโทษทันทีไม่มีต่อเวลา ตามกฏของถ้วยนี้ครับ


          ในเกมดวลจุดโทษนั้น .... ก็ตามหัวข้อเลยล่ะครับ เหมือนว่าวันนี้เป็นวันของเลโน่จริงๆ มือชัวร์ๆ ของลิเวอร์พูลอย่าง มิลเนอร์ , ไวนัลดุ้ม , โจนส์นั้นไม่พลาดครับ กับทาคิที่เราเพิ่งเคยเห็นจังหวะการยิงจุดโทษของเขา ก็ทำได้ดีเช่นกัน แต่เลโน่ดันมาเซฟท่านเทพ โอริกี้ไปได้ ทำให้ 5 ตัวแรกที่วางไว้เสมอกันอยู่ที่ 4-4 ตรงนี้ก็เป็นซัดเด้น เดธแล้วล่ะครับ แล้วก็เป็นทางฝั่งอาร์เซน่อลที่ทำได้ดีกว่า เมื่อแฮรี่ วิลสันยิงไปติดเซฟเลโน่เต็มๆ และโจ วิลล็อกมาปิดจ๊อบให้ปืนโตเอาชนะเข้ารอบไปได้



          เจอร์เก้น คล็อปป์นั้นได้บอกไว้ตั้งแต่ก่อนแข่งแล้วล่ะครับ ว่าพวกเขานั้น “เอาจริงนะ” แต่จะไปได้ไกลถึงไหนนั้นเขาเองก็ไม่อาจจะให้คำตอบได้ แต่เขานั้นเต็มที่กับทุกเกมเท่าที่จะทำได้แน่นอน ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่กุนซือคนเก่งว่าไว้จริงๆ ครับ ผลการแข่งนัดนี้อาจจะไม่เป็นใจเท่าไร แต่ว่านักเตะลิเวอร์พูลนั้นได้ทำหน้าที่ของตัวเองสุดความสามารถแล้วจริงๆ ไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจมากมายครับ ยังมีถ้วยรางวัลรอให้พวกเขาไล่ล่าอีกเยอะ มุ่งเป้าไปยังข้างหน้าต่อดีกว่าจะมาเสียใจกับสิ่งที่ผ่านไปแล้วดีกว่าครับ YNWA ครับทุกคน

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด