:::     :::

"สองปีศาจจากอุรุกวัย" การมาถึงของCavani และเด็กนรกPellistri

วันอาทิตย์ที่ 04 ตุลาคม 2563 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
49,096
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สามวันสุดท้ายแห่งตลาดซื้อขายนักเตะ ในที่สุดแมนยูไนเต็ดก็กำลังจะคว้าตัวนักเตะรายที่สองมาเสริมทีมแล้ว ในการเซ็นสัญญากับโคตรกองหน้าอย่างCavaniมาเติมตำแหน่งที่ขาดอย่างหน้าเป้าได้สำเร็จ แต่มันไม่ได้มี"อุรุกวัย"เข้ามาแค่1นี่สิ เพราะกำลังจะมาถึง2!!!!!

ในที่สุดดีลของ Cavani ก็ตกลง Agreed แล้วในที่สุด ตามข่าวจากนักข่าวอุรุกวัยอย่าง Rodrigo Romano, นักข่าวของESPN และสื่ออีกหลายๆเจ้า ก่อนที่จะตบท้ายด้วยFabriozio Romano ช่วยยืนยันอีกครั้งว่า แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดตกลงที่จะคว้าตัว "El Matador" Edinson Cavani มาร่วมทีมด้วยการเซ็นสัญญาระยะสั้นสองปี โดยที่ค่าเหนื่อยคาดกันว่าอยู่ที่ราว 200,000ปอนด์ต่อสัปดาห์

ซึ่งก็มีรายงานว่าทางบอร์ดโอเคกับค่าเหนื่อยราวๆนี้ เพราะคำนวณแล้วมันไม่เกินโครงสร้างการเงินที่วางไว้ของสโมสร ไม่ต้องกังวลมากเหมือนดีลอเล็กซิส

ส่วนค่าใช้จ่ายในดีลนี้ มันไม่ได้ฟรีๆ ก็ต้องมีแน่ๆเพราะในการเซ็นสัญญาแต่ละครั้ง จะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้นายหน้าด้วย ซึ่งตามข่าวน่าจะอยู่ที่ราว 10ล้านยูโรโดยประมาณ

นอกจากนี้รายละเอียดอื่นๆก็ยังไม่นิ่ง สัญญาอาจจะเป็น1ปี บวกออฟชั่นขยายอีก1ปีก็เป็นได้ แต่ทุกอย่างเห็นว่าเอ็ดและโซลชา จะคุยกับตัวคาวานี่และเอเย่นต์กันอีกที แต่บินมาขนาดนี้ทุกอย่างน่าจะโอเค เหลือแค่ตกลงเซ็นกันเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น แล้วรอประกาศเป็นทางการจากสโมสรโดยตรงดีกว่า

วันนี้เขาจะบินจากปารีสยามดึกมาแมนเชสเตอร์ เพื่อมาพูดคุยและตรวจร่างกายที่อังกฤษ ดีลทั้งหมดน่าจะคอนเฟิร์มและอาจจะชูเสื้อกันวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายพอดี เรื่องดีเทลตรงนี้ไม่มีอะไรน่าห่วงเท่าไหร่เหลือแค่การประกาศอย่างเป็นทางการเท่านั้น

ประเด็นทั้งหมดเกี่ยวกับคาวานี่นั้นมีอะไรที่เราแฟนผีควรจะรู้บ้าง วิเคราะห์มาให้ได้ดังต่อไปนี้

1.อย่าคาดหวังเกินความเป็นจริง

สิ่งที่จะพูดก่อนเป็นอันดับแรก และต้องขออภัยที่ต้องเบรคอารมณ์ความhype ความตื่นเต้นดีใจของแฟนบอลจริงๆ ผมเองก็ไม่อยากเขียนแบบนี้ แต่ต้องพูดก่อนเลยว่า

"อย่าคาดหวังว่าคาวานี่มาแล้วจะยิงกระจุยกระจายเด็ดขาด"

เพราะว่ากันตามตรงด้วยสถิติและภาคการเล่นจริง คาวานี่ปีหลังนั้นระดับความคมลดลงไปมาก ถ้าพูดถึงพวกconversion rate อัตราการเปลี่ยนลูกยิงแต่ละครั้งเป็นประตู ถือว่าน้อย และคาวานี่ก็พลาดโอกาสทองอยู่เรื่อยๆ จึงส่งผลกระทบทำให้เรทการแอสซิสต์ของเพื่อนร่วมทีมปารีสดรอปตามไปด้วย(บัปเป้โดนเยอะสุด)

สถิติในลีกปีก่อนของคาวานี่ ลง 14นัด ยิงได้ 4 ประตู จากโอกาสยิงทั้งหมด 27ครั้ง (on target 11 และ off target ถึง16)

โอกาสยิง27ครั้ง ยิงได้4ประตู คิดว่ายังไงกันบ้าง?

การยืนยันด้วยตัวเลขเชิงสถิตินั้นค่อนข้างที่จะใช้การได้ดีในการพิจารณาตำแหน่งที่เกี่ยวพันกับ"จังหวะสุดท้ายของการเล่น" อย่างเช่นกองหน้าแบบนี้ มันก็ถือว่าวัดได้พอประมาณ

(ถ้าใครจะเก็ทเรื่องนี้ ผมเคยอธิบายแล้วใช่ไหมครับว่า อย่าหวังแอสซิสต์จากแบ็คกันให้มาก เพราะแบ็คมันไม่ได้เป็นตัวที่สำคัญสุดในการเล่นจังหวะสุดท้ายของทีมขนาดนั้น แต่ให้ดูที่ว่า เขาทำประโยชน์อะไรให้ทีมบ้างระหว่างเกม ไม่ว่าจะการป้องกัน การเชื่อมเกม จ่ายบอล เซ็ตเกมขึ้นหน้า ฯลฯ คนที่ด่ากันแต่ตัวเลขสถิตินั่นแปลว่าเขาไม่เข้าใจอะไรเลย)

ย้อนกลับมาตรงนี้ เราต้องยอมรับว่าเขาดรอปลงจริงๆ ด้วยอายุ33ปีแล้ว และพลาดบ่อยๆ หากนึกไม่ออกก็ลองจินตนาการภาพลูกากูตอนทำหมูหกแล้วเราหงุดหงิดกันก็ได้ แบบนั้น

"อย่ามายุ่งกับกูไอ้สัส" ลูกากูอาจจะอยากพูดแบบนี้ก็ได้ -.,-

ดังนั้น ผมจึงต้องเบรคแฟนผีก่อน เพื่อให้เข้าใจด้วยว่าความเป็นจริงยังไง ไม่ใช่ว่า ได้คาวานี่มาปุ๊บ ทุกคนจะคาดหวังให้มันมายิงระเบิดเถิดเทิงที่นี่

เพราะแม้เขาจะได้ชื่อว่าเป็นระดับ "Goal Machine" อีกคนนึง แต่ก็ดรอปลงไปบ้างตามกาลเวลา  (ตอนอยู่นาโปลีก็คม และสถิติเก่ากับปารีส ย้อนไปปี2018 ก่อนหน้านั้นคือคมจัดๆ conversion rateอยู่ที่ 26.75% = ยิงราวๆ 3.75ครั้ง ถึงได้1ประตู ซึ่งสูงเป็นอันดับ2ของยุโรปรองจากอิคาร์ดี้คนเดียวตอนนั้น แต่ถ้าวัดตอนนี้ 27เข้า4 ก็ราวๆต้องใช้โอกาสยิงถึง 7ครั้ง ถึงจะได้1ประตู ซึ่งไม่ติดท็อปเท็นของยุโรปแน่นอนตัวเลขนี้ เพราะยุคนั้นอันดับ10ก็ 6.85ครั้งถึงได้1ประตู แล้ว น่าจะหลุดอันดับไปบ้าง)

ประเด็นที่สำคัญก็คือ คาวานี่ต้องมาเจอกับสไตล์ในพรีเมียร์ลีกที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนด้วย อาจจะต้องปรับตัวกันสักพักอีกด้วย

การเล่นที่ไม่เข้าขากับอีกสองตัวหลักที่ปารีสก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้สถิติการเล่นไม่ดีเท่าที่ควร เห็นได้ว่า2คนจ่ายให้คาวานี่น้อยมาก

เป็นไงครับ อ่านแล้วเจี๊ยวหด หดหู่กันเลยดิ(ฮา) ผมอยากให้ทุกคนอยู่กับความเป็นจริงนะ

.. แต่ว่า ไอ้ที่พูดไปข้างต้นนั่นน่ะ ก็พูดไม่หมดเหมือนกัน เอ้า เรียกความตื่นเต้นกลับมาหน่อย คือเราอาจจะคาดหวังประตูถล่มทลายจากคาวานี่ไม่ได้ แต่รับประกันล้านเปอร์เซ็นต์ว่า "หมอนี่เข้ามาจะเข้ากับทีม และทำให้เกมรุกเราโคตรอันตรายและน่ากลัวขึ้นอีก2เท่าอย่างแน่นอน"

เก็ทใช่ไหม คือ อย่าไปตั้งความหวังว่าตัวมันเองจะยิงแหลกราญ แต่เราจะได้ประโยชน์จากคาวานี่เยอะมากแน่นอน

ขอย้อนกลับไปที่สถิติด้านบนก่อน ถ้าคุณไปเจอสถิติพวกนี้ในเว็บหรือเพจทั่วๆไป อย่าเพิ่งตกใจ ผมจะบอกว่า 14นัดของคาวานี่ เขาเป็นตัวจริงแค่ 7นัดเท่านั้น และอีก7เป็นตัวสำรอง

เวลาลงสนามเฉลี่ยแค่ต่อนัด ได้เล่นแค่นัดละ 47นาทีเท่านั้น (เวร)

ดังนั้นถ้าสมมติเราหารครึ่ง14นัด ตามเวลาจริงที่ได้เล่น เท่ากับว่าคาวานี่จะได้เล่นแค่ราวๆ 7นัดเต็มๆเท่านั้นเอง ซึ่ง 7ยิง4 เฮ้ย มันไม่แย่นะเว้ย นั่นแปลว่า "เขาสร้างโอกาสในการยิงได้เยอะ" (27ครั้ง) และทำประตูได้เรื่อยๆ

แม้จะไม่คม อาจจะโชว์เหวอโชว์ว่าวบ้างนิดหน่อย แต่ไว้ใจได้แน่นอน ส่วนตัวผมว่า อาจจะไม่ถึงขั้นมาแล้วถล่มประตูเลย

แต่คาวานี่ "ยิงแน่" รับรอง

อยากเห็นท่ายิงธนูที่โอลด์แทรฟฟอร์ดแล้ว

2.ประโยชน์ด้านอื่นๆในเกมรุกของคาวานี่สำคัญกว่าแค่ประตู

ว่าด้วยเรื่องของหน้าที่ "กองหน้า" มันไม่ได้มีแค่ลงสนามไปยืนเฉยๆ รอบอลมาหา แล้วแค่ยิง ไม่ใช่แน่นอน เพราะประโยชน์ในภาคเกมรุกของคาวานี่พูดเลยว่า "ห่างไกลคำว่ากาก" แบบสุดๆ ก็เหมือนเพลงของSilly Fools นี่แหละที่ "ห่างไกลคำว่ากระจอก" เช่นกัน

เปอร์เซ็นต์การจ่ายบอลสำเร็จของคาวานี่อยู่ที่ราว 85% จ่าย140 สำเร็จ119 ในฐานะกองหน้าก็ถือว่าพลาดน้อยมากๆ สถิตินี้สำคัญจริงๆเพราะการจ่ายบอลมันสะท้อนเรื่องการเล่นเป็นทีมมากพอสมควรว่าคุณจะสร้างประโยชน์อะไรให้แมนยูได้บ้าง

เท่านั้นยังไม่พอ เปอร์เซ็นต์แทคเกิลชนะอยู่ที่ 63% / อัตราการยิงเฉลี่ยต่อเกมราวๆ2ครั้ง(ลีก) ก็ถือว่ามีโอกาสยิงไม่น่าเกลียด 2ครั้งในทุกๆเกม / ชนะดวลกลางอากาศเฉลี่ย1ครั้งต่อเกม ทั้งหมดนี่วัดจากจำนวนนัดแล้วก็ถือว่าอยู่ในค่าเฉลี่ยที่ใช้ได้ ได้มาตรฐานอยู่

แต่สิ่งที่ผมมองว่านี่คือประเด็นสำคัญมากๆที่ทำไมคาวานี่น่าจะมีประโยชน์กับทีมเราสุดๆ นั่นก็คือ "วิธีการเล่นของเขา" น่าจะเข้าขากันกับทีม และเพิ่มคุณภาพในการเล่นได้อย่างมาก

2.1 ตำแหน่งการเล่น

คาวานี่นั้น แม้จะบอกว่าเป็นหน้าเป้า แต่ถ้าจะคุยกันลงลึกในเชิงเทคนิค กองหน้าตัวที่ยืนตรงกลางมันก็มีหลายประเภท และมีศัพท์หลายอย่าง แต่จริงๆเราอาจจะอะลุ้มอล่วยพูดรวมว่ามันเป็น "ตัวเป้า" ก็ได้ เพื่อให้ทุกคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องแทคติก เข้าใจกันได้ง่ายๆ

กองหน้าตัวเป้า จริงๆ มันคือ Target Man ที่จะเป็นตัวใหญ่ๆค้ำแดนหน้าเอาไว้พักบอลอะไรแบบนั้น

แต่คาวานี่ ไม่ใช่ตัวทื่อๆที่จะไปยืนรับบอลเช่นนั้นน่ะสิ แต่เขาเป็นผู้เล่นกองหน้าประเภท "Poacher" ต่างหาก มันมาจากรากศัพท์คำว่า poach ที่แปลว่า แย่ง ชิง แหย่ รุกล้ำ

ซึ่งPoacherในภาษาเข้าใจง่ายสุดๆก็คือ "กองหน้าที่เป็นตัววิ่งชิงจังหวะกับไลน์แนวรับของคู่ต่อสู้"

นึกไม่ออก นึกถึงChicharitoก็ได้ครับ ง่ายสุดๆละ

คาวานี่มันเป็นตัวแบบนั้นแหละ เป็นสไตล์นั้น ไม่ใช่Target Manที่ไปยืนเบียดอยู่กับกองหลังแล้วเก็บบอล รอพักบอลให้เพื่อนต่อ หรือยิงเองแต่อย่างใด

เพราะจุดเด่นที่ทุกคนยอมรับ และไม่มีใครกล้าหืออือใดๆทั้งสิ้นคือ พี่แกวิ่งหาช่องเก่งสัสๆ เซนส์บอลระดับสูง และรวมกับสกิลพื้นฐานoverallทุกๆอย่างที่เป็นทักษะฟุตบอลก็ถือว่าอยู่ในระดับสูงปรี๊ดทุกอัน ไม่ว่าจะเป็นวิชั่น การจ่ายบอล เทคนิค ความแข็งแกร่ง การโหม่ง ความขยัน ความเร็ว การหาที่ว่าง(off the ball) ฯลฯ คือเต็มปรอทแตกแทบทุกอัน

ยิ่งด้านประสบการณ์ ความเก๋า ด้านmentalityนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เต็มmaxทุกด้าน

ดังนั้นนอกจากความเป็น Poacher แล้ว ด้วยความที่สกิลพี่แกเต็มหลอดทุกด้านเนี่ยแหละ Cavaniจึงมีความสามารถและลักษณะที่จะเล่นเป็น Complete Forward กองหน้าสมบูรณ์แบบที่มีมิติหลายๆอย่างอยู่ในตัวพร้อมกัน ไม่ว่าจะไปยืนเป็นเป้าจ่ายแบบTarget Manก็ได้ หรือจะวิ่งชิงไลน์แบบPoacherก็ได้ จะถ่างมาเล่นแบบตัวAdvanceก็ได้

และที่สำคัญ คาวานี่พี่แกเล่นเป็นPressing Forward หรือ "กองหน้าตัววิ่งบีบเพรสคู่ต่อสู้" ได้อีก ด้วยความที่แกเร็ว ตัวใหญ่ มักจะเข้าไปประกบติดคู่ต่อสู้เวลาได้บอลเพื่อจะบีบให้เสียบอลได้ และขึ้นอยู่กับแทคติกและแผนเพรสของทีมด้วย หากแมนยูจะเล่นเพรสซิ่ง คาวานี่นี่แหละตัวบี้กองหลังเลย

2.2 Pass & Move

วิธีการเล่นของเขาจะเป็นประโยชน์กับเราสุดๆ นั่นเป็นเพราะว่า คาวานี่เป็นกองหน้าสายที่ชอบใช้การวิ่งในจังหวะโอเพ่นเพลย์ และทำเกมกับเพื่อนด้วยวิธีการให้แล้วไป Pass & Move ซึ่งเป็นวิธีหลักปัจจุบันของแนวรุกทีมเราเลย

คาวานี่ชอบที่จะเล่นสั้น และจ่ายบอลต่อให้กับเพื่อนได้ดีมากๆ ในขณะที่เจ้าตัวเองก็หาตำแหน่งได้ดี และพร้อมที่จะจู่โจมด้วยตัวเองได้เช่นกัน การเล่นเกมรุกของเขาสามารถหาดูได้ตามคลิปต่างๆมากมาย จะเห็นวิธีการเข้าทำของเขากับเพื่อนชัดเจนมากๆ ซึ่งปารีสเองก็ใช้กองหน้าสายสปีดและเล่นบอลวิ่งแบบนี้ไม่ต่างกันกับเรา จะบัปเป้ เนย์มาร์ ดิมาเรียก็ตาม

เมื่อเป็นแบบนี้ คาวานี่น่าจะเล่นสั้นและเร็ว เข้าขากันได้กับ มาร์กซิยาล และ แรชฟอร์ดแน่นอนหากว่าจัดลงเล่นคู่กันไม่ว่าจะกับคนไหน และนอกจากนั้นน่าจะยังเป็นเป้าให้บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้จ่ายบอลสวยๆให้ตลอดแน่ๆ เพราะคาวานี่ยืนตำแหน่งและวิ่งช่องดีสุดๆ

คราวนี้แทงกันกระจายหนักกว่าเดิม และจะดีกว่าเดิมซะอีก

ซึ่งผมว่าจุดนี้แหละ สำคัญ เพราะเขาจะเข้ากับวิธีเล่นของเด็กๆเราในทีมได้เป็นเนื้อเดียว และน่าจะสร้างประโยชน์ให้กับทีมเราได้เยอะมาก

โคตรเท่

3. แมนยูไนเต็ดเซ็นเขาเข้ามาทำไม

หลายคนงงว่า อยากได้ปีกขวา มึงเซ็นกองหน้าเข้ามาเนี่ยนะ? หากคิดตื้นๆก็จะมองเห็นเพียงแค่นั้น

3.1 มิติการเข้าทำ

หลายคนน่าจะทราบว่า ทีมเราขาด "หน้าเป้า" แบบนี้มานานมากแล้ว ไม่มีคนค้ำตรงกลาง และอิกาโล่เองก็ยังไม่ดีพอจะเป็นตัวจริงให้กับทีม หรือดีพอจะกดดันหมากแรชในตำแหน่งนี้ได้ การได้คาวานี่มา จะทำให้เราได้เห็นรูปแบบการบุกแบบใหม่ๆบ้างจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทั้งในเรื่องของวิธีการเข้าทำที่อาจจะสั่งให้นักเตะมีการใช้early crossมากขึ้น (ทุกวันนี้แบ็คไม่ยอมครอสเลยสักคนเดียว เพราะรู้ว่าครอสเข้าไปก็สำเร็จยาก แต่จริงๆก็ควรจะยัดๆเข้าไปบ้างนะ)

นอกจากลูกโหม่งที่ไว้ใจคาวานี่ได้ และอาจจะพักบอลได้ เข้าไปใช้ร่างกายกำยำเข้าไปมั่วๆเบียดๆยิงได้แล้วนั้น เราก็อาจจะได้เห็นวิธีการเข้าทำแบบอื่นๆอีกเช่นkiller passแบบ "จังหวะเดียว" แทงทะลุไลน์วิ่ง แล้วหลุดเข้าไปหวดเลย ซึ่งทุกวันนี้เรามีแต่จะใช้จังหวะการต่อบอลที่ค่อนข้างมากในการเข้าทำ ตัวเลขของการจ่ายแต่ละเกมค่อนข้างเยอะ และบางทีมันช้า มัวแต่จ่ายบอลกันอยู่นั่น ไม่ยิงสักที การจ่ายก็คุณภาพไม่ดี สุดท้ายเสียบอล โดนตัดสวนกลับอีก

แต่การวิ่งช่องของคาวานี่ อาจจะทำให้เราได้เห็นKiller Passแบบจังหวะเดียวทะลุยันรูดากส์คู่ต่อสู้ แบบที่เราไม่เห็นวิธีการนี้ก็เป็นไปได้

ซึ่งตรงนี้มันมีความหลากหลายของการเล่นเข้ามาเยอะมากๆ เพียงแค่มีคาวานี่เข้ามาแค่คนเดียว หากนึกไม่ออกลองหันไปดูชิรูดิ์ของเชลซีก็ได้ เราสามารถใช้คาวานี่ในฐานะตัวจริง หรือตัวสำรองที่จะลงมาเพื่อแก้แทคติกแบบได้น้ำได้เนื้อ ด้วยการ "เปลี่ยนแทคติก เปลี่ยนวิธีการเล่นและการเข้าทำ" จากที่60นาทีแรก ต่อบอลสั้นเจาะช่องไม่สำเร็จ ก็อาจจะส่งคาวานี่ลงมา แล้วลองเปลี่ยนเป็นการครอสบอลโด่งเข้าในกรอบก็ได้ด้วย ซึ่งทุกวันนี้ทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ เพราะมันไม่มีตัวนั่นเอง

3.2 Formation การเล่น

การได้หน้าเป้าอย่างคาวานี่มานั้น จริงๆก็ถือว่าแก้ปัญหาอีกอย่างของแมนยูตรงจุด ไม่ได้เป็นอย่างที่แฟนบอลบางส่วนคิดแต่ในแง่ลบอย่างเดียว เพราะเราขาดหน้าเป้าแบบนี้อยู่จริงๆ และการมีคาวานี่ ยังสามารถทำให้เราปรับการใช้งานนักเตะตัวอื่นๆได้อีกด้วย เช่นบางครั้งอาจจะปรับเอา มาร์กซิยาลไปยืนซ้าย คาวานี่ยืนกลาง แล้วถ่างแรชฟอร์ดไปรอวิ่งเค้าท์เตอร์สวนกลับ แล้วกระชากเปิดจากทางขวาได้อีก

หรืออาจจะเอาคาวานี่ไปยืนเล่นหน้าขวาเลยยังได้ เหมือนที่ใช้งานกรีนวู้ดหุบเข้ากลางเช่นทุกวันนี้ เพราะเขาเล่นขวาได้ด้วย

การได้คาวานี่มานั้น "ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาปีกขวาโดยตรง" แต่ช่วย "บรรเทาปัญหาตรงนี้ได้"

ถ้าหากวันวันสุดท้ายในวันปิดตลาดที่5ตุลาคมนี้ เราไม่ได้ปีกขวาดีๆเข้าทีมมาจริงๆเพราะปัญหาของทีมซื้อขายนั้น  การเข้ามาของคาวานี่จะช่วย "บรรเทา" เรื่องนี้ได้บ้างเล็กน้อย เพราะอย่างที่บอกไปว่า ตัวเลือกในแดนหน้าเราจะเพิ่มมากขึ้นทันที

คาวานี่ถ้าหากได้ลงสนาม เราสามารถใช้ตัวดีตัวอื่นที่มีศักยภาพพอ เอาสลับมาเล่นขวาได้ ซึ่งผมมองว่า กรีนวู้ดที่เล่นหน้าขวาอยู่แล้ว อาจจะได้ "แรชฟอร์ด" มาเผื่อใช้งานหน้าขวาได้ อย่างที่บอกไป สลับหมากไปซ้าย คาวานี่กลาง แรชขวา กรีนวู้ดขวา ก็เล่นได้ทั้งนั้น

ซึ่งการมาถึงของคาวานี่ เป็นประเด็นสำคัญที่สุดว่า "เขาทำให้เรามีมิติการเล่นเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม2เท่า และยังทำให้ Squad Depthในตำแหน่งกองหน้า ดีขึ้นแบบชัดเจน"

ส่วนเรื่องของformation แผนการยืนนั้น คาวานี่อาจจะไม่ได้เข้ามาแล้วช่วยให้ทีมครีเอทแผนอะไรได้แหวกแนวมากนัก ก็คงจะเล่น4-2-3-1แบบเดิมนั่นแหละ เขาก็จะเข้ามาอยู่ในแผนนี้ด้วย เพราะเจ้าตัวเองก็เล่นในระบบหน้าสามมาจากที่PSGเหมือนกัน คาวานี่ก็คงจะมายืนเป็นกองหน้าตัวกลางในยามใช้งาน

ส่วนที่น่าสนใจก็คือ เขาน่าจะมายืนในระบบกองหน้าคู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นสูตรหลังสาม หรือสูตรไดมอนด์ถ้าจะใช้งาน อย่างน้อยคาวานี่คงใช้งานได้ดีกว่าแดเนียลเจมส์ในการเล่นหน้าคู่แน่นอน

3.3ช่วยลดภาระหมากแรช และดึงตัวประกบเปิดช่องให้ตัวอื่นเข้าทำประตู

หัวข้อนี้สำคัญที่สุด ทุกวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เราพึ่งพึงภาระการทำประตูของ แรชฟอร์ด กับ มาร์กซิยาล แค่สองคนนี้ค่อนข้างหนักหน่วงมากเกินไป กรีนวู้ดเองก็เป็นแค่ตัวJokerที่ต้องรอเวลาเพาะบ่มมากกว่านี้เรื่อยๆ โอเล่เองก็มองเขาเป็นตัวสนับสนุนคนนึง แม้จะลงตัวจริงก็ตาม เพราะต้องใช้เวลาปั้นอีกนาน และใช้งานค่อนข้างถนอมพอสมควร

คาวานี่จะแก้ไขปัญหาเกมรุกของแมนยูให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้แน่นอน ข้อนี้รับประกันฟันธง ยังไงมีแต่ดีกับดี และจะดีมากซะด้วยซ้ำ รอชมได้เลยข้อนี้มั่นใจมาก เพราะตัวคาวานี่เองอาจจะไม่ได้เป็นคนยิงประตูเองโดยตรง อาจจะไม่ได้เป็นเป้าหมายหลักในการเข้าทำที่ต้องคอยส่งบอลไปให้ แต่คาวานี่จะยืนปักเป็นหลักจู่โจมตรงกลาง และดึงตัวประกบไปได้มหาศาล เพราะ1-1คู่แข่งไม่น่าจะรับมือเทคนิคของเขาอยู่

และการดึงแนวป้องกันที่ต้องเทไปหาเขานี่แหละ มันจะเป็นช่องว่างอย่างดีให้กองหน้าที่เป็นสาย "Forward" แท้ๆทุกคนอย่าง Rashford, Martial, Greenwood จะมีอิสระในการไปเล่นในจุดอื่นๆได้ (freedom to roam)

ได้ใช้ความเร็วในการวิ่งสอดเข้าไปยิง จากการมีช่องว่างที่คาวานี่ดึงแนวป้องกันไปแล้วนั่นเอง ผมมองว่า หมากแรช จะยิ่งได้ประโยชน์จากการมาของคาวานี่มากกว่าเดิมในแง่การผลิตสกอร์เสียอีก รวมถึงตัวคาวานี่เองก็ยิงได้ด้วย แม้จะไม่ได้มากเหมือนตอนหนุ่ม แต่มันยิงแน่(ย้ำอีกครั้ง)

ส่วนเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ว่า มาแล้วจะจัดตัวยังไง ต้องดรอปใครออกจากตำแหน่งตัวจริง? ข้อนี้ไม่น่ากังวล เพราะคาวานี่เองก็ไม่ได้จะมาในฐานะตัวยืนหลักที่ลงทุกเกม แต่จะสลับลงตัวจริงบ้าง นั่งสำรองบ้าง เพราะการนั่งสำรองทำให้เรามีทางเลือกในการปรับแผนเข้าทำได้เยอะ ดังนั้นน่าจะไม่ได้ไปเบียดบังตัวจริงคนอื่นเท่าไหร่ 

การเลือกตัว เราสามารถจัด หมาก-คาวานี่-แรช / หรือไม่ก็ แรช-คาวานี่-กรีนวู้ด ก้ได้

แม้กระทั่ง แรช-หมาก-คาวานี่ แบบนี้ก็ยังได้เลย

หรือบางเกมก็ใช้สามตัวเด็กเบื้องต้นไป หมาก-แรช-กรีนวู้ด แล้วใช้คาวานี่เป็นสำรอง ลงมาพลิกเกมภายหลังก็ได้ทั้งนั้น

เห็นได้ชัดว่าเอาคาวานี่มาหมุนใช้งานในเกมรุก คล้ายๆVDBที่หมุนในแดนกลางนั่นเอง

3.4 ประสบการณ์ดั่งทองคำ ที่จะส่งต่อและสอนให้เด็กของเรา

นี่คืออีกหนึ่งข้อดีและเหตุผลว่าทำไมแมนยูเซ็นเขาเข้ามา นั่นเป็นเพราะว่าคาวานี่จะสอนชั้นเชิงและวิธีคิดในการเล่นให้กับเด็กๆกองหน้าในทีมเรา ไม่ว่าจะตัวหลักหรือดาวรุ่ง ก็จะคล้ายนิดๆเหมือนตอนอิบราฮิโมวิชมา คาวานี่น่าจะเป็นrole modelให้กับเด็กๆในทีมได้พอสมควรในแง่การเป็นกองหน้าระดับสูงของโลกที่พิสูจน์ตัวเองมาแล้ว

ผมมองว่า สิ่งที่หมากแรชจะได้จากคาวานี่มีเยอะมากๆ เพราะประสบการณ์ที่เต็มเปี่ยมในวัย33ปีของเขานั่นเอง จะถ่ายทอดวิชาให้เด็กเราได้แน่นอน สิ่งเหล่านี้บางทีไม่ต้องสอนกันโดยตรง มันคงไม่มีการให้เด็กมานั่งฟังคาวานี่พูดหรอก

แต่เขาจะสอนดาวรุ่งของทีมเรา ผ่านการกระทำในภาคปฏิบัติ ด้วยการ "แสดงให้เห็นในสนาม" ที่เล่นอยู่ด้วยกันนั่นเอง

ตัวที่น่าจะได้จากคาวานี่ไปมากที่ผมสุดคิดว่าเป็น Mason Greenwood ในตำแหน่งเดียวกันเป๊ะๆนั่นแหละ

และการเซ็นคาวานี่มา น่าจะทำให้คนในทีมหลายๆคนรับรู้ว่าทีมยังต้องการประสบความสำเร็จในระดับสูงอยู่ด้วย ลุคชอว์เองยังบอกเลยว่าเราต้องการตัวเข้ามาอีกเพื่อยกระดับ และมันเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในทีมด้วยว่าจะสามารถทำได้สำเร็จในเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากแค่เรื่องการมาช่วยลงสนาม

4.ประเด็นอื่นๆ

ฟัลเกา2?

เรื่องที่หลายคนคิดมากว่า มาแล้วจะเป็นฟัลเกา2หรือไม่ ตีนฝืด เจ็บออดๆแอดๆ อยากบอกว่าอย่ากังวลกันขนาดนั้นแค่เพราะหน้ามันคล้ายๆกัน ผมทรงเดียวกัน(ฮา)

คาวานี่ประวัติบาดเจ็บไม่เลวร้ายขนาดนั้น และด้วยวัย33ปี ก็ยังดีพอจะเล่นบอลระดับสูงอย่างพรีเมียร์ลีกได้อีกราว2ปีพอดี ตามระยะเวลาสัญญานั่นแหละ

ชิบหายละ เหมือนจริงๆด้วย!!

อยากให้แฟนผีหลายๆคนมองดีลนี้ในแง่ดี ไม่ใช่มาถึงยังไม่ได้ลงเล่นก็เนิร์ฟ ก็ก่นด่ากันแล้ว ไม่ใช่ว่ามันเป็นpanic buyเลยไม่พอใจกัน เพราะคิดง่ายๆว่าอย่างน้อยที่สุด ที่ทีมเราจะต้องจ่ายเงินมหาศาลเป็นค่าเหนื่อย ค่าเอเย่นต์ พวกเขาคงต้องพิจารณาดีพอสมควรในระดับหนึ่งแล้วว่าเสียเงินเซ็นมาดีไหม ไอ้เรื่องกลัวว่าจะเป็นแบบฟัลเกาอีกผมว่าตีตนไปก่อนไข้มากไป ไร้สาระมาก

ส่วนหนึ่งอาจจะต้องการนำเข้ามาเพื่อลดเสียงด่าถึงบอร์ด แต่อย่างน้อยมันก็เป็นการแก้ปัญหาที่ถือว่าเข้าเป้าอีกครั้งนึง ไม่ต่างกับการเพิ่มdepthในตำแหน่งกลางรุกของVDBเลย

และจริงๆแล้วแมนยูอยากเซ็นคาวานี่ตั้งแต่2014แล้วในยุคมอยส์ แต่พลาดเป้าไป ถึงจะมาช้า แต่ก็มาแล้วนะ อิอิ

เบอร์เสื้อ

ปกติที่ผ่านมาตอนอยู่นาโปลี ปารีส แกก็ใส่แค่เบอร์9 กับเบอร์7เท่านั้น  คิดว่าสโมสรน่าจะกั๊กเบอร์7ไว้ให้ซานโช่ ส่วนอีกเบอร์ในทีมชาติอย่าง21 ก็เป็นของแดนเจมส์อยู่

ถ้าให้เดาเบอร์ คิดว่าคาวานี่น่าจะอยากได้เบอร์19นะ เพราะว่างอยู่พอดี แล้วมันมีเลข9 ของกองหน้าอยู่ด้วย ส่วนตัวเชียร์32 แต่มันไม่เท่ ก็คงจะเป็น 19 เดาล้วนๆ

จริงๆเบอร์ไหนก็ได้ ใส่ๆไปเหอะ แค่มาก็บุญแล้ว

พักเรื่องคาวานี่ไว้ก่อน จะบอกว่า แมนยูไนเต็ดไม่ได้กำลังจะมีนักเตะอุรุกวัยอย่างเขาเข้ามาแค่คนเดียว แต่มีดาวรุ่งอีกคนที่ข่าวแรงมาหลายวันแล้ว และน่าจะทยอยตามมาสมทบกับเราในวันจันทร์ด้วยเช่นกัน (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าวันจันทร์นี้อาจจะมี อเล็กซ์ เตลีส มาด้วยอีกคนรึเปล่า รอลุ้นอยู่ เพราะดีลยังเป็นไปได้อยู่)

นั่นก็คือ เรากำลังจะคว้าตัว Facundo Pellistri (ฟากุนโด้ เปยิสตรี) ปีกขวาดาวรุ่งอายุ18ปีจากPenarol สโมสรในอุรุกวัยมาเสริมทีมอีกหนึ่งราย

หล่ออีกตะหาก เรียกแม่ยกได้อีกเพียบ

มาว่ากันที่Pellistri กันบ้าง เจ้าหนูวัย18คนนี้อยู่ดีๆก็มีข่าวกับเรา และทำท่าว่าจะได้ตัวสูงมากๆเพราะสื่อตีข่าวกันแรงมากว่า ตกลงย้ายมาอยู่ทีมเราแล้ว รอแค่บินมาเซ็นสัญญากันอีกสองวันข้างหน้าแค่นั้น ด้วยค่าตัวราว10ล้านยูโร ซึ่งเป็นเรทปกติ แมนยูจ่ายเงินแบบนี้ซื้อดาวรุ่งเข้าทีมมาไม่รู้กี่คนแล้ว (นี่ก็เพิ่งจ่าย4ล้านยูโรซื้อCBเด็กอายุ16ปีที่ชื่อ Willy Kambwala เข้ามาหมาดๆๆ)

หลายคนอาจจะบ่นกันอีกว่า อ้าว แล้วทำไมแค่18ล้านไม่ยอมจ่ายในดีลAlexให้มันจบๆไป .. อันนี้ผมก็ไม่รู้ครับ!! บอร์ดก็ไม่รู้จะงกอะไรนักหนา แบ่งเงินซื้อเด็กพวกนี้มาจ่ายค่าตัวเตลีสก็ได้ ไม่ยอมจ่าย จะรอเซ็นฟรีล่วงหน้ามกราคม โถ่ถุย ชีวิตแฟนผีทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้ (ฮา)

มาดูกันที่ เปยิสตรีกันว่า ทำไมมันน่าสนใจขนาดต้องมารีวิวแถมไว้ด้วยเลยเหรอ?

ตอบเลยว่า ใช่

1.ข้อมูลทั่วไป

Facundo Pellistri

อายุ 18 ปี / ส่วนสูง 174 cm

สัญชาติ : อุรุกวัย (citizenship : Uruguay, Spain)

เท้าถนัด : ขวา

2.ตำแหน่ง

ตัวนี้หลักๆเป็น "ปีกขวา" Right Winger ที่เป็น Wingerขนานแท้เลย ไม่ใช่พวกกองหน้ากึ่งปีกแบบปัจจุบันฮิตๆ นี่คือวิงแท้ยิ่งกว่าแช่แป้ง เท้าขวาด้วย ซึ่งเปยิสตรีนั้นไม่ได้เล่นได้แต่ปีกขวาอย่างเดียว เขายังโยกไปเล่น "ปีกซ้าย" ได้อีกตำแหน่ง และเล่นได้ดีด้วย ซึ่งปีกยุคปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้กันเยอะ คือเล่นได้ทั้งสองฝั่ง ไม่จำกัดมิติตัวเองไว้แค่อย่างเดียว ซึ่งการสลับฟากเล่นก็ทำให้มิติการเล่นเปลี่ยนด้วย ด้านนึงใช้ครอส ด้านนึงตัดเข้ากลางยิง

เล่นForwardได้ด้วย แต่ไม่เด่น และอย่าเพิ่งใช้จะดีกว่า เพราะเหตุผลในด้านจุดอ่อน

3.จุดเด่นที่น่าสนใจมากๆ

ตัวนี้สาเหตุที่ผมจำเป็นต้องหยิบมันมาเขียนพร้อมเรื่องคาวานี่เลย ก็เพราะว่า "ชุดทักษะสกิล" ของเปยิสตรีนั้นถือว่า โคตรน่าสนใจ เพราะตัวนี้พูดเลยว่า เก่งจริง เก่งมาก และเป็นระดับwonderkidได้เลย สิ่งที่เห็นในการเล่นของน้องถือว่าเกินอายุไปมากแล้ว  แต่ทีนี้ต้องเข้าใจกันก่อนว่า

"แมนยูไนเต็ดไม่ได้จะเซ็นPellistriเข้ามาในฐานะตัวแทนปีกขวาของซานโช่"

แมนยูซื้อเขามาเพื่อเข้าทีมสำรองชุดU-23เป็นหลัก แล้วค่อยๆพัฒนาและดันมาใช้งานได้ในอนาคต เรียกง่ายๆว่าแต๊บเด็กมาปั้นนั่นแหละ ซึ่งอายุ18น่าจะยังพอปั้นเขาให้ติดโควตาHG (Home Grown)ของทีมได้ด้วย

ซึ่งในภาคของการเล่น Pellistri โดดเด่นมากในการกระชากไปกับบอลและขึ้นเกมทะลุทะลวงทางฝั่งขวา เรียกง่ายๆว่าขวาผ่านตลอดได้เลยยันสุดเส้น โดดเด่นมากๆ อนาคตจะช่วยทำให้เกมกราบขวาของเราบุกเจาะคู่แข่งได้อย่างดีทีเดียว

(มีคลิปประกอบในReferencesท้ายบทความ)

เพราะเร็วกว่า จึงชนะ

3.1 ความเร็ว

ตัวนี้เร็วกว่านรก เร็วยิ่งกว่าคีนูรีฟตัดสกินเฮดในหนังยุค90อย่างSpeedแน่นอน เปยิสตรีเร็วมากในทุกๆด้าน ทั้งสปีดต้น(การออกตัว) ทั้งเพซวิ่งสปีดปลาย และที่สำคัญ ยังรวมไปถึงมีความคล่องตัวสูง(agility) ไม่ใช่เร็วทื่อๆอย่างเดียว แต่ตัวนี้โคตรพริ้วจัดๆ

ความเร็วความคล่องอยู่ในระดับเกือบเต็มหลอด 8เต็ม10 ถือว่าเร็วมาก

3.2 ลูกครอส

อาวุธเชิดหน้าชูตาของเปยิสตรีคือการครอสบอลจากด้านข้าง ตามที่เขียนไปแล้วว่า นี่คือ "ปีกขวาเล่นด้วยเท้าขวา" ไม่ใช่พวกIFตัดเข้ามายิง ดังนั้นอาวุธหลักของตัวนี้คือการทะลุทะลวงด้วยความเร็วขึ้นไปสุดเส้น แล้วครอสบอลมาเข้ากลางไม่ว่าจะเป็นfloat หรือ drill cross ทำได้ดีมากๆ เป็นWingerสายโอลด์สคูล

3.3 การเลี้ยงบอล

ถือเป็นอาวุธสำคัญของเจ้าตัวอีกอย่างนึง ใช้ควบคู่กับความเร็ว นั่นก็คือการเลี้ยงบอล ตัวนี้สามารถเอาชนะดับเบิ้ลทีมได้สบายๆ เลี้ยงกินตัวคู่แข่งแบบชิลๆ 1-1นี่ไม่ต้องพูดถึง เอามันไม่อยู่แน่นอน กว่าจะขยับตัวทัน มันก็กระชากหนีไปแล้ว เลี้ยงบอลติดเท้ามากๆ และกระชากบอลเลื้อยหลบคู่แข่งเก่งเลย 2ตัวก็ไม่ใช่ปัญหานะ ค่อนข้างกล้าเลี้ยง กล้าเล่นอย่างมาก และก็ทำได้จริงๆ รับรองว่าคู่แข่งเสียฟาล์วบ่อยแน่ๆถ้าเจอตัวนี้

3.4 การจ่ายบอล

เป็นอีกสกิลนึงที่โดดเด่นมากในภาคการเล่น เจ้าตัวเป็นปีกสายซัพพอร์ตอย่างแท้จริงที่ใช้การเล่นของตัวเองเพื่อสร้างโอกาสให้เพื่อน ทั้งจากการครอส หรือการจ่ายบอล ต่อบอล แทงบอลทะลุให้เพื่อนที่underหรือoverlapขึ้นมา จ่ายบอลแม่น้ำหนักดี จังหวะการจ่ายก็ดี

3.5 เทคนิคสูง

ผมดูเปยิสตรีเล่น รู้สึกเหมือนได้ดูเนย์มาร์เมื่อหลายปีที่แล้วสมัยยังเล่นในบ้านเกิด ดูมันพริ้วมากๆ เป็นสไตล์อเมริกาใต้จ๋าๆเลยสำหรับเปยิสตรี โดยเฉพาะเรื่องเทคนิคนี่มาเต็ม  ถ้าหากว่าเทียบเนย์มาร์ยุคนั้นเทคนิค10 (เล่นท่าเยอะมาก) ตัวนี้เทคนิคก็น่าจะราวๆ8

3.6 อื่นๆ

อันนี้เป็นข้อรองๆลงไป แต่ผมชอบ"จิตใจ"ในการเล่นของน้อง ที่ดูค่อนข้างทุ่มเท และตั้งใจเล่นมากๆ ไฟการเล่นมาเต็ม และนอกจากนี้ที่ไม่น่าเชื่อคือ สูงแค่174 แต่ชอบโผล่ไปโหม่งบ่อยๆ แม้ไม่ได้ประตู แต่ดูจะโหม่งได้ด้วย เออแปลกดีเพิ่งเคยเห็น wingerโหม่งได้แบบนี้

4.จุดอ่อน

จุดอ่อนใหญ่ๆของฟากุนโด้ เปยิสตรี ที่สำคัญๆเลย หากตัดเรื่องสรีระไปที่ตัวเล็กไม่มีแรงปะทะนั้น มันก็ต้องมีอยู่แล้วสำหรับตัวรุกร่างเล็ก แต่ดาวิด ซิลบา กับมาต้าก็ตัวเล็กเหมือนกัน เค้าก็เล่นได้ อันนี้แล้วแต่ฝีเท้าคน ขอข้ามไปก่อน

แต่จุดที่อ่อนจริงๆของเปยิสตรี คือเรื่องของการ "ทำประตู" การจบสกอร์ที่ทำได้ไม่ดีเอาซะเลย คือยิงไม่เป็นเลยอ่ะพูดง่ายๆ ทั้งการจบสกอร์ ทั้งลูกยิงไกล เท่าที่เห็นจากในคลิปและข้อมูลส่วนอื่นๆก็เป็นแบบนั้นจริงๆ

เพราะอย่างที่เกริ่นไว้ว่าตัวนี้ไม่ใช่Inside Forward แต่เป็นปีกแท้ ดังนั้นพวกนี้ไม่ถนัดการยิง จะเข้าไปทำประตูไม่เก่งก็ถือว่าปกติ ยิ่งเป็นปีกขวาตัวครอสแล้วด้วย เขาเล่นอยู่ด้านกว้าง ไม่ได้ตัดเข้ากลาง ดังนั้นจะไม่ถนัดในการยิงก็ถือว่าธรรมดามาก

เรื่องตรงนี้ผมเชื่อว่ามันเป็นpotentialซ่อนอยู่ที่สามารถพัฒนาในอนาคตได้ถ้าตั้งใจจริง แต่ใช้จุดเด่นตัวเองเล่นปีกขวาตัวครอสก็ดีอยู่แล้ว สร้างประโยชน์ให้ทีมได้เช่นกันโดยไม่จำเป็นต้องยิงเอง

5.สรุป

สำหรับดาวรุ่งตัวนี้ อยากให้ผู้อ่านไปนั่งดูคลิปการเล่นแบบเต็มๆดูเอาเอง จะรู้ว่าทำไมผมถึงได้สนใจมันขนาดต้องเอามาเขียน ทั้งๆที่ทีมเราเซ็นเด็กเข้ามาหลายตัวเลยช่วงนี้ แต่ตัวนี้เก่งจริง ผมดูแล้วตื่นตาตื่นใจ เหมือนเห็นโด้ตอนเป็นดาวรุ่งเลย อาจจะไม่เก่งเท่าแต่ตื่นเต้นเหมือนกัน

ภาพรวมเท่าที่เห็นตัวนี้ ทักษะและความเก่ง เหนือกว่าแดเนียล เจมส์ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว และน่าสนใจพอๆกับตัวที่เคยรีวิวไว้แบบ Jens Petter Hauge ที่เอซีมิลาน คว้าตัวฮ็อกก์ไปเข้าถิ่นซานซิโร่เรียบร้อยแล้ว

แต่ว่า Pellistriเองก็โดดเด่นไม่แพ้JPHเช่นกันในคนละแบบ หมอนั่นคือหน้ากึ่งปีกชั้นยอด ส่วนของเราเป็น Winger ขนานแท้แบบสุดทางจริงๆ เร็ว จี๊ด คล่อง เลื้อยหลบ กระชากสุดเส้นแล้วครอส

อาจจะใช้งานไม่ได้เลยทันทีในตอนนี้ แต่ความสามารถระดับนี้ผมให้อยู่ในเลเวลพอๆกับ Mason Greenwood เลย เป็นwonderkidระดับเดียวกัน คนนึงเป็นกองหน้าตัวจบสกอร์ ส่วนอีกคนเป็นปีกเทพตัวจี๊ด

จินตนาการเอาว่าเด็กอายุ18-19สองคนนี้เล่นด้วยกันในอนาคต Greenwoodยืนกลาง Pellistriยืนขวา แล้วกลางรุกเป็นHannibalคอยเป็นคอนดักเตอร์อยู่ กองหลังมีMengi แล้วสองฟูลแบ็ค Marc Jurado กับ Alvaro Fernandez สองเจ้าหนูสเปนคอยเติมเกมขึ้นมาจากริมเส้นคนละข้าง (ถ้าตอนนั้นยังไม่หนีกลับบาซ่ามาดริดนะ 555)

เป็นอนาคตแกนหลักของทีมที่ดูดีทีเดียวในอนาคต

ทั้งหมดนี้น่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด และPellistriจะเซ็นสัญญาเข้ามาในอีกสองวันข้างหน้า พร้อมๆกับการเปิดตัวคาวานี่ในวันนั้น และนั่นหมายความว่า เรากำลังจะได้ "ปีศาจสองตนจากดินแดนอุรุกวัย" เข้ามาพร้อมๆกันสองgeneration และพวกเขาจะมาสร้างความแข็งแกร่งให้กับManchester Unitedของเราได้อีกแน่นอน

พูดแล้วก็นึกถึงอดีตกองหน้าเก่าชาวอุรุกวัยของเราอย่าง Diego Forlan นักเตะขวัญใจผู้เขียนที่เสียดายมากๆว่าไม่เกิดกับระบบการเล่นของแมนยู แต่ฝีเท้าที่แท้จริงของฟอร์ลัน ทุกคนน่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าเขาสุดยอดขนาดไหน

คาวานี่จะมาสานต่องานที่ค้างไว้ของดิเอโก้ ฟอร์ลันได้สำเร็จแน่นอน ผมเชื่อเช่นนั้น

Welcome home lads.. ยินดีต้อนรับสู่บ้านหลังใหม่ อุรุกวัยทั้งสอง

#BELIEVE

-ศาลาผี-

References

https://www.infogol.net/en/player/edinson-cavani/3081

https://www.whoscored.com/Players/24328/History/Edinson-Cavani

https://www.transfermarkt.com/facundo-pellistri/profil/spieler/676318

https://www.youtube.com/watch?v=hVwqP1o9n1s&t=252s

https://www.youtube.com/watch?v=LdwIY8kz1vY

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด