โอกาสที่ต้องคว้าไว้
เพราะทีมชุดนี้มากด้วยผู้เล่นหน้าใหม่ที่ อากิระ นิชิโนะ เรียกมาติดทีม
อาจด้วยขาประจำที่เป็นแกนหลักทีมชาติไทย มีคิวต้องลงรับใช้ต้นสังกัด ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ทรู แบงค็อกฯ, บีจี ปทุมฯ หรือ ราชบุรี มิตรผล
ทำให้การเข้าแคมป์หนนี้ เปรียบเสมือนเวทีให้เหล่าเฟรซชี่ได้พิสูจน์ตัวเองอย่าง “ใกล้ตา” เฮดโค้ชพันธุ์ซามูไร
แถมมีเกมอุ่นเครื่องกับ นครปฐม ยูไนเต็ด ให้ลองทีมกันอย่างจริงจังอีก
1 ในตำแหน่งที่น่าจับตาอย่างมากในครั้งนี้ คงหนีไม่พ้น “ผู้รักษาประตู”
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ 3 นายทวารขาประจำในช้างศึก ไม่มีใครเดินทางมาร่วมเก็บตัวหนนี้
ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน กับ ฉัตรชัย บุตรพรม มีโปรแกรมไทยลีกตกค้างต้องสะสาง ขณะที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นั้นเล่นอยู่นอกประเทศ ที่การเดินทางเข้าประเทศต้องเสียเวลากับมาตรการกักตัวโควิด จากรัฐบาลอีก
ทำให้ นิชิโนะ ตัดสินใจเรียกผู้รักษาประตูหน้าใหม่เข้ามาเก็บตัวครั้งนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ปฏิวัติ คำไหม (สมุทรปราการ ซิตี้), สรานนท์ อนุอินทร์ (สิงห์ เชียงรายฯ) และ พีระพงษ์ เรือนนินทร์ (สุโขทัย เอฟซี)
ฟอร์มการเล่นทั้ง 3 คน ไม่ต้องพาสเจอไรซ์โดยละเอียด เราก็พอทราบว่า ทั้งหมดทำผลงานให้ต้นสังกัดได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้
เหตุผลที่บอกน่าสนใจคือ ทั้ง 3 คน มีโอกาสแสดงฝีมือต่อหน้าทีมสตาฟฟ์ และ นิชิโนะ แบบจริงจังในสีเสื้อทีมชาติ
ปฏิกริยา การตัดสินใจ จังหวะออกบอล เซฟ แพสชั่นในการลงเล่น กุนซือชาวญี่ปุ่นจะได้เห็นฟอร์มทั้ง 3 คนอย่างละเอียด
สรานนท์ จะบินเท่ ๆ เหมือนเฝ้าเสาให้ เชียงรายฯ หรือไม่ พีระพงษ์ จะเซฟอุตลุดไม่ต่างจากตอนอยู่กับ สุโขทัย หรือเปล่า ปฏิวัติ จะเปลี่ยนจากหน้าเป็นหลังมือหรือไม่ยามมาเข้าแคมป์กับทีมชาติ
หากทำผลงานได้ “เข้าตา” อาจมีโอกาสต่อยอดเข้าไปเป็น “ขาประจำ” ทีมชาติไทยในอนาคต
เพราะอย่างไรเสียอีกไม่นาน บรรดานายด่านรุ่นพี่เองต่างรอวัน “ผลัดใบ” หลีกทางให้เด็กใหม่เข้ามาแทนที่
ศิวรักษ์ เองแม้มาตรฐานอาจจะไม่ตกลง แต่วัยก็ปาเข้าไป 36 ปี ขณะที่ ฉัตรชัย ในวัย 33 ก็ผ่านช่วงพีกสุดของชีวิตมาแล้วเช่นกัน ด้าน กวินทร์ โมเมนตั้มชีวิตเวลานี้ต้องแก่งแย่งชิงตำแหน่งมือ 1 ที่ คอนซาโดเล ซัปโปโร หาเกมลงเล่นให้สม่ำเสมอก่อน เพราะหากไร้เวทีให้แสดงฝีมือ มีโอกาสสุงที่เขาจะหลุดออกจากทีมชาติ
นั่นคือเหตุผลที่ว่า หาก 3 คนที่เรียกมาใหม่โชว์การเฝ้าเสาต่อหน้า นิชิโนะ ได้ดี ย่อมมีโอกาสที่จะถูกหมายหัวเข้ามาแทนรุ่นพี่ที่เริ่มโรยราไปตามวัย
แม้จะเป็นระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่อย่าคิดว่านี่คือการเข้าแคมป์ซ้อมชิล ๆ พอหมดฟีฟ่า เดย์ ก็ต่างแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน
แคมป์เก็บตัวครั้งนี้เปรียบเสมือน “บัตรผ่าน” ให้ 3 ผู้รักษาประตู แสดงผลงานได้อย่างเต็มเปื่ยม (ในวันที่รุ่นพี่ไม่อยู่)
ผู้รักษาประตูเป็นตำแหน่งที่น่าน้อยใจ เพราะต่อให้โชว์ฟอร์มดีแค่ไหน แต่จะมีเพียงโควตาเดียวให้คุณในสนาม และหากไม่เจ็บป่วย ถูกอุบัติเหตุลูกหนังเล่นงาน อย่าหวังว่าตัวสำรองจะได้โอกาสเปลี่ยนลงไปเฝ้าเสา
นั่นยิ่งทำให้ทั้ง 3 คนต้องแก่งแย่งชิงดี โชว์ทุกกลยุทธ์ออกมาให้ได้มากสุด ตลอดเวลา เพราะโอกาสที่จะถูกเรียกติดทีมมาพร้อมกันเช่นนี้ “มีไม่บ่อย”
หากทำได้ดีในแคมป์ และรักษามาตรฐานกับต้นสังกัดได้
ไม่แน่ว่าการเรียกเก็บตัวทีมชาติไทยครั้งต่อไป เราอาจไม่เห็นรายชื่อผู้รักษาประตูหน้าเก่าติดทีมพร้อมกันอีก
แต่อาจถูกแทนที่ด้วยใครใน 3 คนที่มาใหม่นี้