เรื่องราวทั้งหมดเป็นมาอย่างไร มีผลอะไรตามมา และกำลังจะเกิดอะไรขึ้นอีก สรุปได้ดังนี้ 

1. วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม สื่อในอังกฤษรายงานว่า อาร์เซน่อล "ปลด" พนักงานที่ทำหน้าที่ "กันเนอร์ซอรัส" มัสคอตประจำสโมสรออกจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ รวมถึงบุคลากรอื่นๆ จำนวนมากที่ถูกเลิกจ้างไปแล้ว

2. แฟนบอล อาร์เซน่อล ทั้งในอังกฤษและทั่วโลกต่างออกมาวิจารณ์สโมสรว่า "ไม่เหมาะสม" เนื่องด้วยกันเนอร์ซอรัสมีความผูกพันกับแฟนบอลมานาน เข้าถึงได้ง่าย สามารถถ่ายรูปและกอดรัดฟัดเหวี่ยงถึงเนื้อถึงตัวได้ ถือว่าเป็นขวัญใจของเด็กๆ และเป็นเหมือนสัญลักษณ์อีกอย่างของสโมสร 

3. เจอร์รี่ คาย (Jerry Quy) คนทำหน้าที่ภายใต้ชุดมัสคอตเป็นแฟนบอลพันธุ์แท้ของ อาร์เซน่อล เขาเคยเข้าดูเกมที่ไฮบิวรี่ตั้งแต่ปี 1963 หรือ 57 ปีที่แล้ว และทำหน้าที่มัสคอตมาตั้งแต่ปี 1993 หรือ 27 ปีที่แล้ว เขามาดูเกมในบ้านของ อาร์เซน่อล ตลอดแม้กระทั่งยอมไม่ไปงานแต่งของน้องชาย 

4. เสียงวิจารณ์มีเพิ่มมากขึ้นเมื่อในวันเดียวกันนั้น อาร์เซน่อล ทุ่มเงิน 50 ล้านยูโร เป็นค่าฉีกสัญญา โธมัส ปาร์เตย์ มาร่วมทีม พร้อมค่าเหนื่อยอีกราว 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ทว่ากลับโละคนทำหน้าที่มัสคอตที่ค่าจ้างไม่ถึง 3 หมื่นปอนด์ต่อปีออกไป

5. วันอังคารที่ 6 ตุลาคม เมซุต โอซิล ผู้เล่นที่รับค่าเหนื่อยมากสุดในสโมสร 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ประกาศผ่านโซเชียล พร้อมจ่ายค่าจ้างให้  เจอร์รี่ คาย เพื่อให้ได้ทำหน้าที่มัสคอตต่อไปจนกว่าตัวเองจะย้ายออกจาก อาร์เซน่อล

6. การเสนอตัวจ่ายค่าจ้างให้มัสคอตของ โอซิล มีทั้งเสียงชื่นชมและเสียงตำหนิ โดยกลุ่มแรกยกย่องว่า โอซิล มีจิตใจดีงาม และทำในสิ่งที่ควรทำ แบ่งปันในสิ่งที่ตัวเองมีให้กับคนอื่น 

7. แต่อีกกลุ่มก็มองว่าการทำแบบนี้ของ โอซิล เหมือน "ข้ามหัว" สโมสร เป็นการหักหน้ากันโดยตรง และถ้าอยากช่วยจริง ทำไมไม่ติดต่อสโมสรโดยตรงไปเลยว่าจะอาสาจ่ายให้ แต่กลับมาให้ข่าวบนโซเชียล และทำให้ภาพลักษณ์สโมสรในเรื่องนี้ย่ำแย่ลงไปอีก

8. ในกลุ่มหลังที่ไม่ได้มองการกระทำของ โอซิล เป็นเรื่องดีงามไปทั้งหมด ขยายประเด็นต่อว่าจะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอดีตแข้งทีมชาติเยอรมันชุดโลก 2014 กับสโมสรขัดแย้งกันมากยิ่งกว่าเดิม

9. ก่อนหน้านี้ โอซิล กับสโมสรอาร์เซน่อล มีเรื่องราวระหองระแหงกันมาพอสมควรหลังจากที่แข้งวัยย่าง 32 ปี (เกิด 15 ตุลาคม 1988) ไม่ได้ลงสนามให้ อาร์เซน่อล เลยนับตั้งแต่ลงเล่นเกมทางการหลังครั้งล่าสุดในเดือนมีนาคม หรือก่อนโควิด-19 ระบาด

10. ในช่วงโควิดระบาด โอซิล คือหนึ่งในนักเตะของทีมที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายลดค่าเหนื่อยนักเตะ โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่าสโมสรรีบร้อนเกินไปในการใช้นโยบายนี้ เพราะควรรอสถานการณ์คลี่คลายก่อน จากนั้นค่อยมาดูกันว่าได้รับผลกระทบอะไร ตัวเองยินดีช่วยอยู่แล้ว แต่อยากเห็นก่อนว่ามีความเสียหายมากน้อยเพียงใด

11. สุดท้ายแล้ว โอซิล ยอมรับเงื่อนไขลดค่าเหนื่อยเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นเพราะเชื่อว่าจะไม่มีคนในสโมสรถูกปลดออกจากตำแหน่ง แต่ในเวลาต่อมา สโมสรปลดพนักงานออกหลายสิบชีวิตจนกระทั่งมาถึงรายล่าสุดคนสวมชุดมัสคอต

12. ในตอนนั้น โอซิล ตั้งข้อสังเกตด้วยว่าการที่ตัวเองไม่ได้ลงสนามเลยในช่วงหลัง อาจเป็นเหตุผลมาจากการที่แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับนโยบายลดค่าเหนื่อยดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าฟิตพร้อมลงเล่นอยู่ตลอด และก็ซ้อมกับทีมอย่างต่อเนื่อง 

13. หลังข่าวช่วยออกเงินของ โอซิล กลายเป็นกระแสได้ไม่ถึงชั่วโมง เจมส์ โอลลี่ย์ นักข่าว อีเอสพีเอ็น รายงานว่า โฆษก อาร์เซน่อล ได้ชี้แจงดังนี้ "Gunnersaurus is not extinct and will return to action when fans are allowed back at matches" (กันเนอร์ซอรัสไม่ได้สูญพันธุ์ แต่จะกลับมาเมื่อแฟนบอลได้ชมเกมในสนามอีกครั้ง) 

14. ขณะที่ เดวิด ออร์นสตีน รายงานใน The Athletic ว่า "Arsenal confirmed Quy had left his post as they strive to do everything more efficiently. However, they insisted the beloved mascot will return" (อาร์เซน่อล ยืนยันว่า เจอร์รี่ คาย อำลาตำแหน่งเนื่องด้วยสโมสรปรับเปลี่ยนการทำงานทุกอย่างเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยืนยันว่ามัสคอตอันเป็นที่รักจะกลับมาอีกครั้ง)

15. ข่าวที่ออกมา อาร์เซน่อล ค่อนข้างชัดเจนว่า เจอร์รี่ คาย อำลาหน้าที่ถาวรแล้ว และจะมีคนอื่นรับหน้าที่ภายใต้ชุดกันเนอร์ซอรัสเมื่อถึงเวลาที่แฟนบอลได้กลับมาชมเกมในสนามอีกครั้ง 

16. ส่วน โอซิล สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือ หลายคนมองว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสโมสรย่ำแย่หนักยิ่งกว่าเดิม และแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้กลับมาลงสนามอีกครั้ง 

17. โอซิล ถูกตัดชื่อออกจากทีมชุดลุยศึกยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาลนี้ และน่าจะหลุดโผในลิสต์สำหรับพรีเมียร์ลีกเช่นกัน 

18. มีข่าวตามมาอีกระลอกว่า อาร์เซน่อล กำลังพิจารณายกเลิกสัญญากับ โอซิล เพราะไม่ต้องการแบกรักค่าเหนื่อย 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์อีกต่อไป แต่การยกเลิกสัญญาก็ไม่มีทางทำได้โดยง่ายเพราะต้องยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่ายซึ่งในมุมของ โอซิล เขาไม่ต้องการยกเลิกสัญญาแต่อย่างใด