สถานการณ์ไม่ดีขึ้นเมื่อปิดตลาดด้วยการไม่ได้ใครมาเพิ่ม และยังต้องเสีย อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ไปให้หงส์แดง 

ส่วนการอยู่ต่อของ อเล็กซิส ซานเขซ ก็ไม่รู้จะเป็นผลดีในระยะยาวหรือไม่เพราะยังไงเสียซัมเมอร์หน้าต้องปล่อยออกไปแบบไร้ค่าตัว 

สิ่งปลอบประโลมเดียวในห้วงเวลานี้คงเป็นความในใจของ เมซุต โอซิล ที่ร่ายยาวผ่านเฟซบุ๊กในโอกาสอยู่กับทีมครบรอบ  ปี 

อยากให้ได้อ่านกันอีกรอบ ยาวหน่อย แต่เป็นข้อความที่กลั่นออกมาจากหัวใจส่งถึงทุกคนที่ยังคงสนับสนุนสโมสร 

และที่สำคัญคือ โอซิล กล้าตอบโต้อดีตนักเตะของทีมหลายคนที่สับแหลกผลงานของทีมอย่างหนักในช่วงนี้ เขาไม่สนว่าในกลุ่มนี้ซึ่งนำโดย เธียร์รี่ อองรี จะเป็นถึงตำนานสโมสร 

ภาพบนเฟซบุ๊กที่ เมซุต โอซิล โพสต์พร้อมบอกกล่าวความในใจยาวเหยียด 

''วันที่ 2 กันยายน 2017 ตอนนี้ผมอยู่ร่วมกับทีมชาติเยอรมัน และเมื่อวานนี้เป็นอีกก้าวสำคัญของเราสู่ฟุตบอลโลก ที่รัสเซีย หลังเอาชนะสาธารณรัฐเช็กได้ 2-1''

''ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เพื่อนร่วมทีมชาติเยอรมันต่างถามไถ่เกี่ยวกับสถานการณ์ที่อาร์เซน่อล พวกเขาบอกว่าได้อ่านเกี่ยวกับวิกฤตของทีมผ่านสื่อต่างๆ ที่เหล่านักวิจารณ์ และอดีตนักเตะออกมาแสดงความเห็นแบบรายวัน บอกว่าทีมชุดนี้แย่สุดในรอบหลายปี หรือรอบทศวรรษเลยด้วยซ้ำ''

''ผมเขียนข้อความนี้โดยที่มีคนใกล้ชิดเคียงข้าง เรามีเรื่องให้ร่วมฉลองด้วยกัน ถึงแม้วันนี้จะไม่ได้ชนะการแข่งขัน หรือชูถ้วยแชมป์ใดๆ อาร์เซน่อลกับผมได้ฉลองวันครบของเรา! สี่ปีที่แล้ว ผมย้ายจากเรอัล มาดริด มาร่วมทีมอาร์เซน่อลในนาทีสุดท้ายจากการโน้มน้าวของ อาร์แซน เวนเกอร์''

''เขาเล่าถึงประวัติศาสต์อันยิ่งใหญ่ของสโมสรแห่งนี้ พูดถึงตำนานอย่าง เบิร์กแคมป์, วิเอร่า และ ปิแรส ซึ่งผู้จัดการทีมมีส่วนอย่างมากในความสำเร็จของพวกเขา''

''อาร์แซนบอกว่าเขาจะพัฒนาฝีเท้าผมได้ยังไง และนี่คือสิ่งที่นักเตะทุกคนต้องการได้ยิน มันเป็นกำลังใจที่ดีมาก''

''ถึงแม้ว่าผมต้องเจอความยากลำบากตอนที่เพิ่งย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีก แต่ผมก็ยอมรับความท้าทายนั้น ผมเริ่มในตำแหน่งปีกซ้ายช่วงแรกซึ่งว่ากันตามตรงผมไม่ค่อยชื่นชอบเท่าไหร่นัก ผมทำได้ดีกว่าในตำแหน่ง ''หมายเลข 10'' เมื่อได้เล่นตรงกลาง ผมสามารถคอนโทรลเกมและสร้างสรรค์โอกาสได้''

''การเล่นในพรีเมียร์ลีกต้องอาศัยความแข็งแกร่งของร่างกายมากกว่า ลา ลีกา หรือ บุนเดสลีกา เยอะ การดวลตัวต่อตัวยากกว่า บรรดาทีมเล็กๆ ก็แข็งแกร่งมากจนเล่นงานคุณได้เลย ยิ่งกว่านั้นที่นี่ไม่มีช่วงเบรกฤดูหนาว นั่นหมายความว่าฤดูกาลแข่งขันยาวนานและเหนื่อยล้าสุดๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องเล่นในรายการยุโรป และทีมชาติด้วย''

ภาพแห่งความทรงจำเมื่อ 4 ปีก่อนที่แฟนบอลอาร์เซน่อลรวมตัวพร้อมสวมเสื้อปักชื่อ โอซิล หลังเจ้าตัวย้ายมาร่วมทีม

  ''เราประสบความสำเร็จมากมายในช่วงเวลาสี่ปีนี้ แชมป์เอฟเอ คัพ 3 ครั้ง จากทั้งหมด 13 ครั้ง ขณะที่อีก 10 ครั้ง ที่เหลือต้องใช้เวลาถึง 75 ปี ในการคว้าความสำเร็จนี้ รวมไปถึงคอมมิวนิตี้ ชิลด์ 3 ครั้ง รวมแล้ว 6 แชมป์ ในรอบ 4 ปี ถือว่าไม่เลวเลย''  

''อย่างไรก็ตาม มันยิ่งทำให้ผมและเพื่อนร่วมทีมรู้สึกผิดหวังมากที่เราไม่ได้ลุ้นแชมป์ลีกในท้ายฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราหวังจะเปลี่ยนแปลงให้ได้ในปีนี้''

  ''ส่วนตัวแล้ว ผมยอมรับเสียงวิจารณ์อย่างมากมายเกี่ยวกับการเล่นในลอนดอน ''แพงไป'', ''โลภมาก'', ''ภาษากายแย่'' และ ''ไม่สู้'' เหล่านี้คือสิ่งที่ผู้คนพูดถึงผม''

''บางความเห็นมาจากคนที่ไม่รู้จักผม บ้างก็มาจากอดีตนักเตะทั้งที่ประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จในช่วงที่เล่นให้สโมสรนี้''

''ถึงแม้ว่าคำวิจารณ์คือสิ่งที่นักฟุตบอลต้องรับมือให้ได้ แต่กระนั้นผมก็คาดหวังว่าบรรดาตำนานจะวางตัวให้สมกับเป็นตำนาน คำแนะนำของผมสำหรับอดีตกันเนอร์สเหล่านี้คือ : หยุดพูด แล้วหนุนหลังทีมดีกว่า!''

''ผมอยากขอบคุณกันเนอร์สทุกคนที่คอยให้กำลังใจและเชื่อมั่นในตัวผมเสมอมา ตอนผมออกจากเอมิเรตส์หลังจบเกม ผมเห็นแฟนบอลยืนส่งเสียงเชียร์ตามถนน วันไหนเล่นดีก็จะได้ยินพวกคุณร้องเพลงเชียร์ของผม นั่นทำให้ผมภูมิใจอย่างที่สุด และขนลุกทุกครั้ง''

  ''ผมได้รับเกียรติอย่างมากที่ได้พบกับเบรนแดน และ ชาร์ลี ซึ่งยังคงสนับสนุนทีมแม้ว่าป่วยอยู่ก็ตาม ความเข้มแข็งและข้อความเชิงบวกของพวกเขาสร้างแรงกระตุ้นให้กับผม มากกว่านั้น ผมต้องขอบคุณทุกความสัมพันธ์อันดีที่เกิดขึ้นตลอด 4 ปีที่ผ่านมา''

''แม้ผมเองยังไม่รู้ว่าเส้นทางอาชีพค้าแข้งจะเป็นไปอย่างไรหลังจบฤดูกาลนี้ แต่ผมมองไปถึงฤดูกาลที่ 5 กับอาร์เซน่อล นั่นเพราะอาร์เซน่อลคือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ผู้คนยอดเยี่ยม และมีธรรมเนียมที่ดีงาม''

''ผมยินดีที่ได้สวมเสื้อของพวกคุณนะ, กูนเนอร์ส ผมมีช่วงเวลายอดเยี่ยมมากมายใน 4 ปีที่ผ่านมา และปลามปลื้มจริงๆ ที่เห็นว่าสโมสรแห่งนี้มีคามหมายอย่างไรต่อผู้คนในลอนดอน ในสหราชอาณาจักร และทั่วโลก''  โอซิล เหลือสัญญาไม่ถึงปีเช่นเดียวกับ อเล็กซิส ซานเชซ แต่อย่างน้อยการออกมาพูดถึงความมุ่งมั่นในฤดูกาลนี้ก็คงเป็นเรื่องดีที่สุดเท่าที่แฟนบอลอาร์เซน่อลจะคาดหวังได้ ทุกคนได้รับรู้ว่าจอมทัพทีมชาติเยอรมันพร้อมสู้ไปกับทีมอีกครั้ง 

ทีนี้ก็เหลือเพียง โอซิล ทำให้เห็นจริงในสนามอย่างที่ตั้งใจและพาอาร์เซน่อลกลับมาเป็นทีมที่ทุกคนพร้อมหนุนหลังอย่างสุดหัวใจอีกครั้ง