:::     :::

ตำนานกิเลน กับภารกิจปฏิรูปกิเลน(ให้)ผยอง

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สำหรับผู้เขียน ไม่มีเซอร์ไพรส์สักเท่าไหร่กับการทิ้งเก้าอี้ของ อเล็กซานเดร กามา

เพราะสัญญาของกุนซือบราซิเลียน ในถิ่น เอสซีจี สเตเดียม จะหมดลงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้

ประกอบกับเจ้าตัวได้รับข้อเสนอที่ดีงามจากอู่ข้าวอู่น้ำเดิม ที่เคยพาประสบความสำเร็จอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำให้สัญญาที่เหลือ 1 เดือน “ทิ้งไป” ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะอย่างไรเสีย เจ้าตัวจะได้ค่าเซ็นสัญญาฉบับใหม่อยู่ดี

เมืองทองฯ เองก็รู้ดีแก่ใจว่า ไม่สามารถยื่นข้อฉบับใหม่ให้เป็นที่น่าประทับใจ กามา ได้ ตามวัฎจักรลูกหนัง เมื่อเจรจา “ภาษาฟุตบอล” ไม่ลงตัว การแยกทางจึงเกิด

หากเป็นเมื่อก่อน กิเลนผยอง คงออกไปตามหาโค้ชดีกรีดี โปรไฟล์สูงจากต่างแดน หรือกุนซือมากประสบการณ์ในไทยมาคุมทัพ

แต่ เมืองทองฯ วันนี้ หาใช่ เมืองทองฯ ดั่งวังวาน

พวกเขาลดเพดานเงินเดือนนักเตะ-โค้ช มาอยู่ในอัตราที่พอ “จ่ายไหว” ทิ้งชื่อ “เจ้าบุญทุ่ม” ไปจากสารบบสโมสร

คนที่มาใหม่ไม่ใช่ใคร แต่เป็นตำนานทีมอย่าง มาริโอ ยูรอฟสกี




ในแง่ความเป็นนักเตะ เชื่อว่าสาวกกิเลนผยองไม่มีใครปฏิเสธฝีตีน “ซูเปอร์มาริโอ” บ้างยกขึ้นหิ้งบูชาเป็นระดับตำนานต่างชาติอันดับต้น ๆ ที่มาค้าแข้งให้ทีม

ดาวเตะผู้ลืมตามองโลกที่กรุงเบลเกรด เข้ามาสร้างปรากฎการณ์คว้าแชมป์ไทยลีกแบบไร้พ่าย ตั้งแต่ฤดูกาลแรกในเมืองไทย ด้วยสไตล์การเล่นน่าตื่นตา ฝีตีนที่หาใครจับยาก ท่าดีใจอันกวนโอ๊ย ทำให้เขาเข้าไปอยู่ในใจชาวเมืองทองฯ อย่างรวดเร็ว

เพียงแต่หลังจากนี้ยังเป็นคำถาม เมื่อเขาต้องเปลี่ยนบทบาททำงานในฐานะ “กุนซือ” แทน

ตลอดชีวิตที่ มาริโอ ค้าแข้งจนแขวนสตั๊ดบนวัย 34 กับ เมืองทองฯ เขาเพิ่งมาเริ่มมาเรียนกุนซือ ผันตัวเองมาเป็นโค้ชเยาวชนกิเลนผยอง วันดีคืนดีได้รับ “โอกาส” สำคัญในการคุมทีมที่เขาเคยค้าแข้ง

มุม มาริโอ นี่อาจเป็น “งาน” ที่ท้าทาย เพราะเปรียบเสมือนการ “เดบิวต์” การคุมทีมข้างสนามอย่างทางการ




ความกดดันในรั้วกิเลนผยองเวลานี้ ไม่ได้ “เข้มงวด” เหมือนก่อน ด้วยสถานะที่ไม่ใช่สโมสรระดับลุ้นแชมป์อีกต่อไป ทีมใช้ผู้เล่นดาวรุ่งเป็นหลัก ผสมด้วยแกนหลักต่างชาติมากประสบการณ์คอยประคอง

เป้าหมายเอาเข้าจริง ผู้เขียนมองว่าเมืองทองฯเวลานี้ แค่ผยุงตัวเองไม่ให้ “ตกชั้น” เป็นพอแล้ว จึงเป็นโอกาสให้มาริโอ ได้ปล่อยของอย่างเต็มที่ ใช้ทรัพยากรที่มีในรั้วไป ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณเพิ่มเติม

มุมผู้เขียน มาริโอ อาจไม่เคยมีประสบการณ์คุมทีมข้างสนาม แต่ด้วยความที่มีเลือดกิเลนเต็มเปี่ยม ขลุกอยู่กับทีมเยาวชนมาพักหนึ่ง ทำให้เขาเองน่าจะรู้จักมักจี่นักเตะทีมชุดใหญ่กิเลนผยองพอสมควร และมีคู่มือในการใช้งานได้

กอปรกับ มาริโอ เป็นสไตล์ “อยู่เป็น เย็นได้” เป็นมืออาชีพที่เข้าใจวัฒนธรรม หรือบริบทฟุตบอลไทยเป็นอย่างดี จากการมาทำงานในเมืองไทยกว่า 10 ปี ฉะนั้นเรื่องแพสชั่น การปรับตัวให้เข้ากับแวดล้อม การสื่อสารกับนักฟุตบอลไทย คงไม่ใช่ปัญหา

ยิ่งได้อดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง ดาโน เซียกา เข้ามาเป็นมือขวา การทำงานเองน่าจะง่ายยิ่งขึ้น




ทีนี้อยู่ที่ มาริโอ แล้วว่าจะใช้ประสบการณ์ตอนเป็นผู้เล่นและโค้ชเยาวชน มาปรับใช้กู้กิเลนผยองกลับมาสู่เส้นทางที่ควรจะเป็นได้เช่นไร กับวัตถุดิบที่มีอยู่ในรั้ว

กับเฮดโค้ชคนใหม่ที่ไม่เคยคุมทัพอย่างทางการ มีเพียง “หัวใจ” ที่เป็นกิเลนเต็มร้อย และประสบการณ์อยู่กับฟุตบอลไทยมา 10 ปี

ล้มเหลว ผิดหวัง ผลลัพธ์ดี เราไม่มีทางรู้ หากไม่ลอง

บางทีคนที่ใช่ อาจเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่อยู่ใกล้ตัว

 

คำค้นหา : MuangthongUTD MTUTD ไทยลีก
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด