:::     :::

"คลังแสงอาวุธใหม่" ปืนที่ตบมาจากบอสใหญ่ ของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา

วันพุธที่ 21 ตุลาคม 2563 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
35,315
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เกมเอาชนะปารีส แสดงให้เห็นว่าโอเล่มีอาวุธใหม่ๆที่ใช้งานเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมากมาย ทั้งด้านนักเตะใหม่เก่า และวิธีการเล่นที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อันเป็นเหตุทำให้เขาหักด่านทีมจากเมืองน้ำหอมได้สำเร็จ และจะใช้ในซีซั่นนี้ไปยาวๆอย่างแน่นอน

เชื่อว่าหลายๆคนคงจะฟินกันน่าดูสำหรับเกมล่าสุดที่ยูไนเต็ดบุกไปเอาชนะPSGได้ถึงถิ่นปาร์กเดอแพร็งส์ 1 ประตูต่อ 2 ซึ่งในเกมนี้มีอะไรหลายๆอย่างให้เห็นมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสำเร็จทางด้านแทคติกจากโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่วางแผนมาได้ดีมากๆจนทำให้ 3-4-1-2 ของเขาสามารถปิดเกมรุกของปารีสได้อยู่หมัด

ทั้งการทำลายตัวสร้างสรรค์เกมสองคนอย่างดิมาเรียและเนย์มาร์ด้วยอาวุธหนักในแดนกลางอย่าง แม็ค เฟร็ด รวมถึงบิสซาก้า ที่วิ่งพล่านไล่เพรสซิ่งอัดเกมรุกปารีสอย่างไม่หยุดหย่อน

และเมื่อบอลหลุดจากกำแพงปีศาจชั้นแรกไปได้ ก็เจอความแน่นของหลังสามที่ซ้อนกันดี และสกัดจังหวะสุดท้ายได้อยู่หมัด

การวางแผนก่อนเกมของโอเล่นั้นทำได้ดีมากๆในเกมเจอปารีสนี้ แต่เท่านั้นยังไม่พอ ระหว่างเกมเมื่อทูเคิลทำการแก้ไขหมากจาก4-3-3ในครึ่งแรก มาเป็น 4-4-2 Wingerในครึ่งหลัง จนทำให้เกมปารีสดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดช่วงต้นครึ่งหลัง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็ทำสิ่งที่แฟนผีรอคอยมานานด้วยการ ลุกออกจากเก้าอี้(ฮา) และออกมาแก้เกมอย่างทันควันด้วยแผนการใหม่ในซีซั่นนี้ และเปลี่ยนเกมของปารีสที่กำลังคว้าโมเมนตัมมาจากลูกตีเสมอ กลับกลายเป็นเกมของแมนยูอีกครั้งที่ครองบอลและบุกอย่างได้น้ำได้เนื้อมากกว่าทันทีตั้งแต่ป็อกบาลงมา จนกลายเป็นต้นกำเนิดของประตูขึ้นนำ 1-2 อย่างสวยสดงดงาม

เอาชนะเกมเปิดรอบแบ่งกลุ่มแห่งความตายไปได้อย่างสวยสดงดงามด้วยฟอร์มการเล่นของนักเตะในสนามอันสุดยอดมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เดเคอา ตวนเซเบ้ เฟร็ด บิสซาก้า พวกนี้ฟอร์มพีคอย่างโดดเด่นมากๆ แม้กระทั่งแรชฟอร์ดเองที่หายๆตัวในครึ่งแรก ครึ่งหลังก็มากดอัลติท่าใหญ่ ซัดประตูระดับโลกให้ได้เห็น คมกริบยิ่งกว่ามีดโกนลมกรดจริงๆ

สิ่งที่ทำให้แฟนบอลได้เห็นในวันนี้นอกจากการเล่นที่ยอดเยี่ยมและบุกไปอัดปารีสให้ฝันร้ายซ้ำอีกนัดนึงแล้ว มันยังเป็นเกมที่ทำให้เราเห็นว่า โซลชานั้นติดตั้ง "อาวุธใหม่" เพิ่มเข้ามาแล้วเรียบร้อย ในหลายๆอย่างที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้


และที่สำคัญที่สุดน่าจะตอกย้ำให้แฟนบอลบางส่วนที่อคติและตั้งแง่กับเขาว่าเป็นบอลหน้าเดียวนั้น ได้รับรู้กันไปเลยว่าจริงๆแล้วจากการที่นั่งดูรายละเอียดการเล่นในทุกๆนัด ดีเทลเรื่องแทคติกโอเล่เอาจริงๆนั้นละเอียดมาก แม้ว่าการนั่งดูหน้าจอบ่อยๆของโอเล่ข้างสนามอาจจะทำให้แฟนบอลอย่างเราๆหงุดหงิดก็ตามที แต่นั่นแหละมันสะท้อนให้เห็นว่าเขาใส่ใจรายละเอียดมากขนาดไหน

และนี่คือ "ขีปนาวุธชิ้นใหม่" ของโอเล่และของแมนยูที่เราสังเกตเห็นได้จากเกมบุกชนะปารีสเกมนี้ ซึ่งโอเล่จะใช้มันต่อสู้ในสังเวียนต่างๆตลอดซีซั่น2020/21อย่างแน่นอน

1.ลูกครอสริมเส้นจากAlex Telles

นี่คือหนึ่งใน "ปืนบอส" อันใหม่ที่โอเล่ทำตัวเปรียบเสมือนร็อคแมนตะลุยด่าน แล้วไปเก็บปืนของบอสแต่ละตัวมาใช้งานได้ และอเล็กซ์ เตลีส นี่คือปืนบอสของPorto ที่ใช้งานเป็นหลักมาโดยตลอด ในขณะนี้มันได้กลายมาเป็นอาวุธของร็อคแมนโอเล่เรียบร้อยแล้ว

เกมเมื่อวานนั้นแม้ว่าเตลีสจะไม่ได้โดดเด่นมากในภาคการเล่น เพราะปารีสเองก็ไม่ยอมขึ้นเกมทางขวาด้วย เพราะจะสังเกตได้ว่า ทั้งเกมเราแทบจะไม่เห็นฟลอเรนซี่เติมขึ้นมาสูงหรือครอสบอลเลย เพราะว่าตัวรุกของปารีสก็เบ้ซ้ายชอบไปขึ้นซ้ายเหมือนกัน ทำให้ฝั่งนั้นบทบาทน้อยหน่อย แต่เตลีสก็แสดงให้เราเห็นแล้วว่า เขานี่แหละ อาวุธชิ้นใหม่ระดับ"ปืนจากบอส"อย่างแท้จริง


เมื่อโอกาสที่เขาเติมขึ้นหน้ามันเกิดขึ้นมาเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง น้อยมากๆ แต่เตลีสกลับ "ครอสบอล" ได้เยอะมากๆตามสถิติต่อเกมเลยจากที่รีวิวและศึกษากันมาก่อนหน้านี้ เพราะเขาคนเดียวครอสบอลไปถึง8ครั้ง และสร้างโอกาสได้อีก3ครั้งซึ่งเยอะมากๆ ขนาดว่าโดนถอดออกเร็วตั้งแต่นาที68 ช่วงท้ายๆครึ่งแรกคือโดดเด่นมาก

ก่อนหน้านี้แมนยูไม่มีคนครอสบอลเลยแม้แต่คนเดียว แบ็คสองข้างบอดมากๆ และมักจะใช้การต่อบอลเล่นเหมือนกับตัวรุกในทีม ดังนั้นมิติการเล่นมันจึงทับซ้อนและมีแค่มิติเดียวเดิมๆ ทั้งๆที่ทีมอื่นปกติถ้ามีโอกาสเขาก็ครอสบอลเข้ากลางกันทั้งนั้น ส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะทีมเราไม่มีกองหน้าตัวเป้ารอชาร์จแบบเป็นชิ้นเป็นอัน แต่วันนี้เตลีสแสดงให้เห็นแล้วว่า มิติการเล่นตรงนี้มันอยู่ที่ตัวนักเตะจริงๆ

เกมแรกที่เดบิวต์ เตลีสก็ครอสโชว์ให้เห็นจะจะทันที ทั้งครอสจากจังหวะเปิด รวมถึงภาคการเปิดลูกเตะมุมสวยๆจากมุมธงฝั่งขวาก็ทำได้ดีมาก นัดแรกมาก็ได้สัมปทานเลยแสดงว่าทีมงานรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว

แค่เรื่องปริมาณที่ทำให้เกิดการครอสบอล มันก็เยี่ยมมากอยู่แล้ว แต่เตลีสไม่ได้ทำเพียงแค่สักแต่ว่าครอสๆเข้าไปเน้นปริมาณอย่างเดียว แต่ถ้านั่งดูอยู่จะรู้เลยว่า "คุณภาพการครอส" เข้าขั้นเอกอุ ยอดเยี่ยมและทรงประสิทธิภาพมากๆเพราะแต่ละลูกแม่งเข้าหัวนักเตะแมนยูเน้นๆ บางลูกต่อให้โดนสกัดมามันก็ยังถือว่าเข้าเป้าอยู่ดี เพราะตรงนั้นมีนักเตะเราอยู่เน้นๆ เพียงแค่โดนแย่งสกัดได้เท่านั้น แต่โดยรวมถือว่าเปิดเข้าจุดอันตรายแม่นมากทุกลูก

ต่อจากนี้ยูไนเต็ดจะมีบอลครอสใช้งานแล้วอย่างแน่นอน ถือเป็นอาวุธใหม่ที่ "มาตามนัด" ของจริง มาพร้อมกับเกมเดบิวต์แรกของอเล็กซ์ เตลีส อย่างที่เราได้เห็นในเกมนี้ และเชื่อว่ามิติตรงนี้ที่เพิ่มมามันจะช่วยแก้ปัญหา "เกมรุกตื้อตัน" เวลาที่เมื่อก่อนเห็นทีมของโอเล่เจอทีมตั้งรับลึกแล้วไปไม่เป็น หลังจากนี้ถ้าเจอแบบนั้นอีก การเปิดยัดเข้าไปในโซนอันตราย จะถูกงัดมาใช้โดยเตลีสอย่างแน่นอน

แค่คิดว่าต่อจากนี้แมนยูจะมีลูกกลางอากาศไว้เปิดโขกๆ ทั้งจากคาวานี่และแมกไกวร์ที่ "หัวกำลังดี" ในช่วงนี้จะเป็นยังไง แค่คิดก็มันส์มากแล้ว

2.สปีดในการใช้รับมือตัวจี๊ดของTuanzebe

นี่คืออีกอาวุธที่ "เหมือนได้นักเตะใหม่" ยังไงยังงั้นเมื่อตวนเซเบ้ที่ร้างสนามมาเกือบจะเป็นปี กลับมาลงนัดแรกก็เกมสำคัญเจอปารีส แถมเป็นการเจอเอ็มบาปเป้กองหน้าตัวรุกหนึ่งในปีศาจระดับท็อปของวงการฟุตบอลขณะนี้ที่เร็วจี๋ไปรษณีย์จ๋า เร็วจนเดอะแฟลชเรียกพ่องก็ไม่ปาน ยังไม่รวมดิมาเรียและเนย์มาร์ สองปีศาจที่ทุกคนรู้ชื่อชั้นและฝีเท้าดี

แมนยูไนเต็ดก่อนหน้านี้กองหลังของเราสองตัวหลักอย่าง ลินเดอเลิฟ แมกไกวร์ มักมีปัญหาในการเจอตัวรุกความเร็วสูง และการดวล1 on 1 เป็นอย่างมาก ซึ่งคนที่จะทำจุดนี้ได้มีเพียงเอริค ไบญี่เท่านั้น

แต่ก็อย่างที่เห็น ไบญี่เจ็บมาจากทีมชาติอีกแล้ว ไม่รู้จะเปราะอะไรขนาดนั้น ผลเสียจึงเกิดกับแมนยูเต็มๆ

เหมือนสวรรค์จะเป็นใจ แอ็กเซล ตวนเซเบ้ที่ฟิตเต็ม100%มากๆ ได้กลับมานัดนี้พอดี เขาจึงถูกใช้งานในตำแหน่งเซ็นเตอร์ด้านข้างในจุด RCB ซึ่งตัวด้านข้างแบบนี้เป็นตำแหน่งที่กองหลังจะสามารถออกจากposition และเข้าแทคเกิล + วิ่งไล่ตามคู่แข่งได้อย่างอิสระเพราะว่ามีสวีปเปอร์ด้านหลังอย่างลินเดอเลิฟ คอยรักษาตำแหน่งให้อยู่แล้ว

ตวนเซเบ้จึงเหมือนติดปีกในวันนี้

หลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่านี่เป็นนักเตะกองหลังอีกคนที่มีความเร็วมากๆเนื่องจากยังสดอยู่และหน่วยก้านดีจัดๆ ในยามที่ทุกคนอยากได้ตัวอูปาเมกาโน่ หรือคูลิบาลี่ มาเติมแผงหลังให้แข็งแกร่งและเร็วจี๋เพื่อรับมือตัวรุกยุคนี้ที่เน้นความเร็วในหลายๆทีม แต่หารู้ไม่ว่า ในsquadของยูไนเต็ด เรายังมีกองหลังสายสปีดเช่นนี้นอกจากไบญี่อีกหนึ่งคน

ตวนเซเบ้และแฟนบอลรายหนึ่งของเขา

การกลับมาครั้งนี้ของตวนเซเบ้เรียกว่า "แจ้งเกิด" ได้แบบเต็มๆเลย เพราะการ "เก็บเอ็มบาปเป้" โชว์ให้ชาวโลกและแฟนผีได้เห็น มันเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซแล้ว

เหมือนได้อาวุธใหม่ ทั้งๆที่เป็นนักเตะเก่าจริงๆตัวนี้ อยากให้ลงก่อนลินเดอเลิฟแล้วยืนคู่แมกไกวร์ซะด้วยซ้ำ

3. The Real "4-4-2 Diamond" ของ OGS

นี่คือแผนที่เราลุ้นกันมานานตั้งแต่การมาของDonny van de Beek แต่จนแล้วจนรอดโอเล่ก็ยังไม่ใช้แบบเต็มๆสักที รอลุ้นมานานมากๆ นัดก่อนก็ไม่ชัดเจน แต่ครั้งนี้วันนี้แหละ แสดงให้เห็นแล้วว่าโอเล่และทีมงาน รู้ดีว่าเราสามารถเล่นแบบไดมอนด์ได้ เพราะว่าเรามีกองกลางดีๆเต็มทีมไปหมด รวมถึงไม่มีปีกขวาใช้งาน ดังนั้นการปรับสูตรมาเล่นกลาง4ตัวแพ็คตรงกลางแบบเหลี่ยมเพชร ถือเป็นของดีที่ควรเอามาใช้ให้คุ้ม เนื่องจากกองกลางเราดีๆเยอะมาก

และวันนี้ มันมาแล้ว มาในตอนที่ไม่ได้ใช้VDBลงทำงานซะด้วย

กล่าวคือในครึ่งหลัง ทูเคิลปรับแผนเล่นงานแมนยูมากขึ้นจากการที่ครึ่งแรกโดนนำเพราะจุดโทษของพี่หนวด ทูเคิลปรับเติมมอยเซ่ คีน ลงมาแทนอิดริสซ่า กาน่า เกย์ เพื่อยืนกองหน้าคู่ และใช้ตัวรุกสองคนอย่างดิมาเรีย เนย์มาร์สร้างสรรค์เกมจากด้านหลังกองหน้า ไม่ว่าตรงกลางหรือริมเส้นในสูตร 4-4-2 Winger

แต่เมื่อเห็นเกมเริ่มโดนบุกใส่หนักมากๆ และเดเคอางานชุกขึ้นเรื่อยๆ โอเล่แก้เกมเร็ว และนำเอาแผนไดมอนด์งัดมาใช้แบบจริงๆจังๆเป็นหนแรก ด้วยการถอดวิงแบ็คซ้ายออก ปรับหลังสามเหลือแผงแบ็คโฟร์ แล้วกลางใช้เป็น แม็ค เฟร็ด ป็อกบา บรูโน่ ยืนเป็นไดมอนด์ โดยให้มิดฟิลด์ทั้ง4ประจำการ4มุมตามเหลี่ยมเพชร อันได้แก่

แม็คโทมิเนย์ : เหลี่ยมล่าง

ป็อกบา : เหลี่ยมซ้าย

เฟร็ด : เหลี่ยมขวา

บรูโน่ : เหลี่ยมยอดเพชร

ยืนแบบนี้เป็นหลักจริงๆในการเซ็ตpositionตามปกติ แต่ก็มีการขยับการยืนปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ โดยในเวลาที่เจอบุกขึ้นมาในแดน พวกเขาจะลงไปเซ็ต 4-3-1-2 ในครึ่งหลังตอนป็อกบาลงมา โดยใช้แม็คเฟร็ดป็อก ยืนสกรีนงานให้กองหลังกันสามตัวรอด ป็อกบาก็มีสกัดบอลให้เห็นและลงต่ำมาช่วยเกมรับชัดเจน อันนี้ดีมากเพราะปกติแกไม่ค่อยทำแบบนี้(ฮา)

กล่าวคือ ในเกมรับ เหลี่ยมล่างๆของเพชรยกเว้นเหลี่ยมบน(บรูโน่) จะลงไปแพ็คเกมรับหน้ากองหลังชัดเจน

อยากใส่เสื้อลายขาวดำก็บอกสิ แหม ฟอร์มดีเชียว

ส่วนในยามบุก ไดมอนด์ตรงนี้จะขยับตำแหน่งขึ้นไปอย่างอิสระจนเป็น 4-2-2-2 ซึ่งจริงๆมันก็คือเป็นไดมอนด์นั่นแหละ แต่ว่าจะเป็นAsymmetric Diamond รูปทรงมันจะไม่สมมาตร(ล่าง ซ้าย ขวา บน) แต่จะปรับตามตัวนักเตะที่ลงมาในแผน โดยที่ป็อกบาในเหลี่ยมซ้าย เกมรุกจะดันขึ้นสูงมากไปอยู่เท่าบรูโน่กันสองคนเลย ส่วนด้านหลัง แม็คยืนต่ำสุดเกือบจะเท่า2CB เล่นฮาล์ฟแบ็คคุมหลังสุดของแดนกลาง ส่วนเฟร็ด ยืนสูงกว่าแม็คในตำแหน่งBox to Box คุมกลาง แล้วปลดปล่อยอิสระให้ป็อกบรูโน่เติมเกมรุก จนสุดท้ายทำให้แรชฟอร์ดได้รับบอลต่อจากป็อก แล้วยิงประตูสำเร็จนั่นเอง

ผนนี้ถือว่าเป็น "อาวุธใหม่" ของโอเล่ในปีนี้ที่ทำการ launch อย่างเป็นทางการในเกมเอาชนะปารีสวันนี้นั่นเอง

และเชื่อว่าหลังจากนี้เขาน่าจะปรับใช้อีกเรื่อยๆเป็นระยะๆเพื่อทำการใช้งานในแง่แทคติกของแมนยู จากสูตรปกติ 4-2-3-1 ที่ไว้ใช้ครองเกมบุกใส่ทีมที่อ่อนชั้นกว่า และ 3-4-1-2 ที่ไว้เจอทีมที่เหนือชั้นและเล่นเกมรุกดี

ต่อจากนี้ 4-4-2 Diamond จะมาเป็นอาวุธใหม่ที่น่าสนใจของโอเล่ไปยาวๆ

4.การใช้Lindelof ในการเล่นSweeper กองหลังตัวสุดท้าย

นี่ดูเหมือนจะเป็นคู่มือการใช้งานที่ดีที่สุดหากเราต้องการจะดึงศักยภาพของวิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ออกมา อย่างที่เราทราบๆกันว่าแกเป็นกองหลังสายถอยที่ไม่ค่อยชอบ และไม่ค่อยมั่นใจในการเข้าแทคเกิล คือสกัดบอลไม่ค่อยขาดเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ทดแทนกันมาก็คือการอ่านเกมที่พอจะมีอยู่ และดักเก็บรองบอลที่หลุดมาได้ดีมากๆ

ดังนั้นเพื่อที่จะให้เข้ากับคำกล่าวที่ว่าใช้คนให้เหมาะสมกับงานอย่างput the right man on the right job นั้น สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลินเดอเลิฟก็คือ การให้เขาเล่นเป็น "กองหลังตัวเก็บงาน" จะดีที่สุด

ไม่ใช่ใช้เขาไปเข้าปะทะโดยตรง


ทั้งเกมเมื่อวานลินเดอเลิฟอ่านบอลที่หลุดผ่านมาถึงแนวรับสุดท้ายได้ดีมากๆ และไม่ก่อความผิดพลาดอะไรเลยนอกจากจังหวะท้ายครึ่งแรกนิดเดียวที่บอลหลุดไปถึงเอ็มบัปเป้ช่วงท้ายๆครึ่ง หลังจากที่เขาโขกสกัดได้สองครั้งติดต่อกัน

ถ้าใช้งานลินเดอเลิฟให้ถูกจุด น่าจะทำให้เขาฟอร์มดี และไม่ก่อความผิดพลาดเกิดขึ้นแน่นอน เราน่าจะเห็นจากนัดนี้เลยว่าเขาเหมาะจะสั่งให้เล่นยังไงบ้าง

5. การใช้VDBเป็นกองหน้าผีสิง และจัดในสูตร 4-2-3-1 Narrow

ถือเป็นอีกอาวุธใหม่ที่ได้มาพร้อมๆกับการมาร่วมทีมของDonny van de Beek นั่นก็คือการใช้เขาเป็นมิดฟิลด์ที่สอดเข้าไปในกรอบเขตโทษแบบShadow Strikerแล้วหาตำแหน่งทำประตู ถือเป็นอีกอาวุธใหม่ที่คู่แข่งรับมือได้ยากแน่ๆเพราะไม่สามารถคาดเดาการอ่านเกมและหาตำแหน่งยามไม่มีบอลของฟานเดอเบคได้เลย

นอกจากอาวุธลับกองหน้าผีสิงอันนี้แล้วนั้น อีกอย่างนึงที่ฟานเดอเบคเข้ามาช่วยเป็นคลังแสงอาวุธให้โอเล่ นั่นก็คือทางเลือกในการใช้แผน4-2-3-1เดิม ให้กลายเป็นของใหม่ ประหนึ่งเหล้าใหม่ในขวดเก่า นั่นก็คือ จากเดิมตัวรุก3ตัวด้านหลังจะเป็น ปีกซ้ายขวา และกลางรุก ที่เล่นอยู่ด้านหลังกองหน้าตัวเป้า

แต่เมื่อมีVDBลงสนาม ในเกมที่ผ่านมากับนิวคาสเซิล แมนยูไนเต็ดใช้3ตัวรุกด้านหลังเป็น "กลางรุก3ตัว"  มาต้า ฟานเดอเบค บรูโน่ ปั้นเกมร่วมกันอยู่ด้านหลังกองหน้าตัวเป้าอย่างแรชฟอร์ด

มันก็เกือบๆจะเป็นแผนเดิมนั่นแหละ 4-2-3-1 แต่ว่าตัวรุก3คน ที่จะเล่นด้านกว้าง ก็จะหุบมาประสานงานร่วมกันตรงกลาง อย่างที่เราได้เห็นจาก "กลุ่มโจรเงามายา" มิดฟิลด์ตัวสอดเป็นกองหน้าเงาอย่างมาต้ากับฟานเดอเบค และเพลย์เมคเกอร์ที่ดันเกมสูงขึ้นมาปั้นเกมร่วมกันและเพิ่มพลังยิงประตูอีกคนนึงอย่างบรูโน่

สูตรนี้เมื่อนำมาใช้งาน มิติเกมริมเส้นจะฝากภาระที่การเติมของแบ็คสองข้างเท่านั้น และภาคการต่อเกมสั้นเจาะทะลวงคู่แข่งจากตรงกลางสนามจะเร็วและแพรวพราวขึ้นสองเท่า จากที่เราได้เห็นประตู 1-2 ในเกมเจอนิวคาสเซิลนั่นแหละ สูตรนี้คืออาวุธใหม่ของโอเล่ที่ปีก่อนยังไม่มีใช้งาน

6. "ระเบิดปรมาณูและอาวุธลับชูริเค็น" Cavani & Pellistri & Diallo

และสุดท้ายนี่คือขีปนาวุธใหม่ของโอเล่ที่ "กำลังรอที่จะใช้งาน" อยู่อีกสองอันเต็มๆ นั่นก็คือกองหน้าบิ๊กอิมแพ็คท์ระดับระเบิดปรมาณู Edinson Cavani และตัวจี๊ดที่รอโอกาสเปิดตัวอย่าง Facundo Pellistri ประหนึ่งชูริเคน(Shuriken) อาวุธดาวกระจายของนินจาที่มีความรวดเร็วและอันตราย

เพราะในบรรดา "ของเล่นใหม่" ของโอเล่ ตอนนี้ที่เปิดตัวไปจริงๆมีแต่Alex Telles คนเดียวเท่านั้นเอง รวมถึงVDBที่เปิดตัวใช้งานไปหลายนัดแล้วตั้งแต่เริ่มซีซั่น แต่ยังมีอีก 3 ใน 5 ที่ซื้อมาใหม่ปีนี้ที่ยังไม่ได้ใช้งาน นั่นก็คือ

Cavani ที่น่าจะลงเกมถัดไปกับเชลซี เพราะหมากกลับมาติดชดใช้โทษแบนนัดที่2

Pellistri ที่เกมเจอปารีสมีชื่อติดทีมชุดสำรองมากับเราด้วย

และ Amad Diallo Traore ที่กำลังจะมาเสริมทัพด้วยราคาค่าตัวราว30ล้านปอนด์จากอตาลันต้าในช่วงมกราคมหน้า

เป็น3สรรพอาวุธที่สไตล์ไม่ซ้ำ และแมนยู "ไม่มี" แนวการเล่นของสามคนนี้ในทีมเลย

คาวานี่จะเป็นกองหน้าอาวุธหนักตัวใหม่ของเรานับตั้งแต่เกมหน้าที่น่าจะได้โอกาสลงสนามแล้ว และทีนี้แหละคู่แข่งจะจับทางแมนยูไนเต็ดยากกว่าเดิม เพราะทีมชุดหลักก็เริ่มกลับมาฟิตเต็มร้อย และท็อปฟอร์มอีกครั้งแล้วหลังจากตบนิวคาสเซิลเละคาบ้าน1-4 และตอกย้ำด้วยการบินไปตบปารีสถึงฝรั่งเศสอีก 1-2 คงไม่ต้องบอกแล้วว่าฟอร์มการเล่นแมนยูตอนนี้เป็นยังไง

ถ้าได้คาวานี่มาลงสนามทดแทนในส่วนที่หมากฟอร์มดรอปไป ไม่อยากจะคิดว่าทีมจะโหดขึ้นขนาดไหน แล้วคิดดูว่าอาวุธใหม่สองคนเมื่อคอมโบกัน จะเกิดมิติเกมรุกสุดโฉดที่เราขาดมาตลอด นั่นก็คือ บอลครอสจากเตลีสมาเข้าหัวคาวานี่

ผมเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น และเกิดขึ้นเร็วๆนี้แน่!!!

รวมกับการที่ไม่มีใครรู้ข้อมูลของ ฟากุนโด้ เปยิสตรี้เลยนั้น บางทีโอเล่อาจจะส่งเขาลงมาสับขาหลอกให้คู่แข่งงงเป็นไก่ตาแตกสักวันนึงก็ได้เมื่อมีโอกาสที่เกมขาดๆ อาจส่งตัวนี้ลงมาประเดิมสนามเลย ดีไม่ดีอาจจะเร็วๆนี้ด้วยซ้ำ นี่ก็เป็นอีกอาวุธลับที่ยังไม่มีใครเห็น และรอการพิสูจน์อยู่พอๆกับเรื่องผีและUFO

แถมด้วยwonderkidของแท้ที่จะมาเป็นพลังทำลายปีกขวาคนใหม่ของทีม จนอาจจะทำให้ทุกคนไม่ต้องโฟกัสไปกับการถวายเงินแพงเกินเหตุเพื่อดึงตัวเจดอน ซานโช่มาในราคา120ล้านยูโรก็ได้ ถ้าอาหมัด ดิยาโล่ มาแล้วเกิดกับทีมในช่วงครึ่งหลังซีซั่นนี้

ทั้งหมดทั้งมวลที่เขียนนี้จะเห็นได้ว่า innovationใหม่ๆจาก Ole Gunnar Solskjaer นั้นมีเยอะมากจริงๆที่เราจะได้เห็นอะไรรูปแบบใหม่ๆจากแมนยูในปีนี้ นอกจากจะลบคำครหาเรื่องแทคติกได้แล้ว แมนยูไนเต็ดยังจะมีอาวุธใหม่ที่ "เลือกใช้" ได้ตามใจชอบขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่แตกต่างกันในแต่ละเกม อย่างมาต้าเองที่ท็อปฟอร์มเกมก่อน มานัดนี้ก็ไม่ได้ลงสนาม เช่นเดียวกันกับมาติชเองที่ว่าคุมเกมดีๆ โอเล่ก็เลือกใช้เขาพอสมควรแล้วแต่แมตช์

ขนาดว่าบอร์ดบริหารเสริมทีมแบบไม่ค่อยดีมาให้โอเล่ แต่ปีนี้ดูเหมือนว่า มิติการเล่นของทีมจะเพิ่มสูงเยอะกว่าเดิมมากเลย ด้วยการที่มี VDBเข้ามาเติมเกมในกรอบเขตโทษ / Telles กับลูกเปิดโค้งสวยๆแม่นๆของเขา / Cavani กับพลังทำลายในแดนหน้า และตัวละครลับเด็กน้อยปีกขวาอีกสองอย่าง Amad & Facundo

แค่นี้ก็แพรวพราวสุดๆแล้ว ซีซั่นนี้จะมีอะไรแปลกใหม่ให้เราได้ดูกันอีกเยอะแยะแน่นอนครับ

-ศาลาผี-


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด