เพราะนี่ก็เปลี่ยนเทรนเนอร์มา 3 คนแล้ว ตั้งแต่ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้,กีเก้ เซเตียน จนมาถึง โรนัลด์ คูมัน ยังไม่มีช่วงเวลาใดที่หัวหอก ‘ตราไก่’ เล่นให้ บาร์ซ่า ได้น่าประทับใจเลย 

กริซมันน์ ให้สัมภาษณ์หลังเกมกับ โครเอเชีย ว่าเทรนเนอร์ (ดิดิเย่ร์ เดส์ชอง) รู้ว่าเขาควรเล่นในตำแหน่งใดจึ งจะเหมาะสมและแสดงฝีเท้ าออกมาได้เต็มประสิทธิภาพมากที่ สุด 

ฟังเผินๆเหมือนข้อแก้ตัว แต่มันก็น่าคิดเหมือนกันนะครับ เพราะดูเหมือนว่ากับทีมชาติฝรั่ งเศส อดีตดาวยิง ‘ตราหมี’ ดูจะมีอิสระในการเล่นมากกว่า ค่อนข้างฟรีในการเคลื่อนที่ 

แต่กับ บาร์เซโลน่า เขาต้องลงเล่นในตำแหน่งกองหน้ าตัวข้าง หรือในช่วงที่ หลุยส์ ซัวเรซ บาดเจ็บ ก็ถูกดันขึ้นไปยืนค้ำเป็นกองหน้ าตัวเป้า ซึ่งไม่มีผลงานที่เด่นชัดอะไร 

ตรงจุดนี้ อาแซน เวนเกอร์ อดีตกุนซืออาร์เซน่อลวิจารณ์ กริซมันน์ ไว้อย่างน่าคิดว่าเพราะเขาถูกจั บไปเล่นผิดตำแหน่ง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความพั งหลายๆอย่างที่ตามมา

ปรมจารย์ลูกหนังวิเคราะห์หั วหอกร่วมชาติว่าเป็นนักเตะที่มี ออกบอลสุดท้ายได้อันตราย ทั้งแม่นทั้งคม ซึ่งตำแหน่งหรือพื้นที่ที่ จะทำเช่นนั้นได้อย่างถนัดถนี่ก็ คือตัวรุกด้านหลังกองหน้าตัวเป้ า 

เวนเกอร์ ร่ายต่อว่า กริซมันน์ ถูกขอให้ขยับออกไปเล่นเป็ นกองหน้าทางด้านข้าง ซึ่งนั่นไม่ใช่ตำแหน่งถนั ดของเขา แต่เขาก็พยายามที่จะทำมันให้ได้ แต่มันไม่สำเร็จ พอนานวันเข้าก็เริ่มท้อ ท้อจนหมดความมั่นใจ จนกลายเป็นอาการฟอร์มตกอย่างที่ เห็น ซึ่งมันแตกต่างจากเวลาที่เขาเล่ นให้กับ เดส์ชอง

“ครั้นจะขยับเข้ามาทำเกมตรงกลาง มันก็จะทับซ้อนกับ ลิโอเนล เมสซี่ ทำให้เขาไม่สามารถเข้ามาเล่ นในพื้นที่ที่ตัวเองถนัดได้” 

ผมเห็นด้วยกับ เวนเกอร์ เลยนะครับ เพราะแม้ภายนอก กริซมันน์ จะดูเป็นนักเตะที่คล่องแคล่ว มีเทคนิคการเล่นที่ดี แต่เทคนิคที่เขามีนั้นไม่ใช่ ในแบบที่ อุสมาน เดมเบเล่ มี หรือที่ อันซู ฟาติ มี 

ผมมองว่า กริซมันน์ ไม่ใช่นักเตะที่ถนัดในการเล่ นแบบสถานการณ์ตัวต่อตัว ซึ่งเป็นคุณสมบัติจำเป็นอย่างยิ่ งสำหรับกองหน้าตัวข้าง หรือปีก 

เขามีความเร็วกจริง แต่ก็ระดับนึงเท่านั้น ไม่ได้ปรู๊ดปร๊าดจัดจ้านอย่าง ฟาติ  อีกทั้งเทคนิคที่เขาใช้ในการเอาชนะคู่ ต่อสู้ส่วนใหญ่เป็นการเล่ นโดยอาศัยทีมเวิร์ค เล่นกับเพื่อนเพื่อสร้ างสถานการณ์ที่ได้เปรียบเหนือตั วประกบ ไม่ใช่ เลี้ยงหลบ โยกหลอกในทุกครั้ง

อย่างที่ เดมเบเล่ ทำจนเป็นธรรมชาติ 

ถามว่า กริซมันน์ ทำได้มั๊ย แบบที่ เดมเบเล่ ทำ เขาทำได้ แต่ก็ได้แค่ระดับนึง หรือบางจังหวะ แต่ไม่ใช่จุดแข็งของเขา พอนานวันเข้า เขาก็หนีธรรมชาติตัวเองไม่พ้น 

ก็เหมือนกับ ฟิลิเป้ กูตินโญ่ ในตอนนี้ คูตี้ ดูเป็นนักเตะที่ชั้นเชิ งแพรวพราว แต่สกิลที่เขามีไม่ใช่สกิลของผู้ เล่นริมเส้น แต่เป็นหมายเลข 10 หรือ หน้าต่ำ 

คูตี้ จึงล้มเหลวไม่เป็นท่ าในรอบแรกเมื่อถูก บัลเบร์เด้ จับโยกไปเล่นทาริมเส้น พอมารอบนี้ คูมัน ให้เขาได้เล่นในตำแหน่ งตรงกลางหลังกองหน้า ผลงานจึงออกมาดีน่าประทับใจ เวลานี้ยิงไป 2 กับ 2 แอสซิสต์ จาก 5 เกมในทุกรายการที่ออกสตาร์ทมา ส่วน กริซมันน์ ลงสานมเป็นตัวจริงใน ลา ลีกา 4 เกม ไม่มีประตู ไม่มีแอสซิสต์ ขณะที่เกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดเปิดสนามถูกดร็อปเป็นสำรองครั้งแรก 

ครับ เห็นสถานการณ์ตรงนี้ของ กริซมันน์ และตัวอย่างที่เคยผ่านมาของ กูตินโญ่ แล้ว ก็ให้นึกถึงประโยคภาษาอังกฤษที่ ว่า ‘Put the right man on the right job’ 

การมอบหมายงานให้ถูกคน ซึ่งในโลกฟุตบอลมันมีเหตุการณ์ เช่น กริซมันน์ เกิดขึ้นอยู่เสมอที่นักเตะไม่ด้เล่นในตำแหน่งที่ถนัดหรือชอบที่สุด แต่กับสถานการณ์ของ กริซมันน์ นั้นมันไม่ง่ายเลย เวลานี้ คูมัน เองก็เหมือนจะยอมรับว่าหัวหอกฝรั่งเศสไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่ดีนัก และจำต้องทำงานหนักเพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ที่เป็นอยู่ 

        มองกันตอนนี้ โอกาสที่ กริซมันน์ จะได้เล่นในตำแหน่งที่ถนัด พื้นที่ที่เขาสามารถสร้างความอันตรายให้กับทีมมากที่สุดก็คงไม่ง่าย ด้วยเพราะมีทั้ง เมสซี่ และ กูตินโญ่ อยู่แล้ว ซึ่งเมื่อยังไม่ได้โอกาส กริซมันน์ ก็มีหน้าที่ "ต้องปรับตัวเองให้ได้"   

ไม่เช่นนั้น สุดท้ายแล้ว เขาก็จะไปหาคนที่ทำได้ดีกว่ ามาแทน เรื่องมันก็มีอยู่เท่านี้ 

เจมส์ ลา ลีกา