:::     :::

(ไม่) ตามแผน

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ก่อนเกมจะเริ่มขึ้นหลายๆ คนคิดว่าเกมนี้ไม่น่าจะเป็นเกมที่ยากเย็นอะไรสำหรับลิเวอร์พูลในการเจอกับมิดทิลลันด์ในบ้านแบบนี้ แต่ก็อย่างที่มีหลายๆ คนเคยกล่าวไว้นั่นแหละครับว่า "ไม่มีเกมง่ายในแชมเปี้ยนลีกส์" อยู่แล้ว



ศาสตร์ฟุตบอลทันกัน


          ถ้าเป็นทีมชุดใหญ่ฟูลทีมมาชนกันตรงๆ แน่นอนล่ะครับว่าเป็นลิเวอร์พูลที่เหนือกว่าแน่นอน แต่ด้วยโปรแกรมที่ชุกเหลือเกินในช่วงนี้ของลิเวอร์พูล ทำให้เจอร์เก้น คล็อปป์ต้องหมุนเวียนนักเตะในทีมบ้างเพื่อรักษาสภาพร่างกายของนักเตะในทีมให้พร้อมที่สุด เกมนี้คล็อปป์จัดการเปลี่ยนตัวผู้เล่นในแดนกลางและแดนรุกแทบจะทั้งหมดเลย โอริกี้ , ชากิรี่ , โชต้า , มินามิโนะ , มิลเนอร์ ได้รับโอกาสในเกมนี้แทนพวกตัวจริงที่คุ้นตา มีเพียงแค่กองหลังเท่านั้นที่ยังเป็นชุดเดิม แต่นั่นก็อาจจะเป็นเพราะว่าไม่มีตัวเลือกแล้วก็ได้ ซึ่งตรงจุดนี้แหละครับทำให้ระดับของทั้งสองทีมถูกย่นระยะลงมาให้ใกล้กันมากขึ้น และไม่ว่าจะยังไงมิดทิลลันด์ ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นแชมป์ของเดนมาร์กอยู่ดีนั่นแหละครับ นั่นหมายถึงว่าพวกเขาเองก็มีดีพอสมควรเช่นกัน และยิ่งกว่านั้นพวกเขาได้รับฉายา “มันนี บอล” เช่นเดียวกันกับลิเวอร์พูลนี่แหละครับ นั่นหมายถึงว่าทั้งสองทีมใช้หลักการทำทีมแนวๆ เดียวกัน คือ ใช้หลักสถิติในการสร้างทีม แผนและแท็กติกอะไรก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมาก และด้วยเทคโนโลยีต่างๆ นั่นยิ่งทำให้ทุกทีมสู้กันได้อย่างสูสีกันมากขึ้นกว่าเดิมไปอีกขั้นนึงครับ นั่นจึงทำให้เกมนี้มิดทิลลันด์นั้นสู้กับลิเวอร์พูลได้อย่างสูสีจริงๆ 




สำรองยังน่าห่วง


          ตรงนี้เป็นปัญหาใหญ่ๆ ของลิเวอร์พูลมานานมากจริงๆ ครับ ตรงที่ผู้เล่นชุดสองยังไม่สามารถทดแทนผู้เล่นตัวจริงได้อย่างเนียนสนิท โดยเฉพาะผู้เล่นในแดนหน้า ที่ศักยภาพค่อนข้างต่างกันอย่างชัดเจนจริงๆ 3 ผู้เล่นที่ลงมาแทน 3 ประสานตัวจริงนั้นยังไม่สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างที่แฟนๆ ต้องการ การประสานงาน การต่อบอล การจบสกอร์ การคุกคามแนวรับฝั่งตรงข้าม ยังห่างไกลจากตัวจริงอยู่ช่วงตัวนึงเลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้นก็นับว่ามีการพัฒนาอยู่บ้างเหมือนกันครับ คือ ตอนนี้เหมือนกับว่าเจอร์เก้น คล็อปป์ส่งตัวจริงใน 3 ประสานลงมาเพียงแค่ 1 ตำแหน่ง เกมรุกของลิเวอร์พูลก็ยกระดับขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเลย หรือพูดง่ายๆ คือ แค่หาตัวมาประคองแค่ 1 ตัวแนวรุกก็ยังพอจะฝากผีฝากไข้ไว้ได้ครับ โดยเฉพาะ ดีโอโก้  โชต้า ที่ดูจะโดดเด่นกว่าใครเขาเพื่อนในหมู่ตัวสำรองด้วยกัน และเกมนี้เจ้าตัวก็ยังทำประตูให้กับทีมและตัวเองได้ด้วย และตามสถิติแล้วนี่เป็นประตูที่ 10,000 ของสโมสรพอดิบพอดี นั่นทำให้เขาจะได้ถูกจารึกเป็น 1 ในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสรแน่นอนครับ อีกคนที่พอจะทำผลงานได้ดี คือ เซอร์ดาน ชากิรี่ ครับ ด้วยเซนส์บอล  เทคนิค และประสบการณ์ของเขาทำให้เขาเอาตัวรอดกับเกมแบบนี้ได้อย่างสบายๆ และหลายๆ ครั้งก็จ่ายบอลสวยๆ ให้เพื่อนได้ลุ้นประตูได้ตลอดทั้งเกม  ส่วนคนที่ยังน่าเป็นห่วงเลย ก็เป็น โอริกี้ กับ มินามิโนะนี่แหละครับ ทางด้านโอริกี้ยังไม่ค่อยอะไรมาก เพราะถ้ากล่าวกันตามจริง โอกาสของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้ น่าจะลดน้อยถอยลงมากแล้วหลังจากการเข้ามาของดิโอโก้ โชต้า แต่เจ้าทาคิคุงนี่แหละครับ ที่น่าเป็นห่วงหนักกว่าใครเขาเพื่อน เจ้าตัวนั้นดูจะปรับตัวเข้ากับทีมช้ามากจริงๆ ยิ่งถ้าเทียบกับโชต้านั้น ใครที่ไม่ใช่แฟนลิเวอร์พูลอาจจะสับสนก็ได้ว่าใครกันแน่ที่อยู่กับทีมมานานกว่ากัน มินามิโนะยังต้องชี้นิ้วขอบอลเพื่อน  วิ่งทับตำแหน่งกับเพื่อน ทำบอลเสียค่อนข้างบ่อย และแรงปะทะของเจ้าตัวก็ดูจะไม่ดีขึ้นเอาเสียเลย กับความคาดหวังของคล็อปป์และแฟนๆ ที่หวังว่าจะให้เจ้าตัวมาสลับสับเปลี่ยนแทนฟิร์มีโน่ด้วยนั้น เขายังห่างไกลจากความคาดหวังค่อนข้างเยอะเลยล่ะครับ



เรื่องดีและเรื่องแย่


          จริงๆ แล้วการหมุนเวียนนักเตะในเกมนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้อย่างง่ายๆ เลยนะครับ ถ้าจะหาเกมที่อยากจะพักตัวอยู่เล่นและสลับให้ทีมสำรองลงมาเล่นได้บ้าง ก็มีแค่เกมแบบนี้แหละครับ แต่แม้ว่าคล็อปป์จะพยายามรักษาสภาพของผู้เล่นไว้และใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่เรื่องที่คาดไม่ถึงก็มักจะเกิดขึ้นให้เราเห็นเสมอนั่นแหละครับ เกมนี้ฟาบินโญ่ได้รับบาดเจ็บจนได้ จากการที่กล้ามเนื้อกระตุกในจังหวะสปริ๊นท์ไปไล่บอล ทำให้เจ้าตัวเล่นไม่ไหวต้องเปลี่ยนตัวให้เจ้าหนู รีส วิลเลี่ยมส์ ลงมาเล่นแทน การบาดเจ็บของฟาบินโญ่ในครั้งนี้ทำให้ลิเวอร์พูลเหลือเซ็นเตอร์ฮาร์ฟที่มีประสบการณ์แค่ โจ โกเมสคนเดียวเท่านั้นเองนะครับที่สมบูรณ์กว่าใครเขาเพื่อน  ต้องบอกว่าสถานการณ์ในแนวรับของลิเวอร์พูลนั้นน่าเป็นห่วงจริงๆ แต่เรื่องดีๆ ก็มีครับ นั่นคือนี่ทีมสามารถเก็บ 3 คะแนนได้ตามเป้าสำเร็จ และทำให้สถานการณ์ของทีมในรอบแบ่งกลุ่มนี้ค่อนข้างสดใสขึ้นมาทันทีเลยล่ะครับ ยิ่งอีกคู่จบลงด้วยผลเสมอแบบนี้ทำให้ลิเวอร์พูลนั้นค่อนข้างลอยตัวเลยทีเดียว และยังสามารถรักษาสภาพความฟิตของผู้เล่นไว้ได้ตามเป้าอีกด้วย ก็นับว่าทำได้ตามเป้าหมายที่คล็อปป์วางไว้นั่นแหละครับ ถ้าไม่มีอาการบาดเจ็บของฟาบินโญ่มาน่าให้วิตกจะนับว่าเป็นไปตามแผน 100% เลยทีเดียว


          หวังว่าสถานการณ์ในแนวรับของลิเวอร์พูลจะดีขึ้นได้นะครับ อย่างน้อยๆ ก็ขอให้ประคองตัวให้ถึงตลาดหน้าหนาวให้ได้ก่อน แล้วถึงตอนนั้นคล็อปป์อาจจะต้องตัดสินใจครั้งใหญ่อีกรอบครับว่าควรจะเสริมตำแหน่งนี้เข้ามาสู่ทีมไหม ตอนนี้ก็ลุ้นกันไปเป็นนัดๆ ล่ะครับ


   




ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด