“มันทำตามที่ตัวเองต้องการ, เฮ้ น้องชาย อย่าเล่นกับมัน ให้ตายเถอะ มันเล่นเหมือนอยู่คนละฝั่งกับเรา” คำพูดของ คาริม เบนเซม่า ที่พูดกับ แฟร์กลองด์ เมนดี้ ในช่วงระหว่างพักครึ่ง ถูก Telefoot สื่อฝรั่งเศสนำออกมาเปิดเผย จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว ทั้งในเรื่องของความเหมาะสม การไม่ให้เกียรติเพื่อนร่วมทีม รวมถึงทัศนคติที่เลวร้าย 

ทางสื่อบราซิลบ้านเกิดของ วินิซิอุส เดือดดาลเป็นอย่างมาก แฟนบอลแซมบ้าเข้ามาแสดงความคิดเห็นถล่ม เบนเซม่า จนเละเทะ เช่นเดียวกับที่เมืองไทย , แฟนมาดริดในไทย (หรือบางท่านก็อาจไม่ใช่) แต่เกือบทั้งหมดด่า เบนเซม่า กันแบบจัดหนักเช่นกัน แถมบางคนลากเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือจบไปแล้วเช่นคดีความกับ มาติเยอ วัลบูเอน่า มาผสมด้วย 

แน่นอนว่าสิ่งที่ เบนเซม่า ทำ สามารถส่งผลเสียต่อบรรยากาศในทีมได้เลย เพราะขึ้นชื่อว่าฟุตบอลนั้น สปิริตสำคัญมาก และว่ากันตามหลักในแง่ความรู้สึก วินิซิอุส ไม่น่าจะรู้สึกดีเท่าไหร่ที่โดนตำหนิว่าเป็นจุดอ่อนของทีม เป็นจุดแข็งของฝั่งตรงข้าม แต่ที่ดูแย่ในสายตาของคนนอกจนกลายเป็นดราม่านั่นก็คือการพูดลับหลังของ เบนเซม่า  

ระหว่างเกม ดาวรุ่งบราซิเลี่ยนทำผิดพลาดหลายครั้ง โดยเฉพาะการตัดสินใจในพื้นที่สุดท้ายซึ่งมันทำให้ เบนเซม่า รู้สึกหงุดหงิด

กระนั้นก็ตาม โดยส่วนตัว ผมมองว่าเจตนาของ เบนเซม่า คงไม่ได้ต้องการที่จะฆ่า วินิซิอุส ให้ตายไปจากทีม ลึกลงไปแล้วเขาเป็นหนึ่งในแข้งรุ่นใหญ่ที่มักชอบให้คำปรึกษากับนักเตะดาวรุ่ง ซึ่งก็รวมถึง วินิซิอุส ด้วยในหลายๆครั้ง 

ตัว วินิซิอุส เอง ตามข่าวก็ว่านับถือหัวหอกฝรั่งเศสเป็นเหมือนอาจารย์คนนึง ซึ่งเขาเคยเล่าถึงเหตุการณ์นึงในเกม เอล เดร์บี้ มาดริเลนโญ่ กับ แอตเลติโก ว่า “พวกเราเล่นด้วยกันตลอด เขาจะบอกว่าให้ผมผ่อนคลายและมีสมาธิ” 

“ผมจำได้ในเกม เดร์บี้ กับ แอตเลติโก มีจังหวะนึงที่ผมเสียบอลซึ่งสุดท้ายมันกลายเป็นประตู เขาบอกให้ผมเปลี่ยนตำแหน่งกับเขาสัก 3-4 นาที , ซึ่งตรงนั้นผมได้เล่นกับบอลน้อยลงอยู่ช่วงนึง จากนั้นผมก็เริ่มมีความมั่นใจในการเล่นกลับมาอีกครั้งนึง , มัน (คำแนะนำของ เบนเซม่า) ได้ผลดีทีเดียว”

ส่วนในเกมกับ กลัคบัค นั้น เชื่อว่า เบนเซม่า ก็แค่ต้องการให้ทีมทำผลงานให้ดีขึ้น เพราะนี่เป็นเกมสำคัญที่ต้องคว้า 3 แต้มให้ได้ อะไรก็ตามที่ขัดขวางไม่ให้บรรลุสู่เป้าหมายต้องถูกแก้ไข เช่นเขาไม่ต้องการให้ทีมเสียบอลในพื้นที่สุดท้าย หรือจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์เกมเพื่อลุ้นยิงประตู ซึ่งร้ายหน่อยที่พื้นที่ตรงนั้นเป็นของ วินิซิอุส

เชื่อว่างานนี้ ซีดาน คงปล่อยผ่านไม่ได้ ในฐานะเทรนเนอร์เขาจะต้องรีบเคลียร์ประเด็นคาใจนี้เพื่อให้ทุกคนเข้าใจกัน กระนั้นจากการผ่านร้อนผ่านหนาวมามากของกุนซือฝรั่งเศสก็พอจะมองออกนั่นแหละว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร 

ที่ผ่านๆมาความขัดแย้งระหว่างนักเตะรุ่นใหญ่กับดาวรุ่งเกิดขึ้นอยู่เสมอๆ เช่นกรณีของ ราอูล กอนซาเลซ กับนักเตะเยาวชนของ เรอัล มาดริด,เซร์คิโอ รามอส กับ เซร์คิโอ เรกีลอน,ลิโอเนล เมสซี่ กับ ริกิ ปุช หรือ เฟร์ราน ตอร์เรส กับ ดาเนี่ยล ปาเรโฆ

        มุมมองส่วนตัว ผมคิดว่าอีกหนึ่งสิ่งที่เจ็บปวดในเรื่องนี้ นอกจากการพูดลับหลังแล้ว ก็คือสิ่งที่ เบนเซม่า พูด "มันเป็นความจริง"  

เราเห็นกันชัดเจนว่า วินิซิอุส มักมีปัญหาตรงจุดนี้อยู่เสมอ การเล่นของเขาในหลายๆครั้ง ไม่ใช่การเล่นเพื่อทีม มันเป็นการเล่นที่ออกจะเอาแต่ใจ ซึ่งมันส่งผลเสียต่อทีม นั่นจึงเป็นที่มาของอาการหงุดหงิดระหว่างพักครึ่งของ เบนเซม่า 

ผมคิดว่าสิ่งที่เจ้าหนู ‘วินิ’ ต้องทำ ไม่ใช่การตอบโต้คำพูดของ เบนเซม่า ไม่ใช่การทะเลาะเบาะแว้ง หากแต่เขาควรจะหันกลับมามองตัวเอง ปรับปรุงการเล่นให้ดีขึ้น พยายามพัฒนาในสิ่งที่ถูกตำหนิ 

วินิซิอุส มีครบทุกอย่างทั้งพรสวรรค์ ทักษะความสามารถ แต่เขาก็เหมือนผู้เล่นตัวรุกบราซิเลี่ยนหลายๆคนที่พยายามโชว์ทักษะนี้เกินพอดีจนหลงลืมแก่นแท้ของฟุตบอลนั่นคือการเล่นเพื่อทีมไป 

วินิซอุส ต้องใช้คำพูดของ เบนเซม่า มาเป็นแรงผลักดันให้ตัวเองลบจุดด้อยให้ได้ ซึ่งจะทำให้เขายิ่งก้าวไปข้างหน้าได้เร็วกว่าเดิม 

หากเอาแต่มองในแง่ร้าย คิดลบก็คงไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด คำตอบโต้ที่ดีที่สุดคือทำในสนามให้ เบนเซม่า เห็นว่าเขาเป็นนักเตะที่ดีที่คู่ควรที่เพื่อนร่วมทีมจะไว้ใจส่งบอลให้ 

        วินิซิอุส จะต้องเติบโตขึ้น ซึ่งระหว่างทางเขาจะต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายกว่านี้เสียอีก หากแค่นี้ยังผ่านไปไม่ได้ ก็คงยากที่จะประสบความสำเร็จในระดับสูง

         และเมื่อก้าวข้ามได้แล้ว ผมเชื่อเหลือเกินว่าคำพูดนี้ของ เบนเซม่า จะกลายเป็นแค่เหตุการณ์เล็กๆที่เขาหันกลับมาหัวเราะกับมันในทุกครั้งที่นึกถึง และเขาจะรู้ว่าเมื่อถึงวันที่เขาก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำของทีม เขาควรจัดการปัญหานี้ด้วยการพูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่ลับหลัง

หากแต่ในอีกมุมนึงที่ วินิซิอุส ไม่ควรลืมคำพูดของ เบนเซม่า จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็คือการตระหนักว่า ความขัดแย้งเกิดขึ้นได้เสมอในทุกสังคม ยิ่งเป็นการทำงาน ยิ่งเกิดขึ้นได้ง่าย ซึ่งใครก็ตามที่เห็นด้วยทุกอย่างกับความคิดของคุณ....คนนั้นล่ะที่คุณต้องระวังมากที่สุด

เจมส์ ลา ลีกา