:::     :::

เจาะจุดแข็ง-จุดอ่อนของอตาลันต้า ก่อนหงส์แดงลงโม่แข้งคืนนี้

วันอังคารที่ 03 พฤศจิกายน 2563 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
2,107
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ลิเวอร์พูล ยังไม่เคยเจอ อตาลันต้า มาก่อนเลยในฟุตบอลรายการยุโรป ไม่ว่าจะเป็นถ้วยไหนๆ ก็ตาม ดังนั้นเกมที่หงส์แดงต้องยกพลไปเยือนถึงแบร์กาโม่คืนนี้จึงเป็นเกมที่น่าสนใจในทุกแง่มุม

อตาลันต้า คือทีมจากอิตาลี ที่ใช้เวลาวางรากฐานสร้างทีมอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเหมือน ลิเวอร์พูล โดยพวกเขาเริ่มต้นปฏิวัติทีมมาตั้งแต่ปี 2012 ด้วยการจ้าง เมาริซิโอ คอสแทนซี่ ให้มาทำหน้าที่ดูแลระบบเยาวชน ก่อนจะค่อยๆ สร้างเครือข่ายแมวมองเยาวชนจนกว้างไกลชนิดที่แม้แต่ อินเตอร์ หรือ ยูเวนตุส ยังทำงานส่วนนี้ได้ไม่ดีเท่าเลยด้วยซ้ำ

อตาลันต้ามีพันธมิตรร่วมกับสโมสรขนาดเล็กกว่า 80 แห่ง สำหรับการพัฒนานักเตะเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นในอิตาลี, ยุโรปตอนกลาง รวมไปถึงในแอฟริกาอีกด้วย

นอกจากนี้ อตาลันต้า ในช่วงปฏิวัติทีมใหม่ ยังบริหารเงินเก่งมาก พวกเขาดึงงบซื้อนักเตะบางส่วน เจียดเล็กผสมน้อยเอาไปลงทุนในการสร้างสนามซ้อมใหม่อีก 3 แห่ง ลงทุนจ้างนักจิตวิทยาเด็กมาทำงานในศูนย์ฝึกเยาวชน เพราะเขามองว่านอกเหนือจากเรื่องฝีเท้าแล้ว ในเรื่องของสภาพจิตใจก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนานักเตะวัยรุ่นเหล่านี้ไม่แพ้กัน

ยอดทีมจากแบร์กาโม่ทีมนี้ สามารถทำเงินจากการขายนักเตะได้มากกว่า 300 ล้านยูโร อันนี้นับแค่ 3 ปีหลังสุดเท่านั้นนะครับ แถมนักเตะที่ขายได้ ส่วนใหญ่เป็นดาวรุ่งที่ลงสนามให้ทีมไม่ถึง 20 เกมด้วยซ้ำ อาทิ อเลสซานโดร บาสโตนี่ ที่ขายให้ อินเตอร์ ไปถึง 31 ล้านยูโร, เดยัน คูลูเซฟสกี้ ก็ขายให้ ยูเวนตุส ด้วยราคา 35 ล้านยูโร บวกแอดออนอีกเพียบ และที่เจ๋งกว่านั้นก็คือ การปล่อย อาหมัด ตราโอเร่ วัยเพียง 18 ปี ไป แมนเชสเตอร์ ยู​ไนเต็ด​ ด้วยราคา 35 ล้านยูโร ทั้งที่ลงชุดใหญ่ไม่ถึง 10 เกม

ส่วนเงินจากการขายนักเตะ รวมไปถึงเงินรางวัลในการเล่นฟุตบอลยุโรป อตาลันต้า ก็นำเงินส่วนนั้นไปพัฒนาสนามเหย้าจนได้ตามมาตรฐานยูฟ่า และไม่ต้องไปขอยืมสนามของ เอซี มิลาน ลงเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก เหมือนฤดูกาลที่แล้วอีกด้วย


นั่นคือเรื่องนอกสนาม แต่มันคือพื้นฐานชั้นดีที่เราพอจะมองภาพกว้างๆ ออกแล้วนะครับว่าทีมนี้ ไม่ได้เป็นทีมประเภทหวือหวาแค่ชั่วครั้งชั่วคราวแน่นอน

มาว่าที่เรื่องในสนามดูบ้าง แม้ฟอร์มใน 5 นัดหลังสุดจากทุกรายการของ อตาลันต้า จะกระท่อนกระแท่น ชนะ 2 เสมอ 1 และแพ้ไปถึง 2 ก็จริง

ทว่าในเกมยุโรปฤดูกาลนี้พวกเขายังคงน่ากลัวและเป็นทีมที่ห้ามประมาทเลยสักนาที ลงสนามใน แชมเปี้ยนส์ ลีก มา 2 นัด บุกไปถล่ม มิดเทิลลันด์ 4-0 และเปิดบ้านไล่ตามตีเสมอ อาแจ๊กซ์ ทั้งที่โดนนำไปก่อน 0-2

จุดเด่นของพวกเขาคือเกมรุกครับ โดยที่ จาน ปิเอโร่ กัสเปรินี่ โค้ชผมสีดอกเลาของทีมวางรากฐานการเล่นในระบบหลัง 3 มาตั้งแต่เริ่มรับงานวันแรก วิงแบ็คทั้ง 2 ข้างคือจุดที่ ลิเวอร์พูล ต้องปิดตายให้ได้หากต้องการมีแต้มในเกมนี้

โรบิน โกเซ่นส์ กับ ฮานส์ ฮาเตเบอร์ ประสิทธิภาพในการเติมเกมขึ้นลงทางกราบดุดันไม่แพ้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ เทรนท์ อาร์โนลด์ เลย 2 คนนี้มีสถิติรวมกันในฤดูกาลที่แล้วสูงถึง 12 ประตู 11 แอสซิสต์ เป็นคู่วิงแบ็คที่มีส่วนร่วมต่อการได้ประตูของทีมสูงลำดับต้นๆ ของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีที่แล้วอีกด้วย

นอกจากนี้ ตัวปั้นเกมอย่าง อเลฮานโดร โกเมซ ก็ยิ่งต้องจับตามองให้ดี นี่คือนักเตะที่ครั้งนึง ลิเวอร์พูล สนใจอยากได้ตัวมาร่วมทีม โดยสถิติในฤดูกาลนี้ของ โกเมซ ถือว่าท็อปฟอร์มเอาเรื่อง ยิงไปแล้ว 5 แอสซิสต์ 3 จากทุกรายการ เป็นคีย์แมนที่กำหนดทิศทางการเล่นของทีมอย่างแท้จริง

ขณะที่แดนหน้าก็ถือเป็นอีกจุดนึงที่หลายๆ ทีมต้องอิจฉา พวกเขาเล่นโดยส่วนใหญ่ใช้ระบบหน้าคู่สลับกับหน้าเป้าตัวเดียวในบางเกม แต่ อตาลันต้า มีกองหน้าที่คมๆ อยู่ในมือถึง 3 ไว้ให้สลับกันใช้งาน

ดูวาน ซาปาต้า, โจซิป อิลิซิซ และ หลุยส์ มูเรียล คือ 3 มือปืนหลักประจำทีม โดย มูเรียล นั้นถือเป็นตัวสำรองระดับเทพที่เรียกว่าดีที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ยุโรปฤดูกาลที่แล้วเลยก็ว่าได้

มูเรียล ถูกบันทึกจาก ออปต้า ว่าเป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูจากการลงสนามเป็นตัวสำรองได้มากที่สุดใน 1 ฤดูกาล ด้วยจำนวนถึง 11 ประตู โดยเขาลงสนามทั้งหมด 34 นัดในลีก นับเป็นจำนวนนาทีแค่ 1,261 นาที เฉลี่ยแล้วจะยิงได้ 1 ประตูในทุกๆ 70 นาที แถมยังจบอันดับที่ 5 ในตารางดาวซัลโวกัลโช่ และเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมอีกด้วย

มันคือออปชั่นเสริมของ อตาลันต้า ที่ ลิเวอร์พูล จะมองข้ามไปไม่ได้เลย

 

และไม่ได้น่ากลัวแค่ มูเรียล คนเดียว แต่ ดูวาน ซาปาต้า กองหน้าตัวจริงของพวกเขาก็โหดไม่แพ้กัน ลีลาการเล่นของดาวยิงชาวโคลอมเบียรายนี้คล้ายกับ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา มากนะครับ มีทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่ง และจบสกอร์คมกริบ 2 ประตูในเกมล่าสุดกับ อาแจ๊กซ์ คือเครื่องการันตีฝีเท้า จนเริ่มห่วงแทน โจ โกเมซ เหมือนกันว่าจะต้านทานกองหน้าสไตล์นี้อยู่หรือเปล่า ยามเจอแรงปะทะหนักๆ ตลอดทั้งเกม

ถึงเกมรุกจะดุ แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่มีจุดอ่อนเลย ซึ่งเกมรับของ อตาลันต้า คือจุดที่ไม่ได้แกร่งมากนัก ยิ่งทีมต้องขาด มัตเตีย คัลดาร่า ไปอีก ยิ่งมีโอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะโจมตีได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

อตาลันต้า มักแพ้ทางทีมที่เล่นโต้กลับคมๆ ครับ

อย่างในเกมที่โดน นาโปลี ไล่อัด 4-1 รวมไปถึงวันที่แพ้ ซามพ์โดเรีย 3-1 เกิดขึ้นจากการที่พวกเขาเปิดช่องว่างในเกมรับตอนบุก และโดนสวนคมๆ จนแพ้ไปในที่สุด

หาก ลิเวอร์พูล สามารถตัดการลำเลียงบอลจากวิงแบ็คทั้ง 2 ข้างของ อตาลันต้า ได้ นั่นก็เท่ากับว่าหงส์แดงสามารถปิดการขึ้นเกมโดยอัตโนมัติไปในทันที ซึ่งทาง โรเบิร์ตสัน กับ เทรนท์ อาจต้องเน้นเกมรับมากกว่าเดิม อย่าเปิดช่องให้โดนโจมตีทางริมเส้นของตัวเองง่ายๆ เกมรุกปล่อยให้ โม ซาล่าห์, มาเน่ หรือ โชต้า เป็นคนเจาะตรงริมเส้นเอง

แบ็ครับให้ลึกกว่าเดิมเพื่อเปิดช่องว่างในการเล่นโต้กลับ กองหลังอย่าเติมสูงเพราะ ปาปู โกเมซ, มาริโอ ปาซาลิซ เล่นลูกคิลเลอร์พาสดี แถมกองหน้า อตาลันต้า วิ่งเร็วทุกคน แดนกลางหงส์ต้องพยายามเพรสให้สุดเหมือนที่เคยเป็น บีบให้พวกตัวรุกต้องลงมาล้วงบอลเยอะๆ

แล้ว ลิเวอร์พูล จะสามารถกลับออกมาจากแบร์กาโม่ด้วย 3 แต้มงามๆ ได้อย่างแน่นอน



คำค้นหา : Liverpool Atalanta UCL PremierLeague SerieA
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด