3 ประสานแนวใหม่

          ด้วยความเคารพ .... ผมเองเป็นแฟนตัวยงของโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ คนนึงเหมือนกับแฟนๆ หลายๆ คนนั่นแหละครับ แต่บางทีก็ต้องยอมรับความจริงเหมือนกันว่า  ตอนนี้ ฟอร์มของกองหน้าบราซิลคนนี้ ดรอปลงไปอย่างชัดเจน จำนวนประตูของเขาต่ำลงอย่างน่าใจหาย และปล่อยให้หน้าที่ดังกล่าวเป็นของปีกทั้งสองข้างอย่างซาล่าห์ กับ มาเน่ ทำหน้าที่ตรงนี้ไป อาจจะด้วยการปรับหน้าที่ของคล็อปป์กับเขาจนทำให้สัญชาติญาณและความกระหายในการทำประตูของเขาค่อยๆ ลดลงๆ จนกลายเป็นความเคยชิน และบางครั้งทำให้เราคิดกันไปว่า เขาทำหน้าที่แค่เปิดทางและเชื่อมเกมแบบนี้ให้กับกองหน้าและกองกลางแบบที่ทำอยู่นั้นมันคือ “สิ่งที่ดีที่สุดแล้ว !!!” แต่การเข้ามาของดีโอโก้ โชต้า และฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงของเขา ก็ทำให้คล็อปป์นั้นเกิดไอเดียและกล้าลองอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ กับ 3 ประสานของทีมได้บ้าง กับเกมที่พอจะมีโอกาสแก้ตัวได้อย่างรอบแบ่งกลุ่มแบบนี้ คล็อปป์ก็ใช้โอกาสนี้ทดลอง 3 ประสานแบบใหม่เสียเลย และต้องยอมรับว่ามันออกมา “เวิร์ก” มากๆ แบบไม่น่าเชื่อจริงๆ ครับ

          จริงอยู่ ที่ว่า 3 ประสานของลิเวอร์พูลนั้นแทบจะเป็นตำแหน่งที่ “แตะต้องไม่ได้” มาหลายต่อหลายปี แต่กระนั้นถ้าเราลองมองย้อนไป ก็ต้องยอมรับว่า ช่วงที่ดีที่สุดของ 3 ประสานนั้นเกิดขึ้นเมื่อตอนช่วงแรกๆ ที่ 3 คนนี้ประสานงานกันมากกว่าในช่วงหลังๆ คือ พูดง่ายๆ ว่า ตอนนั้นลิเวอร์พูลอันตรายกว่าตอนนี้นั่นแหละครับ เพราะว่า ทั้ง 3 กองหน้าของลิเวอร์พูลนั้นอันตรายสุดๆ ทุกคนและสามารถยิงประตูได้อย่างยอดเยี่ยมทุกคนจริงๆ แต่เมื่อฟีร์มีโน่ฟอร์มดรอปลงไปแบบนี้ ความอันตรายก็เลยลดลงไปค่อนข้างเยอะครับ การมาของโชต้านั้น ทำให้ 3 ประสานแนวรุกของลิเวอร์พูลกลับไปสู่ความอันตราย ณ จุดเดิมๆ อีกครั้งหนึ่ง แนวรุกทั้งหมดมีความเร็ว ทักษะการเอาตัวรอด และการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยมในทุกพื้นที่ในแดนหน้า  เกมนี้แนวรุกของลิเวอร์พูลทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ ครับ โดยเฉพาะผู้มาใหม่อย่างโชต้า ที่แสดงให้เห็นว่า 45 ล้านปอนด์ที่ลิเวอร์พูลเสียให้เขาไปนั้นเป็นแค่เศษเงินไปเลยเมื่อเทียบกับผลงานที่เขาตอบแทนกับทีมในเวลานี้ การมีโชต้าในแนวรุกทำให้การผ่านบอลแบบทะลุช่องของลิเวอร์พูลมีอันตรายขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า อย่างที่เขาทำให้เห็นในเกมนี้ในจังหวะการทำประตูของเขา แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนเก่าหน้าเดิม อย่างฟีร์มีโน่ จะต้องนั่งสำรองหรือต้องขายทิ้งออกไปแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าต่อไปนี้เกมรุกของลิเวอร์พูลจะน่ากลัวขึ้นและจับทางยากขึ้นไปอีกระดับ และคู่ต่อสู้ก็จะหาทางรับมือแนวรุกของลิเวอร์พูลได้ยากขึ้นอีกขั้นนึง เพราะไม่รู้ว่าคล็อปป์นั้นจะเลือกใช้ 3 ประสานแบบไหนนั่นเอง

ระบบทีมพยุงแนวรับ

          อย่างที่กล่าวไปข้างต้นครับ ว่าเกมรุกของอตาลันต้านั้นไม่ใช่ธรรมดา พวกเขาคือทีมที่ยิงไป 116 รวมทุกถ้วยเมื่อปีที่แล้ว ตัวเลขดังกล่าวเป็นข้อพิสูจน์ชั้นดีว่าเกมรุกของพวกเขาจัดจ้านขนาดไหน และลิเวอร์พูลต้องใช้เซนเตอร์ฮาร์ฟวัยละอ่อนอย่าง รีส วิลเลียมส์ ยืนคู่กับ โจ โกเมส แบบนี้จะต้านทานไหวเหรอ ??? ตรงนี้ต้องชมทั้งผู้เล่นและโค้ชของลิเวอร์พูลจริงๆ ล่ะครับ ที่พวกเขาช่วยกันปิดช่องโหว่ใหญ่จากการขาดหายไปของฟาน ไดค์ด้วยการ “ช่วยกัน” เล่นเกมรับอย่างเป็นระแบบและมีสมาธิกันทั้งทีม คล็อปป์ใช้กองกลางเป็น เฮนโด้ - จีนี่ ไวนัลดุ้ม - โจนส์ แบบนี้มา 2 เกมติดแล้วนะครับ ซึ่งมันมีความหมายมากๆ ตรงที่ทั้ง 3 คนนี้เป็นนักเตะที่ขยันและทำงานหนักให้กับทีมทั้ง 3 คนเลย พวกเขาวิ่งแบบไม่มีหมดช่วยทีมในเกมรับและเกมรุกอยู่คลอดเวลา มันอาจจะไม่ถูกใจแฟนบอลที่ชอบแนวรุกเป็นทุนเดิม ที่น่าจะถูกใจมากกว่าถ้าให้นักเตะเกมรุกอย่าง ขากิรี่ ลงเล่นเป็นตัวจริง แต่การที่ลิเวอร์พูลนั้นเล่นเกมรับได้ดีขึ้นและเสียประตูน้อยลงในช่วงหลังๆ นี้ เชื่อเถอะครับ ว่ากองกลางของทีมนั้นช่วยทีมในส่วนนี้อย่างมากมาย มหาศาลจริงๆ ส่วนนักเตะในแนวรับเอง ก็ยกระดับเกมรับของตัวเองขึ้นมาได้อย่างดีเยี่ยม โจ โกเมส นั่นอาจจะยังไม่เนี๊ยบ 100% แต่เขาเองก็แสดงให้เป็นว่า เขานั้นพอจะเป็นผู้นำในเกมรับยามที่ทีมต้องการได้เหมือนกัน โรเบิร์ดสันนั้นมาตาฐานเกมรับสูงอยู่แล้ว เกมนี้ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย เทรนด์ อาโนลด์นั้นก็มีสมาธิกับเกมรับมากขึ้น และเจ้าหนูรีส วิลเลียมส์ นั้นก็ใช้สรีระของร่างกายที่สูงใหญ่และมีความนิ่งมากพอที่จะมายืนแนวรับในเกมใหญ่ๆ แบบนี้ นี่คือผลงานชิ้นโบว์แดงอีก 1 ชิ้นที่ลิเวอร์พูลแสดงออกมาในเกมนี้เช่นกันครับ

          ชัยชนะต่ออตาลันต้า แบบถล่มทลายครั้งนี้มีแต่เรื่องดีๆ ครับ และน่าจะเป็นการการันตีการเข้ารอบของลิเวอร์พูลไปแทบจะ 100% แล้ว (ลิเวอร์พูลคงจะไม่แพ้รวดใน 3 เกมที่เหลือหรอกเนอะ ฮ่า...)  ซึ่งชัยชนะสวยหรูแบบนี้น่าจะเป็นการเสริมสร้างกำลังใจอันดีในการไปบุกถิ่นแมนฯ ซิตี้ในเกมพรีเมียร์ลีก สุดสัปดาห์นี้ล่ะครับ ซึ่งเกมที่ว่านั้นจะเป็นการพิสูจน์ทีมของลิเวอร์พูลครั้งใหญ่อีกครั้ง แต่ตอนนี้ ยิ้มรอกันไปก่อนกับชัยชนะครั้งนี้กันเถอะครับ YNWA ครับทุกคน