อาร์เซน่อล แพ้เป็นนัดที่ 4 จาก 8 นัดในลีกฤดูกาลนี้ และเป็นการแพ้คาบ้าน 2 นัดติดแบบที่ยิงประตูไม่ได้ด้วย อันดับในตารางก่อนเบรกทีมชาติจึงแหมะอยู่ที่ 11 อย่างน่าผิดหวัง

นี่คือเกมที่แย่ที่สุดของ มิเกล อาร์เตต้า นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายปีที่แล้ว ทั้งที่หนึ่งในเกมดีสุดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง 

อาร์เซน่อล แพ้อย่างราบคาบ แพ้อย่างไร้ข้อโต้แย้งให้กับทีมที่ดีกว่าอย่าง แอสตัน วิลล่า ที่สื่อต่างประเทศชื่นชมฟอร์มการเล่นว่าเป็น "Vibrant Villa" หรือ วิลล่า ที่ตื่นตัว มีชีวิตชีวา ซึ่งตรงกันข้ามกับปืนใหญ่โดยสิ้นเชิง 

ปืนใหญ่กลายเป็นปืนแตกละเอียดเพราะอะไร เรามาไล่เรียงกันอีกรอบ 

1. ทีมเวิร์กอ่อนหัดทั้งรุกและรับ 

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดสุดในเกมนี้คือ ทีมเวิร์กในการเล่นของ อาร์เซน่อล มีน้อยมากโดยเฉพาะในจังหวะสำคัญทั้งเกมรุกและเกมรับ ขณะเดียวกัน แอสตัน วิลล่า กลับเป็นฝ่ายที่โชว์ให้เห็นว่าการเล่นเป็นทีมทำอย่างไร

วิลล่า ส่งสัญญาณเตือนตั้งแต่ยังไม่ครบนาทีแรกที่ จอห์น แม็กกินน์ กดเต็มหลังเท้าเสยตาข่ายเข้าไปแล้ว หากวีเออาร์ไม่จับว่า รอสส์ บาร์คลี่ย์ ล้ำหน้าก่อนจะเป็นประตูที่สวยงามและเร็วสุดของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้

แข้งปืนกระจุกอยู่ในเขตโทษ 11 คนแต่ปล่อยให้ วิลล่า ได้ยิง

การป้องกันของ อาร์เซน่อล ทำได้หละหลวมมาก และประกบตัวกันแย่ทั้งที่มีผู้เล่นในเกมรับมากกว่าเกมรุกของ วิลล่า 

การยืนตำแหน่ง การสั่งการกันเอง "รวน" ไปหมด ขาดความเข้าใจซึ่งกันและกันและเปิดช่องจนโดน วิลล่า โจมตีต่อเนื่อง 

2. วิลล่า เหนือกว่า แกร่งกว่า และ "ทรงพลัง" 

แอสตัน วิลล่า เล่นได้ดีตั้งแต่เริ่มเกมจนส่งบอลตุงตาข่ายตั้งแต่นาทีแรกและแม้จะถูกริบคืน แต่สมาธิในการเล่นไม่เสีย พวกเขายังคงเล่นในเกมของตัวเองได้ตลอด 90 นาทีและน่าจะยิงได้มากกว่า 3 ประตูด้วยซ้ำ

ในเกมรุก จอห์น แม็กกินน์, แจ็ค กรีลิช, รอสส์ บาร์คลี่ย์ และ ออลลี่ย์ วัตกิ้นส์ ประสานงานกันได้อย่างเข้าขารู้ใจ ทีมเวิร์กยอดเยียมและมีประสิทธิภาพ 

แต่ละประตูที่ วิลล่า ทำได้ล้วนมาจากการประสานงานกันอย่างรู้ใจและแม่นยำ ใช้จังหวะต่อบอลไม่เปลือง แต่ละคนรู้ว่าต้องวิ่ง ต้องหาพื้นที่อย่างไร ผู้เล่นอย่าง วัตกิ้นส์ กับ บาร์คลี่ย์ ปรับตัวเข้าระบบได้เร็วมากทั้งที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมในฤดูกาลนี้

แจ็ค กรีลิช โดดเด่นมากๆ ในนัดนี้

ตัวอย่างที่เห็นชัดสุดในการเข้าทำของ วิลล่า ที่มีประสิทธิภาพสุดๆ คือประตู 2-0 ที่ ดั๊กลาส ลุยซ์ ตักบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ บาร์คลี่ย์ ตามไปตวัดจังหวะเดียวเข้ากลางถึง วัตกิ้นส์ โหม่งจบสกอร์ จังหวะนี้มีผู้เล่น วิลล่า แค่ 2 คนในเขตโทษ แต่เอาชนะ 7 คนของ อาร์เซน่อล ในเขตโทษได้ 

ส่วนเกมรับก็เล่นได้แข็งแกร่ง และนิ่ง ไม่ลนลานในจังหวะตั้งรับ และสามารถดันเกมสูงช่วยทีมได้แบบไม่กลัวสวนกลับ เล่นเหมือนเป็นเจ้าบ้านเองเลย 

วิลล่า เล่นได้เหมือนวันที่ไล่ถล่ม ลิเวอร์พูล ตรงที่ต่อบอลกันแม่น เสียบอลยาก รู้จุดอ่อนคู่แข่งและเล่นงานในจุดนั้น จบสกอร์เฉียบขาด จังหวะ 50-50 ในการเข้าแย่งบอลก็ทำได้ดีกว่าทั้งเหลี่ยมในการเข้าแย่งและความแข็งแกร่งของร่างกาย

เรียกได้ว่า แอสตัน วิลล่า เล่นได้เหนือกว่าอย่างมาก ทุกจังหวะการเล่นล้วนทรงพลัง และสมควรเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง

3. ปัญหาใต้พรมของ อาร์เซน่อล ถูกเปิดออกมา 

ในวันบุกชนะผีแดงที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อาร์เซน่อล ทำได้ดีในหลายอย่าง แต่ก็มีจุดผิดพลาดซุกซ่อนอยู่พอสมควร ทว่าด้วยการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีจึงไม่สามารถเปิดแผล อาร์เซน่อล ให้กว้างกว่าเดิมได้ 

แต่นัดนี้ แอสตัน วิลล่า อาสาเปิดโปงฉีกภาพลวงตาที่ห่อหุ้ม อาร์เซน่อล จนขาดวิ่นและนำมาประจานต่อสายตาทุกคนว่าปืนใหญ่ยังมีปัญหาอยู่เพียบ 

เกมรับที่เคยทำได้ดี เสียประตูน้อยสุดในลีกเพียง 7 ประตูจาก 7 นัด ถูกโจมตีหมดซะภาพ ร็อบ โฮลดิ้ง หลุดตัวประกบจนมีส่วนในทั้ง 3 ประตูที่เสีย ขณะที่วิงแบ็ก 2 ข้างก็มีวันแย่ๆ ไม่ต่างกัน 

วัตส์กิ้น ฉีกเกมรับอาร์เซน่อลขาดวิ่น

เอคตอร์ เบเยริน เสียท่า แจ็ค กรีลิช นับครั้งไม่ถ้วน ลูกสุดท้ายก็โดน กรีลิช กระแทกจนกระเด็นก่อนที่จอมทัพวิลล่าจะจ่ายให้ วัตกิ้นส์ วิ่งตัดหลัง โฮลดิ้ง เข้าไปกดลอดขา แบรนด์ เลโน่ 

หรือประตูแรกที่เสียทั้ง เบเยริน และ โฮลดิ้ง ต่างก็ยืนเหม่อ บาร์คลี่ย์ จึงได้หลอกจ่ายหักข้อให้ แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ ที่ได้หลุดโล่งก่อนเปิดยัดเข้ากลางนำไปสู่ประตูแรก

ส่วน ซาก้า ก็เสียความมั่นใจไปเลยหลังทำเข้าประตูแรก เขาควรเป็นคนที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในนัดนี้เพราะแทบไม่มีบทบาทใดๆ ในการช่วยทีม

4. เกมรุกด้อยประสิทธิภาพ 

เกมรับที่เสีย 3 ประตูคาบ้านว่าแย่แล้ว สิ่งที่แย่กว่าคือ "เกมรุก" ที่น่าผิดหวังอย่างมาก

หลังบุกชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ในสัปดาห์ก่อน การกลับมาเล่นในบ้านเจอ แอสตัน วิลล่า ที่คุณภาพโดยรวมเป็นรอง "ปืนใหญ่" น่าจะเป็นฝ่ายทำเกมรุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องมากกว่าและเก็บ 3 คะแนนตามเป้า

แต่นัดนี้ เกมรุก อาร์เซน่อล ไร้พิษสงและไม่อันตรายเท่าที่ควร หลายจังหวะต่อบอลกันได้แต่ไม่สามารถจบได้ หรือพอมีโอกาสยิงก็ไม่เฉียบขาดไม่ว่าจะเป็นลูกโขกของ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ที่ คีแรน เทียร์นี่ย์ เปิดมาให้สุดสวย และ วิลเลี่ยน ที่ได้ยิงอีก 2 ครั้งแต่ซัดไม่เข้ากรอบเลย 

โอบาเมย็อง ไม่มีโอกาสได้ยิงเลยตลอดทั้งเกม และหากไม่นับจุดโทษในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อสัปดาห์ก่อนแล้ว เขายิงประตูในจังหวะโอเพ่นเพลย์ไม่ได้เลย 7 นัดติดต่อกันในลีก

ลากาแซ็ตต์ ฝากความหวังไม่ได้เลย

จึงกลายเป็นว่าแนวรุกของ อาร์เซน่อล บอดสนิทในนัดนี้ เมื่อ โอบาเมย็อง ไม่สามารถผลิตสกอร์หรือแม้แต่สร้างโอกาสยิงได้ ลากาแซ็ตต์ กับ วิลเลี่ยน ก็พึ่งพาไม่ได้เช่นกัน รวมไปถึงตัวสำรองอย่าง นิโกล่าส์ เปเป้ ที่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเช่นเคย ไม่มีวี่แววผลงานล่าสุดในยูโรปา ลีก ที่เพิ่งยิง 1 จ่าย 1 แม้แต่นิดเดียว

เกมรุก อาร์เซน่อล เป็นปัญหาที่หลายคนจับตามองอยู่แล้วเพราะยิงประตูได้น้อยมากในฤดูกาลนี้ พอไม่สามารถเจาะวิลล่าได้ อาร์เตต้า ก็ไร้แผนอื่น หรือซูเปอร์ซับใดๆ พอยิ่งโหมก็ยิงโดนสวนจนสุดท้ายเป็น วิลล่า ที่ได้ประตู 2 และ 3

การปราชัยแบบไร้สกอร์นัดล่าสุดทำให้ อาร์เซน่อล ชุดนี้กลายเป็นชุดแรกในรอบ 22 ปีที่ทำประตูในลีกได้น้อยสุดเมื่อผ่านไป 8 นัด ด้วยตัวเลยเพียง 9 ประตู 

5. อาร์เตต้า มีงานต้องทำอีกเพียบ

เบรกทีมชาติ 2 สัปดาห์รอบนี้ มิเกล อาร์เตต้า มีสิ่งให้ต้องคิดต้องทำเพียบหลังผลงานนัดล่าสุดที่ได้เห็นจุดอ่อนของทีมมากมาย

เกมรับเสีย 3 ประตูมีจุดตำหนิเพียบ แต่ในภาพรวมที่ผ่านมาก็ยังถือว่าดีขึ้น ขอเพียงอย่าหลุดแบบนี้ในหลายนัด กาเบรียล มากัลเญส กับ คีแรน เทียร์นี่ย์ ยังไว้วางใจได้ ขณะที่ ร็อบ โฮลดิ้ง น่าจะดีขึ้นเมื่อลงสนามต่อเนื่อง นัดล่าสุดร่างกายยังไม่เข้าที่มากนักเพราะเพิ่งหายเจ็บกลับมาเล่นได้ 2 นัดเท่านั้น 

มิเกล อาร์เตต้า ก้มหน้ารับสภาพ

แต่เกมรุกคือโจทย์ใหญ่ที่เป็นปัญหามาสักพักแล้วเพราะในวันที่ โอบาเมย็อง ยิงประตูไม่ได้ คนอื่นในทีมก็ฝืดตามไปด้วย และเป็นมาหลายนัดแล้ว 

ลากาแซ็ตต์ เล่นในตำแหน่งหน้าเป้า แต่ยังทำผลงานไม่ได้ตามที่หลายคนคาดหวัง การพลาดโอกาสนัดนี้เหมือนฉายภาพซ้ำในเกมกับ ลิเวอร์พูล และ เลสเตอร์ ที่มีโอกาสงามๆ แต่ปล่อยหลุดมือไม่น่าเชื่อ

ลากาแซ็ตต์ ยิงประตูไม่ได้เลยนับตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนที่ยิงล่าสุดกับ ลิเวอร์พูล นัดนี้เขาอยู่ในสนาม 65 นาที ได้สัมผัสบอลเพียง 15 ครั้ง และจ่ายบอลในแดนวิลล่าเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ย้ำเพียงแค่ 2 ครั้งถ้วน

ขณะที่ วิลเลี่ยน ก็ไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งเหมือนนัดเปิดสนามที่มีส่วนร่วมทุกประตูออกมาได้อีกเลย และยังยิงประตูแรกกับในสีเสื้อปืนใหญ่ไม่ได้  

นี่คือการบ้านที่ มิเกล อาร์เตต้า ต้องหาทางแก้ไขให้ได้และจัดการแบบเร่งด่วนก่อนที่ทุกอย่างจะสายไปกว่านี้