:::     :::

กลับมาเกิดเพราะโค้ชใหม่

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน 2563 คอลัมน์ ฉันดูบอลที่ร้านเหล้า โดย ดากานดา
3,460
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
การคุมทีมฟุตบอลคือศาสตร์หนึ่ง ที่ไม่มีรูปแบบตายตัว ส่งให้โค้ชแต่ละคนต่างมีตำราลูกหนังเป็นของตนเอง

นักฟุตบอลบางคนเป็น “คนโปรด” ของโค้ชคนนี้ แต่สำหรับโค้ชใหม่เขาอาจเป็นเพียง “อะไหล่” อยู่ข้างสนาม ด้วยจุดประสงค์การใช้งานที่ต่างกันออกไป

สิ่งเหล่านี้คือเรื่องปกติ และเราเห็นมันอยู่ตลอดบนโลกลูกหนัง

ไทยลีก เองก็เช่นกัน

ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมามี 4-5 สโมสร เปลี่ยนแปลงตำแหน่งเก้าอี้กุนซือใหม่ ส่วนหนึ่งเพื่อต่อยอดผลงานให้ตามเป้า หรือสังเวยผลงานแสนห่วยของโค้ชเก่า

แต่เช่นเดิม สิ่งที่เราเห็นคือบรรดานักเตะที่แทบจะไม่อยู่ในสารบบลูกหนังของกุนซือเก่าหลายคน จากนั่งตบยุงข้างสนาม ลงมาวิ่งบ้างไม่กี่นาที เมื่อตำแหน่งโค้ชมีการเปลี่ยนแปลง เขากลับกลายมาเป็นแกนหลักในทีมทันที

พร้อมทำผลงานได้อย่างสุดเฉียบ

 

จักรพันธ์ แก้วพรม

ไม่มีใครปฏิเสธฝีเท้าของ จักรพันธ์ ว่าเป็นยอดมิดฟิลด์สัญชาติไทยเบอร์ต้น ๆ แต่สำหรับ โบซิดาร์ บันโดวิช “โน้ต” ในวัย 32 กลับเป็นเพียงอะไหล่ ที่ไม่ใช่แกนหลัก

จนเก้าอี้ถูกเปลี่ยนผ่านวลูปกลับมาที่ อเล็กซานเดร กามา จักรพันธ์ กลับมาฉายออร่าในถิ่น ช้าง อารีนา ได้อีกครั้ง  

เฮดโค้ชบราซิเลียน กลางตำราให้เจ้าตัวรับบทบาทจอมทัพในแดนกลางอย่างเต็มตัว และเขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้อายุจะโรยรา ทว่าความเฉียบขาดยามออกบอล สั้น-ยาว หรือ คิลเลอร์พาส การคุมจังหวะเกม สร้างความได้เปรียบให้ทีมยังมีอยู่เต็มเปี่ยม

 

พิชา อุทรา

ปีกวัย 24 ถูกคาดหวังอย่างมากว่าจะเข้ามาเติมเต็มแนวรุกของ เอสซีจี เมืองทองฯ หลังย้ายมาจาก สมุทรปราการ ซิตี้

หากแต่ความจริงที่พบ “เคน” กลับนั่งอยู่ข้างสนาม และมีโอกาสลงเล่นเพียงจำกัดจำเขี่ย ภายใต้การคุมทีมของ กามา เขาเลือกใช้ผู้เล่นอย่าง ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ หรือ วิลเลียม ป็อปป์ มากกว่า

อย่างไรก็ตามหลัง มาริโอ ยูรอฟสกี เข้ามาคุมทีม พิชา กลายเป็นตัวเลือกอันดับแรกในตัวรุกริมเส้นทันที และเพียงเกมแรกของการลงสนามกับโค้ชคนใหม่ หนุ่มเชียงใหม่ก็ซัดประตูสุดสวย ตอบแทนความเชื่อใจที่มอบให้เขาได้ทันที

 


วรวุฒิ นามเวช  

เอาเข้าจริงอนาคตของ เจ้าหนึ่ง ในการลงสนามก่อนหน้านี้ถือว่าน้อยมาก และยิ่งทีมเสริมทัพมาเพิ่มอีก ยิ่งทำให้โอกาสลงสนามของเขากับ “สิงห์เจ้าท่า” เลือนลางยิ่งกว่าเดิม เพราะคู่แข่งเขาในตำแหน่งนี้มีทั้ง เอเลียส ดอเลาะ, ทศพล ลาเทศ, ทิตาวีร์ อักษรศรี, อดิศร พรหมรักษ์ หรือแม้แต่ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (ที่ยังเจ็บ)

หากแต่การเปลี่ยนแปลงเก้าอี้ใน แพท สเตเดียม มาเป็น สระราวุฒิ ตรีพันธ์ ได้ “พลิกชีวิต” ของปราการหลังวัย 25 เจ้าตัวได้รับโอกาสจาก “โค้ชอู๊ด” ในการลงสนามต่อเนื่องมาหลายเกมแล้ว และบทบาทของเขาในการยืนคู่กับ เอเลียส ดอเลาะ ก็ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม การที่ อดิศร พรหมรักษ์ กลับมาสมบูรณ์ น่าสนใจว่าเขาจะยังเป็นตัวหลักในทีมต่อไปหรือไม่   

 

อภิวัฒน์ งั่วลำหิน

บนวัย 34 ปี ใครก็คิดว่า “โอ๊ต” เป็นเพียงผู้เล่นสำรองคอยทดแทน หรือเปลี่ยนผ่านแกนหลักในถิ่น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำให้สถานะของเขาส่วนใหญ่ที่เราคุ้นชินคือ ภาพบนม้านั่งสำรอง และการวิ่งลงสนามประปราย ในฟุตบอลถ้วย

แต่ก็นั่นแหละ โค้ชแต่ละคนต่างมีคู่มือตัวเอง การมาของ อเล็กซานเดร กามา ที่กลับมาใช้แผนการเล่นกองหลัง 3 คน อีกครั้ง ทำให้ อภิวัฒน์ กลับมาเป็นผู้เล่นหลักโดยปริยาย

การลงเล่นเคียงข้างกับ เรนาโต เคลิช และ พรรษา เหมวิบูลย์ เขาทำได้ตามแท็คติก และยิ่งทีเด็ดเจ้าตัวอย่างการเติมไปเล่นลูกกลางอากาศ ก็กลายเป็นอีก “อาวุธ” ของบุรีรัมย์ฯ กับล่าสุดที่ “โอ๊ต” ทำประตูจาก เอสซีจี เมืองทองฯ รวมถึง กะซวกแฮตทริกได้ในฟุตบอลถ้วย ทั้งที่เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ก็น่าจะตอบความดุดันข้อนี้ได้ดี


คำค้นหา : ไทยลีก
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด