สำหรับลีดส์ ยูไนเต็ด หลังจากหายหน้าหายตา จากลีกสูงสุดของอังกฤษ ไปนานกว่า 16 ปีด้วยกัน แถมเป็นการกลับมาด้วยความประทับใจ ผ่านสไตล์การเล่นที่มีเอกลักษณ์ ภายใต้การทำทีมของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ยอดกุนซือชาวอาร์เจนไตน์
ว่ากันว่า หนึ่งสิ่งที่ทำให้ลูกทีมของบิเอลซ่า เป็นที่ชื่นชม นั่นคือสไตล์การวิ่งแบบลืมตาย ชนิดที่ว่า ไล่วิ่งตามหายใจรดต้นคอของคู่แข่งเลยทีเดียว จนมันถูกขนานนามว่า “บอลฆาตกรรม” (Murderball) เราไปฟังความเห็นของทัพ “ยูงทอง” กันหน่อย
“ฟุตบอลของผมง่ายมาก .... เราวิ่งตลอดเวลา” บิเอลซ่า เริ่มต้นกล่าวถึงปรัชญาการคุมทีมของตัวเอง ภายใต้การกุมบังเหียนลีดส์ ยูไนเต็ด ในทุกช่วงของกลางสัปดาห์นั้น เขามักใส่การซ้อมรูปแบบ “บอลฆาตกรรม” ลงไปด้วย
แน่นอนว่า การฝึกซ้อมในรูปแบบดังกล่าว ส่งผลให้ลูกทีมทุกคนวิ่งกันจนแทบขาลาก เพราะต่างต้องใส่ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีลงไป นักเตะบางคนถึงกับออกมาเปรียบให้เห็นภาพเลยว่า การซ้อมแบบรูปนี้ ถือว่าหนักกว่าการแข่งขันจริงเสียอีก
มาเทอุซ คลิช ดาวเตะของลีดส์ ยูไนเต็ด อธิบายว่า “บอลฆาตกรรม หมายถึงการแบ่งทีมกัน ข้างละ 11 คน นักเตะต่างวิ่งกันไปทั่วสนาม และวิ่งแบบไม่หยุดด้วย ผู้จัดการทีมคอยตะโกนสั่งการตลอดเวลา ส่งผลให้คุณไม่สามารถหยุดวิ่งได้”
คลิช กล่าวต่อไปว่า “การซ้อมถือว่ามีรูปแบบ-กฏกติกาที่ธรรมดามาก 11 คนต่อ 11 คน โดยมีสนามใหญ่เป็นสถานที่ฝึกซ้อม คุณมีหน้าที่เพียงแค่ก้มหน้าก้มตาเล่นไป โดยมีเพียงแค่ข้อแม้เดียว นั่นคือคุณห้ามหยุดวิ่งอย่างเด็ดขาด"
"ผมมองว่า การฝึกซ้อมแบบนี้ ถือว่ายากเอาเรื่อง อย่างไรก็ตาม นี่คือการซ้อมที่สำคัญที่สุดของสัปดาห์เลยล่ะ การซ้อมจะขึ้นอยู่กับผู้จัดการทีมว่า เขาต้องการให้ทำนานแค่ไหน อาจจะเป็น 6 นาที 5 ครั้ง หรือไม่ก็ครั้งละ 20 นาที ไล่ยาวไปเลย”
“ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผู้จัดการทีมต้องการ แม้ว่าลูกบอลจะออกจากนอกสนามไปแล้ว สตาฟที่ยืนตามจุดต่างๆจะรีบโยนบอลเข้ามาใหม่ทันที นั่นหมายความว่า คุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้หยุดวิ่ง”
คลิช ปิดท้ายว่า นี่คือการเตรียมความพร้อมที่ยอดเยี่ยม ก่อนการลงแข่งขันจริง แม้ว่าหลายคนจะมองว่า อาจส่งผลต่อเรื่องความฟิต โดยบอกว่า “ความเข้มข้นของการฝึกซ้อมแบบบอลฆาตกรรม ในวันพุธ ผมมองว่ามันหนัก และยากกว่าการแข่งขันในเกมลีกเสียอีก”
ขณะที่เลียม คูเปอร์ กัปตันทีมของพลพรรค “ยูงทอง” ออกมากล่าวบ้างว่า แม้ว่าเขาจะเล่นในตำแหน่งปราการหลัง ซึ่งหนักไปทางการอ่านจังหวะเกม อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงจากบอลฆาตกรรม โดยเขาต้องวิ่งแบบไม่คิดชีวิต เช่นเดียวกันกับผู้เล่นคนอื่น
อย่างไรก็ตาม การซ้อมแบบนั้น กลับผลิดอกออกผลอย่างช้ดเจนในเกมการแข่งขันจริง โดยคูเปอร์ เปิดเผยว่า “การซ้อมบอลฆาตกรรม ผมมองว่ามันเป็นอะไรที่โกลาหลมากเลยล่ะ !! ส่งผลให้สถิติการวิ่งของเราพุ่งสูงที่สุดในรอบสัปดาห์ นี่คือแนวทางของเรา เราฝึกซ้อมด้วยความเข้มข้น และหนักกว่าทีมอื่น” คูเปอร์ ทิ้งท้าย
ปิดท้ายกันที่ แพทริค แบมฟอร์ด ดาวยิงตัวความหวังของทีม ที่ออกมากล่าวเพิ่มเติมถึงโค้ชของเขา และการซ้อมแบบบอลฆาตกรรมว่า “สำหรับผมแล้ว บิเอลซ่า ไม่ได้เป็นคนที่โดดเดี่ยว แต่ชอบรักษาความเป็นมืออาชีพ”
“ผมอยากบอกว่า บิเอลซ่า เป็นคนที่ทุ่มเทแบบ 100 เปอร์เซนต์ หากว่าสตาฟทำการวางกรวยไม่ตรงแบบหน่วยเซนติเมตรแล้ว เขาจะจัดการเข้าไปจวกทันที อาจกล่าวได้ว่า เขาต้องการให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบ“
แบมฟอร์ด บอกว่า “ในส่วนของบอลฆาตกรรม นักเตะทุกคนจะมีกรวยเป็นของตัวเอง ในจังหวะที่บอลตาย ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน คุณต้องรีบวิ่งกลับไปที่กรวยของคุณ หลังจากนั้น ลูกบอลจะถูกส่งเข้ามาในสนามใหม่ และเราต้องเล่นกันอีกครั้ง”
“เราต้องออกตัววิ่งไปเรื่อยๆ มันเป็นการวิ่งแบบไม่หยุดพัก กลุ่มสตาฟ 5 คนยืนตรงกลางสนาม คุณต้องคอยหลบหลีกพวกเขา ทุกอย่างไม่มีการผ่อนปรนเลย บิเอลซ่า ช่วยทำให้การเล่นของผมก้าวไปอีกหนึ่งขั้น”
“สุดท้ายแล้ว คนเราชอบมีพื้นที่ปลอดภัย พร้อมกับคิดในใจว่า -แค่นี้คงโอเคแล้วล่ะ' แต่บิเอลซ่า ไม่เคยปล่อยให้ทำแบบนั้น เขาสอนอะไรผมเยอะมาก แน่นอนว่า ผมคงไม่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก เหมือนในตอนนี้ ถ้าผมไม่มีเขา”
