แต่ในขณะที่งานในสนามดำเนินต่อไป งานนอกสนามก็มีเรื่องที่ต้องจัดการมากไม่แพ้กัน นั่นก็คือเรื่องการต่อสัญญานักเตะที่ทีมมีนักเตะที่เหลือสัญญาอีกเพียง 18 เดือนเพียบ โดยเฉพาะในแนวรับ

ถึงกระนั้นอันที่จริงก็มีนักเตะที่กำลังจะหมดสัญญาหลังจบซีซั่นนี้ แต่อาจจะไม่ได้น่ากังวลมากมายอะไรนัก

ด้วยสภาพทีมที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนในซีซั่นนี้จากการเสริมทัพด้วยเม็ดเงินมหาศาล กลายเป็นฉากหน้าที่แฟนบอลเห็นแล้วมีความสุข แต่ในเบื้องหลังของสโมสรตอนนี้คงกำลังเดินหน้าทำงานกันไม่มากก็น้อยแหละ

เพราะมีนักเตะถึง 10 คนที่ทีมอาจจะเสียตัวออกจากทีมไปแบบฟรีๆภายในช่วงเวลาไม่ถึง 2 ปีนับจากนี้หากไม่ต่อสัญญาใหม่

เริ่มจากซัมเมอร์ที่จะถึงนี้เลยที่แนวโน้มจะเสียออกจากทีมมีสูงมากในรายของ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงเลยกับการย้ายทีมในช่วงตลาดเดือนมกราคม

อาจจะไม่ใช่เพราะทีมต้องการปล่อยออกจากทีม แต่นักเตะอยากย้ายเพื่อรักษาสภาพร่างกายและจังหวะของตัวเองในการติดทีมชาติฝรั่งเศสในศึกยูโรกลางปีหน้า

แน่นอนว่าสำหรับ เชลซี กับภารกิจของทีมในซีซั่นนี้ที่หากยังเดินหน้าทำผลงานได้ดีจนมีลุ้นแชมป์ในหลายๆรายการ คงไม่อยากปล่อยกองหน้าที่มีอยู่น้อยนิดอยู่แล้วออกจากทีม สุดท้ายอาจจะยอมเสียตัวตอนจบซีซั่นไปเลย

อีกคนก็คือ วิลลี่ กาบาเยโร่ ในวัย 39 ปี ยังไงคงออกจากทีมแน่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น

ขณะที่ ติอาโก้ ซิลวา กองหลังตัวเก๋าที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ สุดท้ายทีมคงใช้อ็อปชั่นต่อสัญญาเพื่อให้อยู่ต่อไปอีกปีแน่นอน

ขยับไปที่ปี 2022 ต้องบอกว่านักเตะเรียงคิวหมดสัญญาเพียบถึง 7 คน

นั่นเท่ากับว่าทีมต้องเร่งเจรจาทุกอย่างให้ลุล่วงก่อนที่จะเข้าสู่เดือนมกราคม 2022 ไม่อย่างนั้นนักเตะจะสามารถเซ็นสัญญาล่วงหน้ากับสโมสรอื่นได้

คนแรกก็คือ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ที่ดูท่าจะเป็นส่วนเกินของทีมไปแล้วหลังจากที่หายหน้าจากทีมไปเลยในซีซั่นนี้ โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีกที่ยังไม่มีส่วนร่วมกับทีมเลยแม้แต่นาทีเดียว โดยได้ลงสนามในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกไป 112 นาทีเท่านั้น

แม้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เผยว่าพร้อมจะให้โอกาสกลับมาเล่น แต่เมื่อดูจากตัวจริงแลบะตัวสำรองที่ทีมมีอยู่ตอนนี้ดูท่าโอกาสที่จะโดนขายก่อนหมดสัญญามีสูงจริงๆ

อีกคนก็คือ เอแมร์ซอน ในตำแหน่งแบ็คซ้ายที่ตอนนี้ทีมมีตัวเลือกเพียบทั้ง เบน ชิลเวลล์ แข้งตัวใหม่ที่ยึดตัวจริงไปเรียบร้อย ยังมี มาร์กอส อลอนโซ่ ที่ดูแล้วยังได้รับความไว้วางใจมากกว่า

แต่คนนี้ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะทีมในอิตาลีพร้อมที่จะดึงตัวไปร่วมทีมอยู่แล้ว โดยเฉพาะ ยูเวนตุส กับ อินเตอร์ มิลาน ถือว่าไม่น่าห่วง

อับดุล ราห์มาน บาบ้า แบ็คซ้ายส่วนเกินที่ปีนี้ไม่ได้เล่นกับทีมเลย พร้อมกับถูกส่งไปเล่นกับทีมสำรอง ไม่อยู่ในแผนการทำทีมแน่นอน ยังไงไม่ว่าจะตลาดหน้าหนาวหรือหลังจบฤดูกาลนี้คงจะโดนปล่อยตัวออกจากทีมเหมือนที่ผ่านมาที่โดนปล่อยยืมตัวมาตลอดนับตั้งแต่มาอยู่กับทีม

ในขณะที่ ชาร์ลี มูซอนด้า เด็กปั้นชาวเบลเยี่ยม อีกคนที่โดนปล่อยตัวให้สโมสรอื่นยืมใช้งานตลอดกระทั่งกลับมาอยู่กับทีมในซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ติดปัญหาที่เจ็บเข้ารับการผ่าเข้าตัดพักยาว คงอยู่กับทีมไปก่อน

แต่ในวัย 24 ปี เล่นในแนวรุกที่ตอินนี้ทีมตัวเลือกเพียบ สุดท้ายคงไม่อยู่ในแผนอีกคน

สำหรับรายของ แดนนี่ ดริ๊งวอเตอร์ กองกลางตัวปัญหาที่นอกจากในสนามจะหายหน้าไปแล้วยังมามีพฤติกรรมแย่นอกสนามอีก แทบจะฟันธงได้เลยว่าหมดอนาคต จากค่าตัวระดับ 30 ล้านปอนด์ตอนนี้แทบไม่เหลือค่าเลย

มาถึงรายที่น่าจะยังอยู่ในแผนการทำทีมคือ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กัปตันทีมที่แม้ช่วงหลังจะโดน รีซ เจมส์ แย่งตำแหน่งไป แต่ด้วยความสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้ทั้งแบ็คซ้าย-แบ็คขวา รวมถึงขยับมายืนเซนเตอร์ในระแบบ 3 กองหลังได้ด้วย 

นอกซะจากว่าตัวนักเตะเองต้องการย้ายออกจากทีมหรือกลับบ้านเกิด นั่นคือความเป็นไปได้ทางเดียวที่จะไม่ต่อสัญญาใหม่ 

ในขณะที่ อันเดรียส คริสเตนเซ่น แม้จะไม่ได้มีโอกาสมากมายนัก แต่ก็ยังดีกว่า อันโตนิโอ รือดิเกอร์ อย่างน้อยหน่วยก้านก็ถือว่าดีอยู่กับการก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทน ติอาโก้ ซิลวา ในอนาคตหากอำลาทีมไป

ส่วนพวกที่ถูกปล่อยยืมตัวอีกเพียบที่จะหมดสัญญาในปี 2022 ทั้ง วิคเตอร์ โมเสส, มิชี่ บาตชูอายี่, ติเอมูเอ้ บากาโยโก้, ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า และ เคเนดี้ กลับมาคงต้องคุยกันหน่อย ไม่งั้นก็เจรจากับทีมที่ยืมตัวไปเลยว่าต้องการไว้ใช้งานต่อรึเปล่า ในราคาที่ย่อมเยาว์

อย่างที่บอกว่าหลังจบฤดูกาลนี้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด รวมถึง มารีน่า กรานอฟสกาย่า มีงานรออีกเพียบ คงได้คุยกับนักเตะพวกนี้แทบไม่เว้นแต่ละวัน

ไม่รู้ว่าซีซั่นนี้จะจบลงยังไง ผลงานของทีมจะดี-ร้ายแค่ไหน ยังไงบอร์ดบริหารของ เชลซี ก็คงต้องสะสางเรื่องพวกนี้ให้เรียบร้อย หรืออย่างช้าที่สุดก็ก่อนที่จะถึงเดือนมกราคมที่นักเตะจะเจรจาย้ายไปทีมอื่นได้ล่วงหลัง

นอกซะจากว่าทีมจะทุบคลังเพิ่มอีกแล้วมองข้ามนักเตะเหล่านี้ไป