:::     :::

โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ : เกิดใหม่ในรังปืน

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน 2563 คอลัมน์ โรงเตี๊ยมลูกหนัง โดย ทอมมี่ ท่ามะกา
2,494
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เป็นเวลาเกือบ 5 ปีที่ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ย้ายมาร่วมทีม อาร์เซน่อล แต่ฤดูกาลนี้เพิ่งจะเป็นฤดูกาลแรกที่เรียกได้เต็มปากว่าเขาได้กลายเป็นอีกหนึ่งแกนหลักของทีมไปแล้ว

เอลเนนี่ ย้ายมาจาก บาเซิ่ล ในลีกสวิตเซอร์แลนด์ช่วงต้นปี 2016 ในยุคของ อาร์แซน เวนเกอร์ โดยมีบทบาทเป็นสำรองส่วนใหญ่ ได้โอกาสจริงจังคือในฟุตบอลถ้วยที่สำคัญน้อยสุดอย่าง ลีก คัพ ขณะที่ฤดูกาลก่อนถูกปล่อยให้ เบซิคตัส ทีมในตุรกียืมใช้งาน

ก่อนถึงฤดูกาลนี้ เอลเนนี่ ได้ออกสตาร์ทตัวจริงในพรีเมียร์ลีกรวมกันเพียง 33 นัด และไม่ได้สร้างผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันมากนัก เขาคือหนึ่งในนักเตะที่เกือบถูกโละออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายได้โอกาสจาก มิเกล อาร์เตต้า ในการพิสูจน์ตัวเอง

อาร์เตต้า ที่เคยเล่นร่วมกับ เอลเนนี่ ช่วงสั้นๆ ก่อนแขวนสตั๊ดในปี 2016 กล่าวถึงการได้ร่วมงานกองกลางชาวอียิปต์อีกครั้ง แต่เปลี่ยนบทบาทจาก "เพื่อนร่วมทีม" เป็น "โค้ช" กับ "ลูกทีม" 

"เขารับผิดชอบต่อวัฒนธรรมของเราและเป็นคนที่ได้รับความชื่นชมจากทุกคนในสโมสร และตอนนี้เขาก็ได้แสดงให้เห็นถึงคุณภาพในฐานะนักฟุตบอล ผมเชื่อมั่นมาตลอดว่าเขามีคุณภาพเหล่านี้" อาร์เตต้า กล่าว 

การกลับมาจากยืมตัวที่ตุรกีของ เอลเนนี่ เหมือนกลายเป็นอีกคนละคน เขาทำผลงานได้ดีตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นต่อเนื่องถึงเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่ อาร์เซน่อล คว้าแชมป์ด้วยการดวลจุดโทษชนะ ลิเวอร์พูล จนได้รับโอกาสเป็นตัวจริงในเกมนัดเปิดสนามกับ ฟูแล่ม 

จากนั้นเป็นต้นมา เอลเนนี่ สลับไปนั่งสำรองบ้าง เป็นตัวจริงบ้าง แต่ทุกครั้งที่อยู่ในสนาม เขายังรักษาฟอร์มการเล่นอันยอดดเยี่ยมเอาไว้และได้รับคำชมอย่างมากโดยเฉพาะนัดที่ปืนใหญ่บุกสยบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปีที่ควักชัยชนะกลับออกมาจาก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด


อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้นำพา เอลเนนี่ มาร่วมทีมปืนใหญ่

ฟอร์มการเล่นของ เอลเนนี่ ที่จับคู่กับ โธมัส ปาร์เตย์ ในวันนั้นทำให้แฟนบอล อาร์เซน่อล นึกถึงผลงานของคู่มิดฟิลด์ในตำนาน ปาทริค วิเอร่า กับ จิลแบร์โต้ ซิลวา ขึ้นมาทันทีเพราะเป็นการเล่นที่เปี่ยมด้วยพละกำลัง ความแข็งแกร่ง มันสมอง ชั้นเชิง และคุณภาพที่แดนกลางผีแดงต้องยอมศิโรราบ

ฉากสุดท้ายที่ เอลเนนี่ วิ่งควบตะบึงไล่บอลจาก ลุค ชอว์ ต่อด้วย วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ จนบีบให้แนวรับสวีดิชจ่ายบอลเสียออกข้างดื้อๆ บ่งบอกถึงการเล่นอันทุ่มเทที่เต็มที่กับทีมได้อย่างดีเพราะเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่เรี่ยวแรงไม่น่าจะเหลือกันแล้ว หลายคนกัดฟันลุยรอฟังเสียงนกหวีดจบเกม แต่ เอลเนนี่ ยังวิ่งพล่านไล่บอลไม่ลดละ

"สิ่งที่ โม เพิ่มให้กับทีมนั้นพิเศษ เขามีพละกำลังโดยพื้นฐานอยู่แล้ว ผมชอบนักเตะที่ไม่มีอีโก้ เล่นเพื่อทีมเท่านั้น และต้องการลุยไม่ว่าจะนาทีเดียวหรือ 96 นาที หรือเพียงแค่ได้อยู่ในสนามและตอบสนองอย่างดีตลอดเวลา" นี่คือคำยกย่องจาก อาร์เตต้า ที่สรุปการเล่นของ เอลเนนี่ 

ขณะที่ เอลเนนี่ กล่าวถึงตัวเองว่า "ผมชอบเคลื่อนที่ต่อเนื่อง การวิ่งคือส่วนหนึ่งในงานของผม"

การนิยมการเล่นของตัวเองที่มีพื้นฐานความ "อึด" มาจากการเล่นบอลข้างถนนในวัยเด็กเฉลี่ยวันละ 10 ชั่วโมงที่บ้านเกิด เอล มาอัลลา ในอียิปต์ 

ย้อนไปในช่วงเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอล เอลเนนี่ เข้าฟูมฟักฝีเท้าที่ อัล อาห์ลี อะคาเดมี่ ก่อนย้ายไปเล่นอาชีพให้กับ อัล โมคาวลูน (แปลว่า หมาป่าภูเขา) และที่แห่งนั้นเองที่ได้ร่วมทีมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อให้เกิดความสัมพันธ์อันยาวนานจนถึงปัจจุบัน 


วิ่งได้ไม่มีหมดคือคุณสมบัติเด่นของ เอลเนนี่

เอลเนนี่ อายุน้อยกว่า ซาลาห์ ไม่กี่เดือน ทั้งคู่เล่นด้วยกันที่อียิปต์ และเดินทางมาสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงไล่เลี่ยกัน ปัจจุบันทั้งคู่ต่างเป็นกลายตัวหลักของ 2 ทีมหัวแถวพรีเมียร์ลีก เช่นเดียวกับในนามทีมชาติอียิปต์ที่เล่นรวมกันเกือบหนึ่งร้อยห้าสิบนัดและช่วยกันพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ เมื่อปี 2017 ก่อนได้ตำแหน่งรองแชมป์ (เอลเนนี่ ยิงให้ อียิปต์ นำก่อนถูก แคเมอรูน ยิงแซงชนะ 2-1)

กองกลางสายเลือดมัมมี่ ย้ายร่วมทีม บาเซิ่ล ในหน้าหนาวฤดูกาล 2012/13 จอร์จ ไฮต์ซ อดีตสตาฟฟ์โค้ช บาเซิ่ล ที่ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการกีฬาของ ชิคาโก้ ไฟร์ ในเมเจอร์ลีก สหรัฐฯ กล่าวถึง เอลเนนี่ ว่า "เขามีคุณภาพมากมาย แต่ทักษะในการผ่านบอลของเขา และพาสชั่นในกีฬาชนิดนี้โดดเด่นเสมอมา และเขาก็วิ่งได้ราวกับม้าอีกด้วย"

หลังได้พบกับ อาร์เตต้า อีกรอบในช่วงปรีซีซั่น เอลเนนี่ แสดงความตั้งใจให้ อาร์เตต้า ได้เห็นว่าเขาต้องการอยู่กับ อาร์เซน่อล ต่อไป ความมุ่งมั่นของเขาเห็นได้ตั้งแต่การซ้อมแรกๆ ที่ความฟิตเหนือกว่าเพื่อนร่วมทีมชัดเจน 

"ทุกคนตื่นเต้นที่เห็นผมกลับมา (จากยืมตัว) และตอนผมลงซ้อม ทุกคนก็ต่างพูดในด้านดีๆ บอกว่า 'โม นายซ้อมได้ดีนะ' สิ่งนี้ทำให้คุณเรียกความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง สิ่งนี้ทำให้ผมอยากจะซ้อมเพิ่มเข้าไปอีก เพิ่มมากขึ้น และเรียนรู้สิ่งใหม่ในทุกวัน" เอลเนนี่ กล่าว 

นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง อาร์เตต้า พยายามรื้อฟื้นตัวตนเดิมๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของ อาร์เซน่อล กลับคืนมา เขาพยายามกระตุ้นให้นักเตะตระหนักความเป็น "อาร์เซน่อล" และจุดที่สโมสรควรอยู่ พร้อมทั้งย้ำเตือนนักเตะทุกคนให้นึกถึงสโมสรมากกว่าตัวเอง 


เกิดอีกครั้งในยุคของ อาร์เตต้า

ตัวตนในแบบ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ที่ก้มหน้าก้มตาฝึกซ้อมและพร้อมทำทุกอย่างเพื่อทีมคือสิ่งที่ อาร์เตต้า ต้องการและ อาร์เซน่อล ก็จำเป็นต้องมีนักเตะแบบนี้ในทีม 

ขณะที่ อาร์แซน เวนเกอร์ เคยกล่าวถึงอดีตลูกทีมชาวอียิปต์ว่า "ผมอยากจะบอกว่า เขาเป็นที่รักของสโมสรแห่งนี้อย่างไร้ข้อสงสัยเลย เขามีคุณสมบัติทุกอย่างที่คุณต้องการจากนักเตะ มีพาสชั่นในตัวเอง ทุ่มเทเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ในการฝึกซ้อมทุกวัน เป็นมิตรกับทุกคนและถ่อมตัวมากๆ"

"ผมบอกเลยว่าผมชื่นชมทัศนคติการเล่นเพื่อทีมของเขาอย่างมากและผมก็เป็นแฟนตัวยงของ เอลเนนี่ ด้วย เมื่อเราพูดถึงคนสักคน เราคุยกันเรื่องนี้ก่อนคุณภาพในฐานะนักฟุตบอลด้วยซ้ำ" 

ขณะที่สตาฟฟ์โค้ชปืนใหญ่ก็ให้ความเห็นว่า "หากคุณดูในสิ่งที่ เอลเนนี่ แสดงออกมาตอนนี้ มันคือสิ่งที่เขามีตั้งแต่วันแรกแล้ว ทว่าความแตกต่างคือระดับความมั่นใจและไร้กังวล มันเหมือนกับว่าเขาได้เจอโค้ชที่เชื่อมั่นในตัวเขามากๆ"

จากคนที่เหมือนเป็นส่วนเกินในทีม เอลเนนี่ ยกระดับตัวเองในการเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้แดนกลาง อาร์เซน่อล ด้วยการเล่นเพื่อทีมอย่างแท้จริง มีความขยัน วิ่งได้ตลอดทั้งเกม ออกบอลง่าย และแม่นยำ เขามีสถิติจ่ายบอลเข้าเป้า 94.1 เปอร์เซ็นต์ ดีกว่าทุกคนในพรีเมียร์ลีก โดยจ่ายบอลพลาดเพียง 18 ครั้งจากทั้งหมด 304 ครั้งในฤดูกาลนี้ 

เอลเนนี่ พร้อมทำทุกอย่างที่ได้รับมอบหมาย ที่สำคัญคือการรักษาตัวตนในแบบ "น้ำไม่เต็มแก้ว" พร้อมเรียนรู้อยู่เสมอ และไร้ซึ่งอีโก้ใดๆ 


ยิ้มรับกับทุกสถานการณ์

น้อยคนอาจไม่สังเกตว่าเขามีคนตามในทวิตเตอร์มากถึง 4.5 ล้านคน มากกว่า ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ถึง 3 เท่า และเป็นรองเพียง เมซุต โอซิล เพียงคนเดียวในทีม เอลเนนี่ โด่งดังมากในบ้านเกิดอียิปต์ แต่เขาก็ยังทำตัวติดดินเหมือนเดิม

"แม้ผู้คนจะมองว่าในฐานะสตาร์ แต่ผมไม่ใช่แบบนั้น ผมคือคนธรรมดา ในมุมมองของผม ผมคิดว่ามันอันตรายนะที่รู้สึกว่าเป็นสตาร์คนดัง มันสามารถทำให้คุณได้บาดเจ็บหรือจบอาชีพได้เลย คุณจะตกลงสู่หลุมลึกหากลุ่มหลงกับมัน"

โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ไม่ใช่นักเตะที่มีทักษะเลอเลิศ ไม่ได้เล่นตำแหน่งที่แสงไฟทุกดวงพร้อมสาดส่องเข้าหา และไม่ได้มีค่าเหนื่อยแพงระยับ แต่เขาอีกมีสิ่งที่นักฟุตบอลควร

"ความทุ่มเทและทำทุกอย่างเพื่อทีม" 

เพียงแค่นี้ก็มากพอแล้วที่ทำให้เขายืนหยัดได้อย่างองอาจและคู่ควรกับคำชื่นชมจากทุกคน 



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด