5แข้งสเปนแถวหน้าเวทีบุนเดสลีกา
นักเตะสเปนย้ายมาค้าแข้งบนเวทีบุนเดสลีกามากขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา หลายคนล้มเหลว แต่มีจำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งมี 5 คนที่ทำผลงานยอดเยี่ยมสุดนับตั้งแต่มาเล่นในลีกเมืองเบียร์
1.ติอาโก้ อัลกันตาร่า (บาเยิร์น มิวนิค)
ลงสนาม : 150 เกม
ประตู : 17
ความสำเร็จ : แชมป์บุนเดสลีกา 7 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 4 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย, เยอรมัน ซูเปอร์ คัพ 3 สมัย
ติอาโก้ กลายเป็นนักเตะสเปนที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าเหลือเชื่อในการค้าแข้งที่เยอรมัน นับตั้งแต่โยกมาจาก บาร์เซโลน่า เข้าสังกัด บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 ด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นแข้งสเปนที่ประสบความสำเร็จมากสุดในลีกเมืองเบียร์
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ชาวสเปนบอกกล่าวกับฝ่ายบริหารทีมเสือใต้ในขณะนั้นว่าเขาต้องการดึง ติอาโก้ อัลกันตาร่า มาร่วมทีมเท่านั้น ก่อน บาเยิร์น มิวนิค จะตอบสนองความต้องการของ 'เป๊ป' ด้วยการอุ้มมิดฟิลด์เชื้อสายบราซิเลียนมาสู่ถิ่น 'อัลลีอันซ์ อารีน่า'
ติอาโก้ เป็นสมาชิกคนแรกในช่วงซัมเมอร์แรกของ กวาร์ดิโอล่า กับทีมเสือใต้ ก่อนสโมสรจะดึง มาริโอ เกิตเซ่ กับ ยาน เคียร์ฮอฟฟ์ มาเข้าเสริมทัพเพิ่มเติมในช่วงหน้าร้อนนั้น
มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนก้าวขึ้นมาเป็นขุมกำลังหลักของทัพเสือใต้ เขาประสบความสำเร็จอย่างน่าเหลือเชื่อด้วยการคว้าแชมป์ 16 ราบการตลอดช่วงเวลา 7 ปีที่ค้าแข้งกับทีมยักษ์ใหญ่แคว้นบาวาเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำต้นสังกัดคว้าชัยชนะเหนือ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศของศึก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลที่่ผ่านมา ซึ่งเขาจ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 92 เปอร์เซ็นต์ ปล่อยให้นักเตะเปแอสเชกลายเป็นเพียงเงาตามเขาเท่านั้น
'ในตรงกลางสนาม คุณไม่มีเวลาระบุว่าผู้เล่นคนใดอยู่ในทีมคุณ' ติอาโก้ กล่าวถึงการเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ที่ต้องใช้การตัดสินใจในเสี้ยววินาที ซึ่งไม่มีใครทำได้ดีเหมือนเขาและกลายเป็นนักเตะสเปนที่ประสบความสำเร็จมากสุดในลีกเมืองเบียร์ ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
2.ฆาเบียร์ มาร์ตีเนซ (บาเยิร์น มิวนิค)
ลงสนาม : 151 เกม
ประตู : 9
ความสำเร็จ : แชมป์บุนเดสลีกา 8 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 5 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย, เยอรมัน ซูเปอร์ คัพ 3 สมัย
บาเยิร์น มิวนิค จ่ายเงิน 40 ล้านยูโรดึง ฆาเบียร์ มาร์ตีเนซ มาจาก แอธเลติก บิลเบา ในช่วงซัมเมอร์ปี 2012 ก่อนคว้าแชมป์ร่วมกับทีมเสือใต้มากถึง 20 รายการ แม้ตัวเลขความสำเร็จจะเหนือกว่า ติอาโก้ อัลกันตาร่า ก็ตาม แต่บทบาทความสำคัญต่อทีมของอดีตมิดฟิลด์ทีมดังแคว้นบากส์มีน้อยกว่า
ฆาเบียร์ มาร์ตีเนซ มีบทบาทเป็นเพียงตัวสำรองในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา เขาลงเล่นบนเวทีบุนเดสลีกาเพียง 16 เกมในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา แต่เขายังทำหน้าที่อย่างยอดเยี่ยมฐานะมิดฟิลด์ตัวรับเมื่อได้โอกาสลงสนาม เปรียบเสมือนเหล็ก ขณะที่ ติอาโก้ เป็นเหมือนผ้าไหม แม้จะเล่นในเกมด้วยความดุดัน แต่ ฆาบี มีนิสัยอ่อนโยนตอนอยู่นอกสนาม
'ผมยังคงจำได้ตอนที่ ฟร้านซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ พูดว่า ฆาบี มาร์ตีเนซ เป็นใคร?' จุ๊ปป์ ไฮยน์เกส อดีตเทรนเนอร์ บาเยิร์น มิวนิค กล่าวถึงมิดฟิลด์ชาวสเปนที่ค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ยาวนาน 8 ปี
3.ราอูล กอนซาเลซ (ชาลเก้)
ลงสนาม : 66 เกม
ประตู : 28
ความสำเร็จ : เดเอฟเบ โพคาล 1 สมัย, เยอรมัน ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย
ราอูล กอนซาเลซ ทิ้งช่วงดีที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขาไว้ข้างหลัง เมื่อตัดสินใจย้าย เรอัล มาดริด มาเล่นกับ ชาลเก้ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2010 แต่กองหน้าชาวสเปนยังคงเปล่งประกายเจิดจ้าในช่วง 2 ฤดูกาลที่ค้าแข้งกับ 'รอยัลส์ บูลส์'
นับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ของ เรอัล มาดริด เมื่อปี 1994 เขากลายเป็นตำนานของสโมสรยิงรวมกัน 323 ประตู มีแค่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เพียงคนเดียวที่ยิงประตูกับทัพ'โลส บลังโกส'มากกว่า ก่อนจะย้ายมาเล่นในถิ่น 'เฟลตินส์ อาเรน่า' ตอนอายุ 33 ปี
แต่อายุไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับ ราอูล เขายิง 40 ประตูและทำ 21 แอสซิสต์จากการลงเล่นทุกรายการตลอดช่วง 2 ฤดูกาลที่ค้าแข้งกับ ชาลเก้ พร้อมนำทีมราชันสีน้ำเงินคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล กับ เดเอฟเบ คัพ รายการละสมัย ในปี 2011
ราอูล ยังทำประตูทั้งเกมเหย้าและนัดเยือนในการเผชิญหน้ากับ อินเตอร์ มิลาน นำ ชาลเก้ ทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของศึก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งแรกของสโมสรในฤดูกาล 2010-2011 ก่อนพ่าย แมนฯยูไนเต็ด ด้วยสกอร์รวม 1-6
'มันเป็นข่าวที่ยอดเยี่ยมสำหรับ ชาลเก้' เฟลิกซ์ มากัธ เทรนเนอร์ของ ชาลเก้ ขณะนั้นกล่าวถึงการย้ายมาร่วมทีมของ ราอูล 'ผมมีความยินดีที่เราประสบความสำเร็จในการเซ็นสัญญากับนักเตะที่ยอดเยี่ยมและกองหน้าระดับโลกที่ย้ายมาเล่นบุนเดสลีกากับ ชาลเก้'
4.โธมัส คริสเตียนเซ่น ตาริน (โบคุ่ม, ฮันโนเวอร์)
ลงสนาม : 101 เกม
ประตู : 34
ความสำเร็จ : -
อดีตกองหน้าวัย 47 ปี มีพ่อเป็นคนเดนมาร์ก แม่เป็นชาวสเปน เขาเกิดขึ้นที่เมืองฮัดซุนด์ ประเทศเดนมาร์ก เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ก่อนจะย้ายไปเล่นกับหลายสโมสร จนกระทั่งมาค้าแข้งในเยอรมันตั้งแต่ปี 2001 กับ โบคุ่ม และย้ายมาปิดฉากอาชีพค้าแข้งกับ ฮันโนเวอร์ ในช่วงปี 2003-2006
คริสเตียนเซ่น เป็นกองหน้าเท้าซ้ายธรรมชาติ เขาทำผลงานโดดเด่นกับ โบคุ่ม ทีมเพื่อนบ้านแคว้นรูห์ของ ชาลเก้ เขาทำ 38 ประตูจากการลงเล่น 76 เกม
จากนั้นกองหน้าลูกครึ่งสเปน-เดนมาร์กย้ายมาเล่นกับ ฮันโนเวอร์ โดยทำ 12 ประตูจากการลงเล่น 55 เกม ซึ่งการย้ายมาเล่นในเยอรมันเป็นช่วงเวลาดีสุดในอาชีพของ คริสเตียนเซ่น หลังพเนจรไปอยู่กับหลายสโมสรทั้ง สปอร์ติ้ง คีฆอน, โอซาซูน่า, ราซิ่ง ซานตานเดร์, เรอัล โอเบียโด้, บียาร์เรอัล, เตร์ราสซ่า, พานิโอนิออส หรือ เฮอร์โฟล์ก โกเก้
5.ฟรานซิสโก้ อัลกาเซร์ (ดอร์ทมุนด์)
ลงสนาม : 37 เกม
ประตู : 23
ความสำเร็จ : เยอรมัน ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย
อัลกาเซร์ ย้ายมาเล่นในลีกเมืองเบียร์ช่วงสั้นๆ แต่ภาพรวมระยะเวลาราวปีครึ่งกับ ดอร์ทมุนด์ ถือว่าทำผลงานในระดับหนึ่งสำหรับค่าเฉลี่ยการทำประตูของกองหน้าชาวสเปนที่ยิง 26 ประตู มีค่าเฉลี่ยยิง 1 ประตูทุก 75 นาที
อัลกาเซร์ ย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาค้าแข้งกับ ดอร์ทมุนด์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี ก่อนทีมเสือเหลืองจะใช้อ็อปชั่นเซ็นสัญญาถาวรมูลค่า 23 ล้านยูโรในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีถัดมา หลังโชว์ทีเด็ดด้วยการยิง 10 ประตูจากการลงเล่นฐานะสำรองในช่วงแรก ก่อนคว้าแชมป์ เยอรมัน ซูเปอร์ คัพ ปี 2019
อย่างไรก็ตาม อัลกาเซร์ ย้ายกลับสเปนในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเซ็นัญญา 5 ปีครึ่งกับ บียาร์เรอัล ด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร หลัง ดอร์ทมุนด์ ดึง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์มาจาก ซัลซ์บวร์ก แต่หนุ่มปาโก้ยังถูกจดจำในฐานะหนึ่งในกองหน้าที่ดีสำหรับค่าย'เหลือง-ดำ'เช่นกัน