เบื้องต้นข้อมูลที่ได้รับมาจากทางสโมสร ระบุว่า สัญญาของเขาถูกขยายไปจนจบซีซั่น 2020-2021 หลังจากได้มีการพูดคุยกับฝ่ายบริหาร และขอช่วยทีมต่อไป ซึ่งสัญญานี้จะเหมือนกับ ลอสเซมี การาบูเอ้ ตัวรับสารพัดประโยชน์ขาวไอวอรี่โคสต์

ทำไม สตีเว่น ลองจิล จึงมีอิทธิพลกับทีมขนาดนี้ ต้องบอกว่าสถิติการเล่นของเขานับจากย้ายมาอยู่ที่ มิตรผล สเตเดี้ยม ในปี 2019 นั้น ถือว่ายอดเยี่ยมจริงๆ นอกจากจะมีความเร็วจัด ทักษะสูง ไปกับบอลได้ดีเยี่ยม แล้วยังจบสกอร์ได้เฉียบคมอีกต่างหาก

ดาวเตะมาร์ตินิก บู๊ไทยลีก ปีแรกไปทั้งหมด 23 เกม ยิงไป 8 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ พร้อมกับพา ราชบุรี มิตรผล ทะยานเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศของ เอฟเอ คัพ 2019 แม้สุดท้ายจะปิดฉากด้วยการเป็นพระรองก็ตาม หลังจากแพ้ให้กับ การท่าเรือ 0-1

ด้วยผลงานที่น่าทึ่งก่อนจบฤดูกาล 2019 ยอดทีมจากแดนโอ่งจัดการต่อสัญญาเขาไปอีก 1 ปี ซึ่งหากว่าไม่มี โควิด-19 เข้ามาอาละวาดวงการฟุตบอล เขาจะหมดสัญญาที่ระบุเอาไว้ในวันที่ 30 พ.ย.2020 หรืออีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ 

การต่อสัญญากับนักเตะออกไปในระยะสั้น ก็เป็นสิ่งที่หลายทีมเลือกปฏิบัติ เช่นเดียวกับ “ราชันมังกร” ที่มองเห็นจุดนี้ จึงรีบตัดสินใจที่จะพูดคุย เพื่อขยายสัญญาของ ลองจิล ออกไปก่อน ไม่เช่นนั้นจะเป็นเหมือน ยานนิค โบลี ที่ย้ายไปร่วมทีม การท่าเรือ เอฟซี เรียบร้อบแล้ว

ณ ตอนนี้ 7 แอสซิสต์ที่แข้งเลือดน้ำหอมทำเอาไว้จาก 11 เกม ตอกย้ำให้เห็นถึงคุณภาพฝีเท้าได้เป็นอย่างดี ทว่าการขาดหายไปของคู่หูอย่าง ยานนิค โบลี จะเป็นตัวแปรสำคัญมากเดียว 

อย่าลืมว่าตั้งแต่รีสตาร์ทไทยลีก 7 นัดที่ผ่านมา การมองหน้าแบบรู้ใจของแข้งอิมพอร์ททั้งคู่มีสูงจริงๆ ฉะนั้นการแยกย้ายของ โบลี่ อาจจะกลายเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญที่หายไป 

อย่างไรก็ตาม ราชบุรี กำลังตกเป็นข่าว เอวานโดร เปาลิสต้า ที่เพิ่งจะแยกทางกับทาง สุโขทัย เอฟซี เพราะว่าหมดสัญญาแล้วเช่นเดียวกัน

ดาวยิงหน้าละหม้ายคล้าย อาร์ตูโร วิดัล ฮาร์ดแมนทีมชาติชิลีของ อินเตอร์ มิลาน อาจเข้ามาเป็นตัวเลือกในแดนหน้า ทว่าไม่ใช่แค่ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เท่านั้น แต่ยังมี สมุทรปราการซิตี้ เป็นโจทย์ชิ้นสำคัญในการแย่งตัว เพราะพวกเขาเองก็ต้องการหัวหอกนอกเข้ามาเสริมทัพ

ปัญหาอยู่ตรงที่ เท่าที่ทราบมา ล่าสุดทั้ง 2 สโมสร ยังไม่มีการยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการให้กับอดีตแข้งที่เคยผ่านการเล่นให้ โออิตะ ทรินิตะ และ กิฟุ เอฟซี ที่ญี่ปุ่น , แดกู เอฟซี และ เอฟซี โซล ที่เกาหลีใต้ และ เสฉวน หลงฟา เอฟซี ที่จีน

ทว่ายังเหลืออีกประมาณ 1 เดือนเศษในการเจรจา ก่อนที่ตลาดซื้อขายและลงทะเบียนนักเตะจะเปิดขึ้น หากว่าถ้า ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ต้องการจริงๆ เขาก็อาจจะกลายเป็นตัวตอบโจทย์ให้กับ สตีเว่น ลองจิล เช่นกัน 

ด้วยความขยันและยืดหยุ่นที่สามารถลงไปเล่นเกมรับได้ แถมยังหาพื้นที่ในการเข้าทำสกอร์ได้ดี และด้วยสถานการณ์ โควิด-19 ที่ยังแพร่ระบาดรุนแรงไปทั่วโลก พลพรรค “ราชันมังกร” จึงน่าจะเลือกใช้แข้งภายในประเทศมากกว่าจะอิมพอร์ตจากต่างแดนเข้ามา

เนื่องจากการดึงตัวผู้เล่นมาจากต่างประเทศ นอกจากจะต้องเสียเงินค่าตั๋วเครื่องบินและใบตรวจโรคต่างๆ เพื่อให้รับรองกับทางสถานทูตไปจนถึงสนามบินแล้ว ยังจะต้องมากักตัวใน State Quarantine อีก 14 วัน ดูแล้วกว่าจะได้มาซ้อมพร้อมกับเรียกความฟิตน่าจะนานโขอยู่

ในอดีตที่ผ่านมา ราชบุรี มิตรผล ไม่ค่อยมีประวัติการหลงทางกับโควตาผู้เล่นต่างชาติ และคราวนี้ก็เชื่อว่า "ราชันมังกร" น่าจะหาพาร์ทเนอร์ในเกมรุกของ สตีเว่น ลองจิล เข้ามาลุยในเลกสองได้อย่างเพียบพร้อมไปด้วยประสิทธิภาพอย่างแน่นอน