มีเสียงวิจารณ์เกิดขึ้นมากกับการเปลี่ยนระบบการเล่นของ แกเร็ธ เซาธ์เกต มาเป็น 3-4-3 ที่ใช้ติดต่อกันมาทุกเกม ไม่ว่าจะเจอทีมใหญ่หรือทีมเล็ก เกมเหย้าหรือเกมเยือน โดยปราศจากความยืดหยุ่น

อย่างในเกมสำคัญต่อการลุ้นชิงตั๋ว 'ไฟนอลโฟร์' ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่บุกแพ้ เบลเยียม 0-2 เซาธ์เกต จัดทัพโดยมีตัวรุกแค่สามคน นอกนั้นเป็นสามกองหลัง, สองวิงแบ็กที่เลือกใช้สองฟูลแบ็กธรรมชาติ บวกกับกองกลางตัวตัดเกมอีกสองคน รวมเป็นเจ็ด

ทิ้งแนวรุกเพียง เมสัน เมาท์, แจ๊ค กรีลิช และ แฮร์รี่ เคน เพียงสามคน ทั้งที่เป็นเกมที่ต้องการชัยชนะเพื่อโอกาสลุ้นจบอันดับหนึ่งของกลุ่ม

และระบบการเล่นดังกล่าวก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในเกมชนะ ไอซ์แลนด์ 4-0 ซึ่งไม่มีความหมายอะไรแล้ว เพียงแต่ขยับ เมสัน เมาท์ ลงไปยืนกลางแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่บาดเจ็บ และส่ง ฟิล โฟเด้น ลงมาปั้นเกมรุกกับ แจ๊ค กรีลิช ป้อนให้ แฮร์รี่ เคน

เท่ากับว่า มีตัวรุกเพิ่มมาอีกหนึ่งเป็นสี่ แต่ถ้ายึดตามระบบการเล่น มันก็ยังเป็นสามคนอยู่ดี

ประเด็นนี้คือสิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับ เซาธ์เกต ก่อนถึงศึกยูโร 2020 รอบสุดท้าย ในช่วงกลางปีหน้า

นาทีนี้ เซาธ์เกต โชคดีกว่ากุนซือคนก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็น รอย ฮ็อดจ์สัน, ฟาบิโอ คาเปลโล่, สตีฟ แม็คคลาเรน หรือ สเวน-โกรัน เอริคส์สัน เพราะมีทางเลือกเรื่องตัวผู้เล่นมากมาย ที่ปัจจุบันเรื่องฝีเท้าและเทคนิคไม่เป็นรองชาติใหญ่อื่นๆ แล้ว

โดยเฉพาะแนวรุกที่มี แฮร์รี่ เคน ศูนย์หน้าตัวเป้าเป็นตัวหลัก และบรรดามิดฟิลด์ตัวสูง, ปีก, กองหน้าริมเส้น หรือ กองหน้าตัวต่ำ ที่มีชอยซ์ให้เลือกใช้งานเพียบ

มาร์คัส แรชฟอร์ด, ราฮีม สเตอร์ลิง, เจดอน ซานโช่ คือสามตัวเลือกที่น่าจะได้รับโอกาสมากที่สุด แต่หลังจากผ่านโปรแกรมเดือนพฤศจิกายน ก็มี แจ๊ค กรีลิช, เมสัน เมาท์, ฟิล โฟเด้น เป็นสามตัวรุกที่มาแรงแซงโค้ง ชนิดที่ว่า เจมส์ แมดดิสัน อาจหาตำแหน่งในทีมชุดยูโร 2020 ไม่เจอ ขณะที่ เดเล่ อัลลี ก็มีโอกาสหลุดยาวๆ ต่อ และ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ กับ เมสัน กรีนวูด ก็น่าจะขึ้นยาก

นี่คือตำแหน่งที่ถือเป็นอาวุธเด็ดของ ทรี ไลออนส์ เลยก็ว่าได้ หากระบบการเล่นเอื้ออำนวยให้ส่งลงสนามได้หลายคนอย่าง 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 ที่ เซาธ์เกต เคยใช้มาก่อน

จากเกมกับ เบลเยียม กรีลิช คือนักเตะที่เล่นดีที่สุดของฝั่ง อังกฤษ และในเกมกับ ไอซ์แลนด์ คือ โฟเด้น จึงถือเป็นการก้าวสู่ทัพ ทรี ไลออนส์ ในช่วงเวลาที่เหมาะสมทีเดียวกับการเสนอตัวไปเล่นยูโร 2020 รอบสุดท้าย

เมื่อถึงเวลานั้น หาก เซาธ์เกต ยังคงพอใจและเลือกระบบการเล่น 3-4-3 หรือ 3-4-2-1 ต่อไป ผลที่น่าจะได้รับคือตัวเลขการครองบอลที่เหนือกว่าคู่แข่งเยอะ เพราะการผ่านบอลส่วนใหญ่อยู่ในแผงหลังกับกองกลาง

แต่พอขยับขึ้นมาสร้างเกมรุก ก็ต้องแลกกับการมีตัวเลือกน้อยลง โดยต้องหวังพึ่งการขึ้นเกมริมเส้นจากวิงแบ็กที่เป็นฟูลแบ็ก มากกว่าการมีปีกสร้างสรรค์โอกาสทั้งสองฟาก

โอกาสที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะพา อังกฤษ ไปได้สวยและไปได้ไกลในทัวร์นาเมนต์รายการสำคัญอย่าง ยูโร 2020 อาจไม่โชคดีเหมือน เวิลด์คัพ 2018 ก็เป็นได้