"แค่คุณเปลี่ยน โลกก็เปิด"
เกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกที่แมนยูไนเต็ดเปิดบ้านเอาชนะอิสตันบูล บาชัคเชเฮียร์ได้ 4ประตูต่อ1 นั้น ถือเป็นการเก็บชัยชนะสวยสดงดงามที่ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเลขสวยหรูอย่างเดียวเหมือนนัดก่อนๆที่แมนยูเคยยิงคู่แข่งได้เยอะๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแต่ประตูสวนกลับในยามที่เกมขาดแล้วเท่านั้น
แต่เกมนี้ 4ประตูมันเกิดขึ้นจากหลากหลายรูปแบบมากๆ ทั้งจากลูกเตะมุม บอลครอส จุดโทษ และเกมสวนกลับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทีมก็มีพัฒนาการในการเล่น และนัดนี้เป็นเกมที่คุณภาพในสนามของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อยู่ในระดับสุดยอดจริงๆ
ประเด็นสำคัญเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ จากการที่ทีมมีฟอร์มเกมบุกที่บ้าระห่ำ ส่วนหนึ่งนั่นเป็นเพราะการ "เปลี่ยนแปลง" ที่เกิดขึ้นในการจัดทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา อย่างชัดเจน มันคือประเด็นหลักของชัยชนะในวันนี้เลย
หากจะเปรียบเปรยให้เห็นภาพแล้วนั้น สำหรับนักกีฬาคงจะรู้กันดี และเป็นปรัชญาที่สามารถใช้ได้กับเรื่องทั่วๆไปในชีวิตประจำวันด้วยว่า หากคุณต้องการ "ผลลัพธ์ที่แตกต่าง" ออกไป คุณก็จำเป็นต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น
การที่ทำอะไรเหมือนเดิมๆ ซ้อมเหมือนเดิมๆ เล่นแบบเดิม จัดตัวจัดแผนซ้ำๆ ผลลัพธ์ของทีมมันก็จะไม่ต่างอะไรไปกว่าเก่าแน่นอน
วันนี้การเล่นที่ระเบิดถังขี้อิสตันบูลนั้น เกิดจากความเปลี่ยนแปลงที่ว่า อันเริ่มต้นมาจากบุคคลสำคัญอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แบบเต็มๆ ในเรื่องที่เขาเปลี่ยนแปลงเรื่องการจัดตัวผู้เล่นลงสนาม ด้วยการใช้นักเตะที่ดีที่สุดของทีมในการลงเป็น11ตัวจริง มากกว่าจะยึดแต่ตัวเดิมๆที่เล่นมาทุกนัด
เกมนัดนี้เราได้เห็น เอดินสัน คาวานี่ ลงเป็นตัวจริงสักที เช่นเดียวกันกับดอนนี่ ฟานเดอเบค ที่ได้มาลงกองกลางให้กับทีม และกับอเล็กซ์ เตลีส ในตำแหน่งแบ็คซ้ายที่ลงแทนชอว์ที่เจ็บไปอย่างต่อเนื่องเป็นเกมที่สอง
การเปลี่ยนแปลงแรกที่ว่าคือการเลือกนักเตะลงสนามของโอเล่ ที่เพียงแค่"เปลี่ยน"นิดเดียว ผลลัพธ์ก็ช่างแตกต่างจากนัดที่แล้วที่ชนะทีมเล็กอย่างWBAมาด้วยสกอร์แค่1-0แบบ Ugly win โคตรๆ กลายเป็นฟอร์มเทพและถล่มทีมในเลเวลของแชมเปี้ยนส์ลีกอย่างอิสตันบูล ที่ก็ไม่ได้เล่นแย่อะไร เล่นดีด้วยซ้ำ แต่เรากลับชนะพวกเขาได้ถึง 4-1
นอกจากเรื่องตัวนักเตะแล้ว ก็ยังเป็นเรื่องการจัดลงตำแหน่งในแต่ละจุดด้วย แม้กระทั่งนักเตะอย่างมาร์กซิยาลที่หลายๆคนรวมถึงผู้เขียนด้วย ค่อนข้างจะยี้ฟอร์มเค้าในช่วงนี้กับตำแหน่งหน้าเป้า แต่แค่โอเล่ย้ายเขามาอยู่ปีกซ้าย มาร์กซิยาลก็ดูจะดีกว่าตอนเล่นหน้าเป้าอย่างมาก แม้จะยังไม่ดีพอ แต่ก็เห็นข้อแตกต่างชัดเจน
การจะทำให้แมนยูไนเต็ดมีผลงานการเล่นที่ดีขึ้น แก้ไขจุดอ่อนบางจุด หรือทำให้นักเตะในทีมเล่นกันเป็นสับปะรดมากกว่าเดิมนั้น บางทีเราไม่จำเป็นต้องแก้ไขให้มันยากด้วยการต้องทุ่มทุนไปอัญเชิญผู้จัดการทีมเทพมาจากไหน หรือต้องซื้อนักเตะระดับ50-60ล้าน หรือ100ล้านเข้ามาทีมก็ได้
มันยากเกินไป
แต่เพียงแค่คุณเริ่มเปลี่ยนจากข้างในของตัวคุณเอง ด้วยการ "ปรับมุมมอง" ในการเลือกใช้นักเตะให้ถูกต้องของโซลชาเพียงเท่านั้น บิดนิดเดียว ส่งตัวที่ควรลงสนามมาเป็น11คนแรกอย่าง Telles, VDB และ Cavani ลงแทนพวกตัวเก่าๆอย่าง Shaw, Matic, Greenwood, Martial พวกนี้ แค่นั้นทีมก็ดีขึ้นเยอะแล้ว
เพราะเซนส์และคลาสของนักเตะมันจะไป "ดึง" กันเอง เวลาที่มีตัวเก่งๆลงมาในสนามเยอะๆ นักเตะก็จะชวนกันอัพฟอร์มการเล่นไปพร้อมๆกันด้วยคุณภาพ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ตัวกากๆลงมา ก็มักจะฉุดให้ตัวเก่งเล่นไม่มีประสิทธิภาพไปด้วย
มันไม่ยากเลย ก็แค่ส่งตัวที่เก่งที่สุดที่มีลงสนามให้ถูกตำแหน่ง แล้วปล่อยให้นักเตะเล่นกันอย่างเป็นธรรมชาติ ผลงานมันก็จะดีเหมือนที่เห็นในเกมนี้แล้ว
ก็ได้แต่หวังว่าเกมนี้มันจะเป็นเกมเบิกเนตรของโซลชาให้รู้สักทีว่า นักเตะคนไหนสมควรลงตัวจริง และนักเตะชุดไหน ที่แข็งแกร่งที่สุดของสโมสเรา ที่ควรจะส่งลงเล่นร่วมกันบ่อยๆ
ดังคำกล่าวที่เป็นสโลแกนของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เจ้าหนึ่ง ปรับคำพูดนิดหน่อยมันก็จะตรงกับเหตุการณ์ในวันนี้ทันที
"แค่คุณเปลี่ยน (การส่งนักเตะลงสนาม) โลกก็เปิด (ให้รู้ว่าจริงๆทีมเรามีศักยภาพสูงกว่าที่เห็นเยอะมาก แต่ดึงมาใช้ได้ไม่หมด)"
สำหรับสถิติที่เกิดขึ้นในเกมนี้นั้น มีหลายๆอย่างที่น่าสนใจมากๆ เริ่มจากสถิติของบรูโน่ แฟร์นันด์สในเกมนี้
ทำประตู : 2 ลูก [อันดับ1]
สร้างโอกาสทำประตู : 3 ครั้ง [อันดับ2]
โอกาสยิงทั้งหมด : 4 ครั้ง [อันดับ1]
ยิงเข้ากรอบ : 3 ครั้ง [อันดับ1]
ซึ่งในเกมบรูโน่โดดเด่นอยู่แล้ว ด้วยปริมาณที่ทำได้ตามตัวเลขนี้ และเรื่องของคุณภาพ ที่เขาเข้าไปในพื้นที่อันตรายได้บ่อยครั้ง เป็นเพราะว่ามี Alex Telles ที่คอยช่วยเปิดเกมรุกด้วยบอลครอสแทน ทำให้บรูโน่ไม่ต้องครองบอลสร้างสรรค์เกม แต่วิ่งฟรีเข้ามาทำประตูในfinal thirdได้เลยโดยตรงจำทำให้ยิงได้ถึง2เม็ด และโอกาสยิงช่วงท้ายครึ่งอีกนับไม่ถ้วน
หลังจบเกมทำให้บรูโน่มีสถิติ ลงให้แมนยูไปทั้งหมด 35นัด ซัดไปแล้ว 21ประตู ซึ่งสูงมากๆ และรวมแอสซิสต์อีก15 (ในทุกๆรายการ) ซึ่งสถิติทำประตูตรงนี้สูงมากเป็นระดับต้นๆของสโมสรไปแล้ว เมื่อมีรายงานว่าประตูที่20ของ Bruno Fernandes จากบรรดานักเตะที่ยิงได้ 20ประตูขึ้นไปของแมนยูนับตั้งแต่ปี1962 มีเพียงแค่ Ruud van Nistelrooy (0.68) กับ Denis Law (0.61) สองคนนี้เท่านั้นที่มีอัตราสัดส่วนการยิงประตูสูงกว่าบรูโน่ที่ (0.57)
ทั้งๆที่เขาเป็นนักเตะมิดฟิลด์ ไม่ใช่กองหน้าในตำนานเหมือนสองคนนั้นด้วยซ้ำ!
ในขณะที่สถิติของ Marcus Rashford หลังจากที่เกมนี้ยิงได้ มันทำให้เขากลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงในฟุตบอลยุโรปถึง 15ประตู ด้วยอายุ 23ปีกับ 24วัน ทำลายสถิติเดิมที่เจ้าของสถิติก็คือ Wayne Rooney นั่นเองที่ทำได้ตอนอายุ 23ปี กับ 47วัน
ยินดีด้วยเจ้าแรช ทำลายสถิติเสี่ยหมูเรียบร้อยแล้ว
สถิติของ Donny van de Beek กับ İstanbul Başakşehir ในครึ่งเวลาแรกนั้นมีดังนี้
ความแม่นยำในการจ่ายบอล 90%
สัมผัสบอลทั้งหมด 47 ครั้ง
แทคเกิลชนะ 2 ครั้ง
สร้างโอกาสยิง 1 ครั้ง
เคลียร์บอล 1 ครั้ง
การเล่นของฟานเดอเบคนั้นเข้าขั้นอัจฉริยะ และเล่นบอลฉลาดมากๆทั้งการจ่ายบอลแกะเพรสซิ่ง, ต่อบอลทำเกมรุก มันเนียนตาและเหนือชั้นมากๆ นักเตะประเภทนี้จะให้เล่นตรงไหนก็ได้ มีทั้งปริมาณและคุณภาพ ยังไงเขามีค่ามากกว่าการรอเป็นตัวละครลับ เพื่อสอดมายิงในกรอบท้ายเกมอย่างเดียวแน่นอน
นักเตะเกรดตัวจริงชัดๆ
สถิติของ Alex Telles
ครอสบอลทั้งหมด 11 ครั้ง
ครอสเข้าเป้า 4 ครั้ง
สร้างสรรค์โอกาสยิง 4 ครั้ง
เคลียร์บอล 2 ครั้ง
แทคเกิล 2 ชนะ 2
นี่คือคีย์แมนของชัยชนะและประตูของบรูโน่ในวันนี้เลย ทำให้เกมแมนยูหลากหลายแพรวพราว และคู่แข่งไม่สามารถสกัดกั้นลูกเปิดที่เข้ามากดดันประตู จนกระทั่งยิงได้2ลูกแรก มาจากบอลครอสและลูกเตะมุมของเตลีสล้วนๆ รวมถึงการเล่นตลอดทั้งเกมอีกมากมายด้วยความพยายามในภาคเกมรับ
ปิดท้ายด้วยสถิติของ Daniel James
นี่คือประตูแรกในชีวิตของเขาในUCL และเขายังทำประตูได้มากกว่า คิเลียน เอ็มบาปเป้ กับ เอเด็ง อาซาร์รวมกันในบอลยุโรปฤดูกาลนี้ (ฮา)
สุดท้ายนี้ก็ได้แต่หวังว่า การเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ยูไนเต็ดกลับกลายเป็นคนละทีมจากนัดที่แล้วที่เล่นห่วยพอๆกับทีมหนีตกชั้น มาวันนี้ระเบิดฟอร์มอัดทีมเลเวลแชมเปี้ยนส์ลีกซะหมดสภาพ ล้างแค้นทบต้นทบดอกได้อย่างหมดจด หวังว่าโอเล่จะรู้แล้วนะว่า "การเปลี่ยนแปลง" จากสิ่งเก่าๆ มันสร้างผลลัพธ์ได้แตกต่างขนาดไหน หากจะยังทู่ซี้ใช้ตัวเดิมๆลงเป็น11ตัวจริง ผลลัพธ์มันก็จะเหมือนปีที่แล้วนั่นแหละที่ฟอร์มขึ้นๆลงๆ และไปได้ไม่ไกลกว่าท็อป4แล้ว
หวังว่านี่จะเป็นสูตรที่โอเล่มองเห็น และจริงๆแล้วศักยภาพเต็มขีดจำกัดของจริงนั้น เรายังไปได้ไกลกว่าเกมชนะอิสตันบูลนี่ซะอีก เพราะนักเตะแต่ละคนในทีมเราชื่อชั้นไม่ธรรมดาทั้งนั้น ยังเก่งกว่านี้ได้อีกเยอะ และยังสามารถจะจัดทีมที่ดีที่สุด ได้ดีกว่า11ตัวจริงในเกมนี้ด้วย
หากเปลี่ยนแปลงวิธีคิดได้ โลกของโอเล่จะเปิดสู่ทางสว่าง แฟนบอลก็ไม่ต้องเชียร์กันอย่างมืดมนเหมือนที่ผ่านมา
-ศาลาผี-