:::     :::

10 วาทะจากยอดแข้งถึง 'เสือเตี้ย'

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2563 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
1,862
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
การจากไปของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานแข้งทีมชาติอาร์เจนติน่าสั่นสะเทือนไปทั่้งโลกไม่ใช่แค่เฉพาะในวงการลูกหนังเท่านั้น

แต่ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวงการไหนย่อมล้วนเคยได้ยินชื่อ "เสือเตี้ย" มานานในฐานะตำนานที่ยังมีชีวิต

การตายไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทุกคนต้องตายกันอยู่แล้ว แต่การเสียชีวิตอย่างกระทันหันต่างหากที่สร้างความตกใจและเศร้าใจกับแฟนลูกหนังอย่างมาก

การอำลาโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับของเขา แต่มรดกที่เขาสร้างเอาไว้ให้กับโลกใบนี้ โดยเฉพาะกับวงการฟุตบอลถือเป็นเรื่องที่น่าจดใจและน่าหลงใหลที่สุดครั้งหนึ่งของเกมลูกหนัง

เขานำความสุขที่แท้จริงมาสู่แฟนบอล เขาคือพระเจ้าของใครหลายคน ในขณะที่นอกสนามเขาใช้ชีวิตอย่างสุดโต่งทั้ง ดื่ม กิน เที่ยว รวมถึงยาเสพติด

แม้เขาจะจากไปแล้วแต่มั่นใจได้เลยว่าโลกจะไม่มีวันลืมเขาอย่างแน่นอน

วันนี้ย้อนกลับไปดู "วาทะ" ของเหล่าสุดยอดนักเตะที่มีต่อตำนานลูกหนังผู้นี้

ลิโอเนล เมสซี่ - กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า


น่าจะเป็นในคนที่คุ้นเคยกับ ดีเอโก้ มาราโดน่า มากกว่าใคร จากการเป็นเพื่อนร่วมชาติ เคยเป็นลูกทีมในทีมชาติอาร์เจนติน่า ย่อมมีโอกาสเจอกันไม่น้อย

แต่นักเตะที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ เคยออกมาบอกว่าต่อให้ตัวเองอยู่ค้าแข้งกับนานนัลบล้านปีก็ยังไม่อาจจะเทียบ "ตำนาน" ผู้นี้ได้

"ต่อให้ผมจะค้าแข้งอีกเป็นล้านปี ผมก็ไม่มีทางที่จะเทียบ มาราโดน่า ได้ และนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการด้วย เขาคือนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลย"

มิเชล พลาตินี่ - ตำนานนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส


เจ้าของตำแหน่งบัลลง ดอร์ 3 สมัย, ตำนานนักเตะของ ยูเวนตุส และขุนพลทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์ยูโร 1984  และอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 1986 ที่ปีนั้น ดีเอโก้ มาราโดน่า พาทัพ "ฟ้า-ขาว" ไปถึงตำแหน่งแชมป์

มิเชล พลาตินี่ เป็นอีกคนที่น่าจะพอคุ้นเคยกับ ดีเอโก้ มาราโดน่า กับการเจอกันตลอดช่วงหลังปีในกัลโช่ เซเรีย อา สมัยที่ "เสือเตี้ย" ค้าแข้งกับ นาโปลี ที่ที่เขาพาทีมหักด่านพาทีมดังจากเมืองเนเปิ้ลส์จากสโมสรธรรมดาให้ไปถึงตำแหน่งแชมป์

สิ่งที่ ซีดาน ทำได้กับลูกบอล, มาราโดน่า สามารถทำได้เช่นกันกับผลส้ม" พลาตินี่ เคยเอ่ยเอาไว้

ถ้ามองแค่ว่า ซีเนดีน ซีดาน เป็นนักเตะที่เก่งแค่ไหน กับการเปรียบเทียบแบบนี้ของ พลาตินี่ คงไม่ต้องบอกว่า มาราโดน่า ถูกยกย่องให้เหนือกว่าแค่ไหน

แกรี่ ลินิเกอร์ - อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ

        

อดีตดาวยิงทัพสิงโตคำรามที่อยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกับ ดีเอโก้ มาราโดน่า แถมยังเคยนั่งสัมภาษณ์กันตัวเป็นๆมาแล้ว

หรือจะบอกว่าเขาคือคู่แข่งโดยตรงของ "เสือเตี้ย"ที่ฟาดฟันกันในฟุตบอลโลก 1986 ที่ได้เกมนั้น แกรี่ ลินิเกอร์ ทำ 1 ประตู แต่ลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ 1-2 เพราะ มาราโดน่า ทำ 2 ประตู

ต้องบอกว่า 2 ประตูอันเป็นตำนานที่ทุกวันนี้ยังคงได้รับการพูดถึงคือ "หัตถ์พระเจ้า" กับอีกลูกที่พาบอลลากเลื้อยครึ่งสนามหนีแข้ง "สิงโตคำราม" รวมถึง ปีเตอร์ ชิลตัน เข้าไปทำประตู

"ตอนที่ ดีเอโก้ ทำประตูที่สองใส่ทีมเรา ผมรู้สึกอยากจะปรบมือกับให้กับเขา ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อน แต่มันเป็นเรื่องจริง..."

"ไม่ใช่แค่เพราะว่ามันเป็นเกมสำคัญเท่านั้น แต่มันยังเป็นประตูที่น่าเหลือเชื่อและสวยงามอย่างมาก เขาคือนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาล เป็นปรากฎหารณ์อย่างแท้จริง"

ฟาบิโอ คันนาวาโร่ - ตำนานกองหลังทีมชาติอิตาลี


เด็กหนุ่มที่เติบโตขึ้นมาในฐานะแข้งดาวรุ่งของ นาโปลี มีโอกาสได้สัมผัสตัวเป็นๆของ ดีเอโก้ มาราโดน่า สมัยที่ค้าแข้งกับสโมสร

แน่นอนว่าอิทธิพลที่ได้รับ ความยอดเยี่ยมของ "เสือเตี้ย" ย่อมแผ่ออกไปจนถึงทุกหมู่เหล่าของสโมสรไม่เว้นแม้แต่เด็กเยาวชน

"มาราโดน่า คือพระเจ้าของชาวเนเปิ้ลส์, มาราโดน่า เข้ามาเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์สโมสร ตลอด 80 ปี เราเจ็บปวดมาตลอด และต้องต่อสู้กับการหนีตกชั้น"

"แต่ 7 ปีที่เมีเขา เราคว้าแชมป์ลีกสองครั้ง, ยูฟ่า คัพ, อิตาเลียน คัพ สองครั้ง, ผมเองก็เป็นแฟนตัวยงของเขาเช่นกันและการได้ใช้ชีวิตร่วมกับ มาราโดน่า หลายปีที่นั่นเป็นอะไรที่น่ามหัศจรรย์อย่างมาก" 

" การได้สัมผัสบรรยากาศในสนามตอนที่พวกเขาได้สคูเด็ตโต้มันเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดจริง"

โชเซ่ มูรินโญ่ - กุนซือคนดัง


โชเซ่ มูรินโญ่ ขึ้นชื่อเรื่องการใช้ฝีปากในการเล่นงานคู่แข่ง และวาทะในแต่ละครั้งของเขาที่ออกมามักจะเรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย

แน่นอนว่าในฐานะกุนซือคนดังที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของวงการลูกหนัง เขาย่อมเคยพบปะกับ ดีเอโก้ มาราโดน่า และก็แน่นอนเคยพูดถึงเช่นกัน

"ตอนเขามีบอลอยู่กับเท้า คุณไม่มีทางรู้หรอกว่า เขาจะไปจบที่ไหน และบอลมันเริ่มต้นจากตรงไหน" 

เอริก คันโตน่า - ตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


อีกหนึ่งพ่อค้าแข้งที่มีวาทะไม่ธรรมดาหลังเคยบอกนักข่าวหลังกระโดดถีบแฟนบอล คริสตัล พาเลซ ว่า "เมื่อนกนางนวลบินตามเรือหาปลา เพราะพวกมันคิดว่าปลาซาร์ดีนจะถูกโยนลงทะเล" มาแล้ว

แน่นอนกับการเปรียบเทียบระหว่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า กับ เปเล่, "ก็องโต" ก็มีคำพูดที่น่าสนใจเช่นกัน

    "บางคนบอกว่า เปเล่ เป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่สุดตลอดกาล แต่ไม่ใช่ผม, มาราโดน่า ยิ่งใหญ่ที่สุดเสมอ"

"เขาได้แชมป์ฟุตบอลโลก 1986, แพ้ในรอบชิงชนะเลิศในปี 1990 และหลังจากนั้นในปี 1994 เขาก็อาจจะได้แชมป์อีกครั้ง หากไม่ถูกแบน (เรื่องใช้สารกระตุ้น)" 

"ความแตกต่างอย่างมากระหว่าง เปเล่ กับ มาราโดน่า คือ มาราโดน่า ไม่ได้มีเพื่อนร่วมทีมชั้นยอดอยู่รายล้อม เขาแบกทีมทั้งทีมด้วยตัวเอง"

"ถ้าคุณเอา มาราโดน่า ออกจากทีมชาติอาร์เจนตินา พวกเขาไม่มีทางได้แชมป์โลกแน่ แต่ผมคิดว่า บราซิล ที่ปราศจาก เปเล่ พวกเขายังดีพอคว้าแชมป์" 

เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน - ตำนานกุนซือชาวอังกฤษผู้ล่วงลับ 

       

ตำนานผู้จัดการทีมชาวอังกฤษผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งงในยอดฝีมือที่ได้รับการยอมรับในวงการ ถึงแม้ว่าช่วงค้าแข้งจะไม่ได้ประสบความสำเร็จก็ตาม

ถึงแม้ว่าจะไม่เคยร่วมงานกันแต่ "ปู่บ็อบ" คือกุนซือทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลก 1986 ที่แพ้ให้กับ อาร์เจนติน่า จากสองประตูของ ดีเอโก้ มาราโดน่า

"เขาคืออัจฉริยะ, ศิลปินลูกหนังอย่างแท้จริง, หนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เขาคือคนที่สามารถพาทีมคว้าชัยชนะด้วยตัวเอง ด้วยเท้าของเขา"

จานฟรังโก้ โซล่า - อดีตเพื่อนร่วมทีมนาโปลี

        

จานฟรังโก้ โซล่า ย้ายมาร่วมทีม นาโปลี ในปี 1989 และได้ร่วมทีมกับ ดีเอโก้ มาราโดน่า สองซีซั่นก่อนที่ "เสือเตี้ย" จะย้ายออกจากถิ่นซาน เปาโล 

ในเวลานั้นมีเหตุการณ์ที่เจ้าตัวติดโทษแบนยาว 15 เดือนจากปัญหาเรื่องใช้สารเสพติด ก่อนจะไปเล่นกับ เซบีย่า ในสเปน ซึ่งทาง โซล่า ได้รับการสืบทอดเสื้อหมายเลข 10 ต่อจาก มาราโดน่า นี่เอง

  "ผมโชคดีมากๆ ที่เคยเป็นเพื่อนร่วมทีมของเขาและได้ดูเขาฝึกซ้อมในทุกๆวัน ทุกอย่างที่เขาทำ มันเป็นสิ่งที่ไม่เหมือนใคร"

"ยามอยู่นอกสนาม ผมชอบความเรียบง่ายของเขา เขาทำตัวธรรมดาๆ เหมือนเพื่อนร่วมทีม เขาไม่เคยวางตัวเองเป็นซูเปอร์สตาร์ดังเลย" 

รุด กุลลิท - ตำนานของ เอซี มิลาน และทีมชาติฮอลแลนด์


รุด กุลลิท เป็นอีกคนที่เคยปะทะแข้งกับ ดีเอโก้ มาราโดน่า โดยตรงสมัยที่เผชิญหน้ากันในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี

แน่นอนว่านี่คือคู่แข่งที่ขับเคี่ยวกันอย่างหนักในการแย่งแชมป์สคูเด็ตโต้กันโดยตรงเลยในช่วงที่ "เสือเตี้ย" อยู่กับ นาโปลี

"นี่คือนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา, เหนือกว่า เปเล่, ผมเฝ้าดูฟอร์มของเขาอย่างใกล้ชิดที่อิตาลีในทุกๆสัปดาห์ เขาอยู่ในระดับที่เหนือกว่าทุกคน"

"บางอย่างที่เขาทำมันเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมาก เขาสามารถคอนโทรลลูกบอลโดยที่ไม่ต้องมอง ซึ่งนั่นหมายความว่าถ้ามีคนผ่านบอลมาให้ เขาสามารถรับมันได้"

เปาโล มัลดินี่ - ตำนานแข้งของ เอซี มิลาน และทีมชาติอิตาลี


เปาโล มัลดินี่ น่าจะเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้เผชิญหน้ากับ ดีเอโก้ มาราโดน่า มากที่สุดคนหนึ่งของโลกตลอดช่วงเวลาที่ค้าแข้งในอิตาลี

ตำนานนักเตะ เอซี มิลาน ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของทีมในปี 1984 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ มาราโดน่า ย้ายมาเล่นในแดนรองเท้าบู๊ตพอดี แม้ในปีแรกนั้นจะไม่ได้เป็นตัวหลัก แต่นับตั้งแต่ปี 1985 เข้าก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีม และแน่นอนว่ามันคือ 6 ปีที่ขับเคี่ยวกันอย่างสนุก

"ดีเอโก้ มาราโดน่า ไม่ใช่แค่เป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นคนที่มีพฤติกรรมดีเยี่ยมอีกด้วย เขาคือต้นแบบของคนที่ทำตัวดีในสนาม"

"เขาให้ความเคารพต่อทุกคน ไล่ตั้งแต่นักเตะชั้นยอดไปจนถึงแข้งธรรมดาๆ เขามีความพยายามอยู่เสมอและไม่เคยบ่น - ต่างจากผู้เล่นกองหน้าบางคนในทุกวันนี้" 

และสุดท้าย ดีเอโก้ มาราโดน่า พูดถึงตัวเอง

        

    "ผมทำงานหนักมาตลอดชีวิตเพื่อสิ่งนี้ ใครก็ตามที่บอกว่าผมไม่สมควรได้รับอะไรเลยสักอย่าง ทุกอย่างผมได้มาอย่างง่ายดาย ก็ไปตายซะ"

แม้ตัวจะจากไป แต่ตำนานของ ดีเอโก้ มาราโดน่า จะคงอยู่ตลอดกาล


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด