ที่หลายคนตกใจยิ่งกว่าก็คือ ควีวีน เคลเลเฮอร์ เพิ่งจะโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชุดยู 23 ถล่มตาข่ายถึง 7 ลูกในเกมเยาวชนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาอีกต่างหาก คุณว่า คล็อปป์ ใจกล้าบ้าบิ่นดีมั้ยล่ะครับ ที่เลือกเด็กคนนี้ลงตัวจริงบนเกมที่มีผลต่อการเข้ารอบถ้วยยุโรปแบบนี้
แต่ก่อนที่เราจะไปหาเหตุผลในการเลือก เคลเลเฮอร์ ของ คล็อปป์ ผมขอพาคุณๆ ไปทำความรู้จักนายทวารมือกาวดาวรุ่งคนนี้ก่อนนะครับ ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน และมีดีอะไร ทำไมตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับทีมเขาถึงไม่เคยถูกปล่อยยืมไปเล่นที่อื่นเลยสักครั้ง
ควีวีน เคลเลเฮอร์ คำว่า Caoimhin ที่เป็นชื่อต้นของเขานั้น อ่านออกเสียงได้ว่า "Kwee-Veen" ซึ่งในภาษาไอริชก็มีการออกเสียงคล้ายกับคำว่า "Kevin" ในภาษาอังกฤษนั่นแหละครับ
เคลเลเฮอร์ เกิดที่ คอร์ก เป็นชาวไอร์แลนด์ และเพิ่งจะอายุครบ 22 ปีไปเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี่เอง เขาเป็นน้องชายของ ฟิอาเกอร์ เคลเลเฮอร์ กองหลังของทีม เร็กซ์แฮม โดยตัวของ ควีวีน นั้น เริ่มต้นเล่นกับทีมเยาวชนของทีม ริงมาฮอน เรนเจอร์ส แถมสมัยที่เพิ่งเล่นฟุตบอลใหม่ๆ เขายังเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้าอีกด้วย
"เขาเคยเล่นกองหน้าให้เรามาตลอดในทีมเยาวชน ควีวีน ยิงได้ 20-30 ประตูต่อฤดูกาลเลยนะ บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงอ่านการทำประตูจากกองหน้าคู่แข่งได้ดีก็เป็นได้"
เอ็ดดี้ แฮร์ริงตัน อดีตโค้ชของ ริงมาฮอน เล่าให้เว็บไซต์ คอร์ก เอคโค่ ฟังหลังจาก เคลเลเฮอร์ โชว์ฟอร์มในเกมยุโรปได้อย่างน่าทึ่งเมื่อคืนก่อน
เคลเลเฮอร์ เล่นกองหน้าและมีฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมเอาเรื่องเลยนะครับ ก่อนที่เขาจะถูกจับมาเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูตอนอยู่ในทีม ยู15 ของ ริงมาฮอน ซึ่งนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็เอาดีกับการเป็นนายทวารมาโดยตลอด แฮร์ริงตัน เล่าเสริมว่า “ตอนนั้น เคลเลเฮอร์ เพิ่งจะอายุแค่ 14 และเป็นดาวซัลโวของทีม ในวันหนึ่ง ทีมของเราผู้รักษาประตูได้รับบาดเจ็บจนหมด ผมกลุ้มมากว่าจะทำยังไงดี จู่ๆ พ่อของเขาก็บอกกับผมว่า ทำไมไม่ลองเอา เคลเลเฮอร์ ไปเล่นประตูดูล่ะ เขาเล่นได้นะ ผมถามกลับไปว่าจะบ้าเหรอ นั่นดาวซัลโวของทีมเลยนะ พ่อของเขาก็อธิบายต่อ ว่าเขาเคยให้ เคลเลเฮอร์ เล่นประตูมาแล้วตอนถ้วย เคเนดี้ คัพ เขาบอกว่าลูกชายเขาเล่นประตูดีไม่แพ้กองหน้าเลย ผมจึงลองทำตามที่เขาแนะนำเพราะไม่มีตัวเลือกจริงๆ สุดท้าย นับตั้งแต่วันนั้น ควีวีน เคลเลเฮอร์ ก็ไม่เคยกลับไปเล่นศูนย์หน้าอีกเลย”
ช่วงที่ เคลเลเฮอร์ กำลังจะย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล นั้น เขาได้รับความสนใจจากทั้ง แอสตัน วิลล่า และ แบล็คเบิร์น อยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูล คือตัวเลือกที่ เคลเลเฮอร์ ปฏิเสธไม่ลง แม้จะรู้ตัวดีว่าอาจเป็นแค่มือ 3 หรืออาจได้รับโอกาสน้อยมากก็ตาม
เรื่องน่าสนใจนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่ แอนฟิลด์ ก็คือ เคลเลเฮอร์ คือตัวเลือกที่อยู่ในสายตาของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เสมอมา เขาไม่เคยถูกปล่อยยืมเพื่อไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ข้างนอกเลยสักครั้ง อย่างในตอนเดือกมกราคมที่ผ่านมา มีหลายทีมในแชมเปี้ยนชิพสนใจขอยืม แต่สุดท้าย คล็อปป์ ก็ไม่ปล่อยไปไหน ขณะเดียวกันนายใหญ่ชาวเยอรมันกลับเลือกปล่อย คามิล กราบาร่า นายทวารฝีมือดีตัวทีมชาติโปแลนด์ ชุด ยู21 ออกไปเล่นที่อื่นแทนแบบไม่คิดอะไรเยอะ นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เคลเลเฮอร์ มีความสำคัญในสายตาของ คล็อปป์ มานานแล้ว
หนำซ้ำ เขายังถูกใส่ชื่อไว้บนม้านั่งสำรองบนเกมสำคัญๆ อยู่เป็นประจำ อย่างเช่นที่หลายคนคงหลงลืมไปแล้วว่าเกมนัดชิงกับ สเปอร์ส ในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2019 เคลเลเฮอร์ ก็มีชื่อเป็นประตูสำรองต่อจาก ซิมง มิโญเล่ต์ ด้วยนะครับ
เคลเลเฮอร์ ได้รับโอกาสประเดิมสนามตัวจริงเกมแรกให้ ลิเวอร์พูล ก็คือในเกมที่พบกับ มิลตัน คีย์น ดอนส์ บนถ้วยลีก คัพ เมื่อปี 2019 โดยสามารถเก็บคลีนชีตได้สบายๆ แต่ไฮไลท์นึงของ เคลเลเฮอร์ ที่ทำให้แฟนหงส์แดงเริ่มจดจำชื่อของเขาได้ คงเป็นเกมที่เขาสวมบทฮีโร่เซฟจุดโทษ ดานี่ เซบายอส พาทีมผ่านเข้ารอบในรอบต่อมานั่นเอง
"ผมไม่มีอะไรจะเสีย นอกจากเซฟจุดโทษให้ได้และทำตัวเป็นฮีโร่ของทีม" เคลเลเฮอร์ พูดถึงเคล็ดลับในเกมวันนั้น ซึ่งนอกจากจะเซฟจุดโทษได้แล้ว เขายังพุ่งถูกทางถึง 4 จาก 5 ลูกที่ดวลจุดโทษกับเจ้าปืนโตอีกด้วย
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ชื่อของ ควีวีน เคลเลเฮอร์ ก็เริ่มเข้าไปอยู่ในการรับรู้ของ เดอะ ค็อป แบบจางๆ ก่อนจะเริ่มชัดเจนขึ้นก็ในเกมกับ อาแจ๊กซ์ เมื่อคืนก่อนนี่เอง
"ผมเพิ่งรู้ตัวว่าจะได้ลงตัวจริงเมื่อวันจันทร์นี่เอง ผมตื่นเต้นมากตอนที่รู้ แต่หลังจากนั้น ผมก็พยายามโฟกัสกับเกมที่จะถึงอย่างเดียว"
ส่วน เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้อธิบายถึงเหตุผลที่เลือกใช้ เคลเลเฮอร์ ก่อน อาเดรียน เอาไว้ให้เราฟังว่า
"มันเป็นการตัดสินใจที่ยากมากที่จะไม่ใช้งาน อาเดรียน เพราะว่าเขาทำได้ดีมาตลอด เขาเก็บคลีนชีตได้มากมาย เขามีเกมยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ที่น่าทึ่ง แต่ในค่ำคืนนี้ผมต้องการใช้ ควีวีน เพราะเขามีพรสวรรค์สูง เซฟประตูได้ดี ผมต้องการใช้เขาเพราะการเพรสซิ่งของ อาแจ็กซ์ เราต้องการให้เขาชิพบอลไปในพื้นที่ว่างจากระหว่างพื้นที่ที่ อาแจ๊กซ์ เข้าเพรสซิ่ง"
"นั่นคือส่วนหนึ่ง แต่แน่นอนว่าท้ายที่สุดแล้วมันเกี่ยวกับการป้องกันประตู เขามีการยืนตำแหน่งและมีการเซฟที่ยอดเยี่ยม อย่างน้อยๆ 2 ครั้งในเกมนี้ ผมมั่นใจว่าเขาจะนอนหลับฝันดี หรืออาจจะตื่นเต้นจนหลับไม่ลงเลยก็ได้ในคืนนี้"
จุดสำคัญที่น่าสนใจจากคำให้สัมภาษณ์ของ คล็อปป์ ก็คือเรื่องการผ่านบอลครับ แน่นอนว่าด้วยพื้นฐานของ เคลเลเฮอร์ ที่เคยเล่นกองหน้ามาก่อน ดังนั้นเขาจึงถือเป็นประตูที่สามารถใช้เท้าเล่นกับลูกฟุตบอลได้เก่งมาก ยกตัวอย่างสถิติการจ่ายบอลสำเร็จในเกมกับ อาแจ๊กซ์ นั้น เคลเลเฮอร์ มีเปอร์เซ็นต์สูงถึง 71% ขณะที่ อาเดรียน อยู่ที่ค่าเฉลี่ย 65% จากการลงสนามในฤดูกาลนี้
นั่นจึงทำให้สื่อและแฟนบอลเริ่มลุ้นอีกครั้งว่าในเกมพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้ คล็อปป์ จะเลือกใครลงสนามแทน อลิสซอน ที่บาดเจ็บ เพราะถ้าเลือกประสบการณ์ อาเดรียน มีมากกว่าเยอะ แต่ถ้าเลือกความสด ความกระหาย เคลเลเฮอร์ ดูท่าว่าจะมีภาษีดีกว่าค่อนข้างสูงแม้จะยังไม่เคยเล่นในเกมลีกมาก่อนก็ตาม
"ผมทำงานหนักมาตลอดเพื่อรอโอกาส และถ้าโอกาสมาถึง ผมจะคว้ามันไว้อีกครั้ง"
ผลลัพธ์จากการทำงานหนักนั้น ไม่เคยไม่อยู่ในสายตาของคนอย่าง คล็อปป์ และจากฟอร์มในเกมล่าสุดนั้น ก็มีแนวโน้มสูงเหลือเกินว่านายทวารตัวจริงบนเกมที่พบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน นั้น อาจเป็นชื่อของ ควีวีน เคลเลเฮอร์ ก่อน อาเดรียน อีกครั้งก็เป็นได้
