:::     :::

ทิ้งโอกาส

วันศุกร์ที่ 04 ธันวาคม 2563 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
1,483
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ความพ่ายแพ้คารัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หมายถึง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องไปลุ้นเหนื่อยในนัดสุดท้ายกับ แอร์เบ ไลป์ซิก สัปดาห์หน้า โดยมีตั๋วรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นเดิมพัน

แม้หลายอย่างยังคงเป็นใจโดยเฉพาะทางเลือกของผลการแข่งขันที่ออกหน้าเสมอหรือชนะก็ได้ แต่การออกไปเยือน ไลป์ซิก ถึงเยอรมนี จะเป็นงานที่หนักหน่าสาหัสอย่างแน่นอน

อย่างที่ทราบ ไลป์ซิก เป็นทีมที่เล่นในรังตนเองได้ดีและพร้อมล้างตาเอาคืน ปิศาจแดง ที่เคยถล่มพวกเขาแบบยับเยินในการดวลกันเกมแรก

อีกทั้งยังมีตั๋วรอบต่อไปของ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นเดิมพัม ส่งผลให้เกมที่ เรด บูลล์ อารีน่า พร้อมเดือดและลุกเป็นไฟตั้งแต่นาทีแรก

จะว่าไปแล้วก่อนลงสนามที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด กุมความได้เปรียบอย่างมาก เพราะหากพวกเขาไม่แพ้ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ก็จะตีตั๋วลอยลำทันที

แต่เกมที่ โรงละครแห่งความฝัน กลับกลายเป็น เปแอสเช ที่ทำได้ดีกว่ามากในช่วง 13 นาทีแรก ทีมเยือนจากฝรั่งเศสครองบอลได้มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ และมีโอกาสสับไก 3 ครั้ง (ตรงกรอบ 2) พร้อมนำมาซึ่งประตูออกนำของแชมป์ลีก เอิง





ใครที่ชมเกมถ่ายทอดสดคงทราบดีว่าช่วงต้นเกม ปิศาจแดง โงนเงนเหมือนคนเมาหมัดที่โดน เปแอสเช โถมใส่อย่างบ้าคลั่ง และเพียง 6 นาทีทีมก็กลายเป็นฝ่ายตามหลังจากการยิงของ เนย์มาร์

ความกังวลเริ่มเข้ามาเกาะกุมเพราะนักเตะผีแดงเล่นเกมของตัวเองไม่ได้ กว่าจะมีโอกาสสับไกตรงกรอบหนแรกต้องรอจนถึงนาที 16 ในจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ลากตัดจากขวายิงด้วยซ้ายตรงตัว เกย์ลอร์ นาวาส

นั่นคือจังหวะจะแจ้งหนแรกของ ปิศาจแดง กระนั้นมันกลายเป็นจุดเริ่มต้นของพวกเขาในการพลิกสถานการณ์ตกเป็นรองให้ค่อยๆ เดินเกมและเดินหน้าสร้างโอกาส พลางหาช่องเจาะเล่นงานทีมเยือนจนนาทีที่ 32 มาตีเสมอจากลูกยิงแฉลบของ แรชฟอร์ด

ถือเป็นผลงานและเครดิตของ แรชฟอร์ด อีกครั้ง เท่ากับว่าการเจอกับ เปแอสเช 4 เกมที่ผ่านมาเขาทำประตูใส่ทีมดังของแดนน้ำหอมได้ถึง 3 เกม

ที่น่าสนใจไปกว่านั้น นับตั้งแต่การยิงตรงกรอบครั้งแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในนาทีที่ 16 หลังจากนั้นลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พลิกสถานการณ์ในเกมทั้งการครองบอลและสร้างโอกาส เพราะหากไปดูสถิติตั้งแต่นาทีที่ 20 ปิศาจแดง ครองเกมมากกว่า 62 เปอร์เซ็นต์พร้อมกับยิงตรงกรอบถึง 3 ครั้งด้วยกัน





เรียกได้ว่าเกมในครึ่งแรกทั้งสองทีมต่างสร้างโอกาสและหาจังวะของตัวเองเพื่อการเล่นงานฝ่ายตรงข้าม ซึ่งส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายได้ประตูไปฝั่งละลูก

เกมครึ่งหลังไม่ต่างกันมากนัก แต่ละทีมต่างมีโอกาสเข้าทำในการออกนำ โดยเฉพาะ ผีแดง ที่ได้จังหวะปล่อยทีเด็ดในจังหวะสวนกลับแบบจังเบอร์ถึงสองครั้ง แต่ลูกยิงจ่อๆ ของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กลับข้ามคานแบบไม่น่าเชื่อ

ตอนดูถ่ายทอดสดทีแรกคิดว่าบอลโดนกองหลัง เปแอสเช บล็อกข้ามคานออกไป แต่พอภาพช้าปรากฏว่าเป็นหอกเลือดน้ำหอมของผีแดงหวดข้ามคานออกไปเอง

จังหวะดังกล่าวสมควรเป็นประตูอย่างมากเพราะมันคือโอกาสแบบจะแจ้งที่ 'ต้อง' บวกสกอร์ให้ทีมแซงนำ แต่ก็ดันทิ้งโอกาสไปแบบน่าเขกกะโหลก

เท่านั้นไม่ นาทีที่ 57 เอดินสัน คาวานี่ ชิปบอลอย่างสวยข้ามหัว นาวาส ไปแล้ว แต่ดันตกลงบนคานประตู แม้ทาง มาร์กซิยาล จะพยายามซ้ำแต่ก็ติดบล็อก มาร์กินโญส





เป็นสองจังหวะสำคัญที่ ผีแดง ควรจะออกนำและเป็นฝ่ายกุมสถานการณ์ของเกมเอาไว้ แต่สิ่งนั้นไม่เกิดขึ้นและต้องมาโดนออกนำอีกครั้งจากผลงาน มาร์กินโญส

ณ ตอนนั้นสถานการณ์ยังถือว่าไม่แย่เท่าไหร่ ถึงแม้จะโดนนำอีกครั้งแต่รูปเกมถือว่ายังคงสร้างความปั่นป่วนให้ เปแอสเช ได้ต่อเนื่อง ทว่าทุกอย่างกลับกลายเป็นงานช้างและยากยิ่งกว่าการเข็นครกขึ้นภูเขา หลังจาก เฟร็ด โดนใบแดงในนาทีต่อมา

เกิดข้อถกเถียงมากมายกับจังหวะฟาวล์ของ เฟร็ด ที่เข้าสกัด อันเดร์ เอร์เรร่า แม้ว่าภาพช้าจะเห็นว่ากองกลางบราซิลจะจิ้มถึงบอลก่อน แต่ผู้ตัดสินจากอิตาลียังคงยืนกรานเป็นจังหวะฟาวล์พร้อมแจกเหลืองสองให้กับมิดฟิลด์เบอร์ 17

รูปเกมเปลี่ยนไปทันที ด้วยสกอร์และผู้เล่นที่ตามหลังส่งผลให้งานของ ปิศาจแดง ยากยิ่งกว่าเดิม กลายมาเป็น เปแอสเช อาศัยจังหวะสวนกลับจาก เนย์มาร์ และ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ เล่นงาน และอย่างที่ทราบเมื่อทีมมาโดนประตูฝัง 1-3

ถือเป็นการทิ้งโอกาสในการเข้ารอบต่อไปของ แมนฯ ยูไนเต็ด และมันหมายถึงการบุกไปเยือนเยอรมนีสัปดาห์หน้าพวกเขาต้องไม่แพ้กลับออกมา





นั่นคือเป้าหมายสำคัญของ โซลชา และลูกทีมในการบุกไปคว้าผลการแข่งขันที่ต้องการกลับออกมาจาก ไลป์ซิก และมันคือโอกาสสุดท้ายในการจะได้ไปต่อหรือหยุดอยู่แค่รอบแบ่งกลุ่มของพวกเขา

หากมองในแง่ดี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงได้เปรียบในเรื่องของทางเลือกสกอร์ที่ออกมาเสมอก็เพียงในการเข้ารอบต่อไป แถมสถิติการเล่นเกมเยือนของพวกเขาก็ยอดเยี่ยม ซึ่งคงพอให้แฟนบอลอุ่นใจได้บ้าง

กระนั้นการเดิมพันที่สูงที่เช่นนี้ ฝ่ายตรงข้ามก็พร้อมเปิดหน้าแลกแบบไม่มีทางเลือก และมันจะทำให้ตลอด 90 นาทีของเกมสัปดาห์หน้าเต็มไปด้วยความระอุและลุ้นระทึกแบบที่แฟนบอลคงละสายตาไม่ได้

โอกาสที่เพิ่งทิ้งไปของ ปิศาจแดง อาจจะไม่สูญเปล่าไปเสียทีเดียว แต่นั่นมันขึ้นอยู่กับว่าผลการแข่งขันใน ไลป์ซิก สัปดาห์ต่อไปจะออกมาเช่นไร

สุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้ไปต่อหรือหยุดอยู่แค่นี้ อีกไม่นานคงได้ทราบกัน



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด