ทำให้ทีมดังจากฝั่งคลองเตย มีเพิ่มเป็น 31 คะแนนแล้ว พวกเขาเหลือแค่การเก็บอีกเพียงแต้มเดียวเท่านั้น จะทะยานไปสู่การเล่นใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 รอบแบ่งกลุ่ม แบบอัตโนมัติ ซึ่งจะถือเป็นทีมที่ 2 ต่อจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีกเลกแรกอีกด้วย
อาจจะพูดได้ว่าการที่ “มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี เลือกเปลี่ยนกุนซือ จาก “เซอร์เด็จ”จเด็จ มีลาภ มาเป็น “โค้ชอู๊ด”สระราวุฒิ นั้น เป็นการเปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสอย่างแท้จริง
การท่าเรือ เอฟซี เริ่มต้น 6 เกมแรก ด้วยการมีเพียงแค่ 10 คะแนน แถมตอนนั้นอยู่ในภาวะที่หลายคนมองว่า คงจะเป็นอีกครั้งที่การลงทุนเสียเปล่า ไม่น่าทำให้พวกเขาได้ไปเล่นในถ้วยใหญ่เอเชีย หลังเพิ่งผิดหวังมาเมื่อต้นปี ด้วยการแพ้ เซเรส เนกรอส จากฟิลิปปินส์ (ปัจจุบันคือ ยูไนเต็ด ซิตี้ เอฟซี) คาถิ่น รอบเพลย์ออฟ รอบสอง
ทว่าด้วยปรัชญาในการทำทีมของกุนซือดีกรี โปร ไลเซนส์ ที่เข้าใจนักเตะ และรูปแบบการซ้อมที่ไม่ซ้ำซากหรือจำเจเกินไปของ “โค้ชอู๊ด” ยิ่งไปกว่านั้นยังให้ผู้เล่นได้มีโอกาสพูดคุย แลกเปลี่ยน ทำให้เป็นการพังทลาย “ช่องว่าง” ที่ขวางอยู่ในจิตใจของแต่ละคนลงไปได้อย่างราบคาบ
เอาเฉพาะในไทยลีก 2020-2021 นับตั้งแต่ที่ “โค้ชอู๊ด” ได้ลงมือบัญชาเกมเอง ชนะ ตราด เอฟซี 3-2 (ย), ชนะ ระยอง เอฟซี 7-2 (ย), ชนะ พีที ประจวบ เอฟซี 2-1 (ห), ชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-0 (ย), ชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี 4-0 (ห), ชนะ ชลบุรี เอฟซี 2-0 (ย) และ ชนะ เอสซีจี เมืองทองฯ 2-0 (ห) เก็บได้ 21 คะแนนเต็ม ยิง 21 เสียแค่ 5 ประตู!!
ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังตอบโจทย์ได้ว่า ช่วงที่ เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส รักษาอาการบาดเจ็บ บรรดาแข้งคนอื่นยังทำให้เห็นว่า การไม่มีหัวหอกสายพันธุ์บราซิลอยู่ในทีม ก็ยังสามารถกระซวกฟอร์มเอกอุออกมา จนทีมกลับมาคว้าตั๋ว เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 ได้สำเร็จ
และนั่นเองนำมาซึ่งการไม่ต่อสัญญาออกไปของ เฮแบร์ตี้ กับยอดทีมแห่งคลองเตย หลังจากหมดลงเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา และหัวหอกเจ้าของเบอร์เสื้อ 37 ได้โยกไปใส่เบอร์เดิมกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด แล้ว แน่นอนว่าคนที่น่าจะกลับเข้ามาในตำแหน่งโควตาต่างชาติช่วงเลกสอง คงจะหนีไม่พ้น ดาบิด โรเชล่า ปราการหลังเลือดกระทิง
ย้อนกลับมาที่ฟอร์มการเล่นของทีมอีกหน่อย เห็นได้ชัดว่านักเตะแต่ละคนสามารถปรับจูนกันอย่างลงตัวได้ดีกว่าเดิมภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชอู๊ด”
โดยเฉพาะจุดเด่นทางริมเส้นของพวกเขา เควิน ดีรมรัมย์ กับ บดินทร์ ผาลา กลายเป็นคู่หูทางซ้ายที่เติมเกมขึ้นลงแบบสุดมันส์ ขณะที่ฟากขวา นิติพงษ์ เสลานนท์ และ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ก็กลับมาเจิดจรัสกันอีกครั้งทั้งเกมรุก-รับ รวมถึงลูกครอสจากด้านข้างที่คมกริบ รวมไปถึงกำลังเสริมอย่าง ธนาสิทธิ์ ศิริผลา หรือ ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา ก็มิได้ขี้เหร่แต่อย่างใด
อย่างที่บอกเมื่อไม่มี เฮแบร์ตี้ ฟอร์มการเล่นของ เซร์คิโอ ซัวเรซ ที่คงเส้นคงวาอยู่แล้ว ยังได้ อดิศักดิ์ ไกรษร มาเติมเต็ม พร้อมกับเรียกความมั่นใจได้ดีกว่าเดิม นอกจากนี้ เนลสัน โบนีญา ยังสลัดคราบปืนฝืดช่วงแรก และซัดไปแล้ว 2 ประตูในไทยลีก 2 นัดติดแบบคมกริบ
ด้วยผลงานเช่นนี้ ทำให้ความสนใจที่อยากเข้าสนามของแฟนบอลยิ่งมีมากขึ้นตามไปด้วย ก่อนคิกออฟที่ แพท สเตเดี้ยม เมื่อเปิดขายตั๋วทีไร นับถอยหลังไม่ถึง 1 ชั่วโมง บัตรเข้าชมเกมจะถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยงทันที เรียกได้ว่าเป็นของที่หายากของหมู่กองเชียร์ไปแล้ว
เชื่อว่าวันที่ 13 ธ.ค.นี้ แฟนบอลของ การท่าเรือ เอฟซี ต้องการเข้าไปเป็นสักขีพยานในเกมนี้ ที่จะเปิดบ้านพบกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เพราะขอเพียงแค่ “เสมอ” พวกเขาจะการันตีการเข้ารอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นับแต่การก่อตั้งของสโมสร เมื่อปี ค.ศ.1967
ลองคิดเล่นๆ ถ้วยใหญ่เอเชียจะหวดกันในเดือน ก.พ.ปีหน้า ถ้าสามารถเปิดให้แฟนบอลเข้าไปชมเกมในสนามได้ แพท สเตเดี้ยม ก็ไม่ใช่เพียงแค่นรกสำหรับทีมเยือนในไทยเท่านั้น แต่มันจะยิ่งเป็นการเร้าบรรยากาศของถ้วยใหญ่เอเชียด้วย ภาพที่ออกมาจะแสดงให้คนทั้งทวีป ได้เห็นถึง “จิตวิญญาณ” และ “ศรัทธา” ที่กองเชียร์มีให้กับสโมสรเก่าแก่แห่งนี้
ผมแทบอดใจรอที่จะเห็นภาพแบบนั้นไม่ไหวแล้ว และเชื่อว่าด้วยโมเมนตัมที่กำลังร้อนแรงในตอนนี้ "สิงห์เจ้าท่า" จะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปแน่นอน
