:::     :::

บท(ยิ่งกว่า)พระรองของ'เบล'

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม 2563 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
3,282
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บทละครของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซีซั่น 2020-21 มี แฮร์รี่ เคน กับ ซน ฮึง-มิน รับบทพระเอกกับพระรองแล้ว จึงเป็นเรื่องยากที่จะหาบทให้ แกเร็ธ เบล แสดงด้วย เพราะไม่มีทางที่จะเล่นเป็นคนขับรถหรือคนสวน

การย้ายกลับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา จากที่จะกลายเป็นความหวังของ สโมสร, แฟนบอล, โชเซ่ มูรินโญ่ และตัว เบล เอง แต่จุดเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ทุกอย่างเป็นไปแบบผิดคาด

เบล เรียกความฟิตและมีชื่ออยู่ในแมตช์เดย์ครั้งแรกเกมที่ 5 ของฤดูกาล ขณะที่ ท็อตแน่ม ขึ้นนำ เวสต์แฮม สบายๆ 3-0 มูรินโญ่ จึงส่งปีกเวลช์ลงไปยืดเส้นยืดสายในช่วงราวๆ 20 นาทีสุดท้าย
แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง เวสต์แฮม ยิงไล่มาสองประตู ขณะที่ เบล หลุดเดี่ยวและมีโอกาสยิงฝังในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่ยิงออก สุดท้ายมาโดนตีเสมอ 3-3 ช่วงไม่กี่อึดใจต่อมา
แม้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น เมื่อ เบล ลงสำรองเป็นเกมที่สอง และโหม่งประตูชัยชนะ ไบรท์ตัน 2-1 เพียงแค่สามนาทีที่ลงไปสัมผัสเกม
นั่นจึงทำให้สิ่งที่แฟนๆ ท็อตแน่ม รอคอยมาถึงในเกมบุกเยือน เวสต์บรอมวิช คือการเห็น มูรินโญ่ ส่งสามประสานแดนหน้า แฮร์รี่ เคน, ซน ฮึง-มิน และ เบล ลงตัวจริงพร้อมกัน
เบล ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาที 78 ขณะที่ยังทำประตูกันไม่ได้ เพราะผลงานไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน และนั่นคือเกมสุดท้ายที่ได้เห็นปีกทีมชาติเวลส์ในเกมพรีเมียร์ลีก
ไม่เพียงแต่ มูรินโญ่ ที่มองเห็นอะไรบางอย่าง แต่แฟนบอลทั่วไปก็มองเห็นเช่นกัน นั่นคือเรื่องของ 'ทีมเวิร์ค' ที่ สตีเว่น เบิร์กไวน์ กับ ลูคัส มูร่า ทำได้ดีกว่า เบล ในการลงมาประสานงาน เคน กับ ซน
หลายครั้ง เบล พยายามลากแต่งหาช่องยิงไกลเหมือนอย่างที่เคยทำได้นักต่อนักในฤดูกาล 2012-13 แต่คู่แข่งจับทางได้หมดแล้ว และนั่นก็ทำให้เกมรุกของ เคน กับ ซน พลอยสะดุดไปด้วย ผิดกับ เบิร์กไวน์ ที่พร้อมเป็นจุดเริ่มของการทำประตู แม้ไม่ได้ชื่อว่าเป็นคนแอสซิสต์ก็ตาม
เมื่อเราได้เห็น 'ซน ยิง เคน แอสซิสต์' หรือ 'ซน แอสซิสต์ เคน ยิง' เป็นกอบเป็นกำในฤดูกาลนี้ ดังนั้นบทบาทอีกหนึ่งตัวรุกที่เหลืออยู่ตามแท็กติกของ มูรินโญ่ จึงเรียกได้ว่าเป็นผู้ปิดทองหลังพระ ซึ่งไม่เหมาะกับสไตล์และบุคลิกของ เบล ที่มี 'อีโก้' สูง
แต่บทบาทนี้จะเหมาะกับ เบิร์กไวน์ หรือ มูร่า รวมถึงตัวรุกจากแดนกลางที่มี ตองกีย์ เอ็นดงเบเล่ กับ โจวานี่ โล เซลโซ่ คอยเบียดแย่งตำแหน่งกันอยู่
นี่คือเหตุผลสำคัญที่เราไม่ได้เห็น เบล ลงสนามเลยแม้แต่นาทีเดียวในสามเกมใหญ่ที่พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี และ อาร์เซน่อล
ในเกมที่ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 มูรินโญ่ ใช้ เคน, ซน, เบิร์กไวน์, เอ็นดงเบเล่ และสำรอง มูร่า แทน เบิร์กไวน์ กับ โล เซลโซ่ แทน เอ็นดงเบเล่
ในเกมที่บุกเสมอ เชลซี 0-0 มูรินโญ่ ใช้ 4 ตัวรุกหน้าเดิม และสำรอง โล เซลโซ่ แทน เอ็นดงเบเล่ ก่อนที่ มูร่า กับ เบน เดวี่ส์ ถูกส่งลงไปเน้นเกมรับแทน ซน กับ เบิร์กไวน์ ช่วงท้าย เพื่อเอาหนึ่งแต้ม
ในเกมที่ชนะ อาร์เซน่อล 2-0 มูรินโญ่ ใช้ เคน, ซน, เบิร์กไวน์, โล เซลโซ่ และสำรองลงไปอัดเกมรับเพื่อรักษาสกอร์นำสองประตู เดวี่ส์ แทน โล เซลโซ่, มูร่า แทน ซน, โจ โรดอน แทน เบิร์กไวน์
หมายความว่า สิ่งสำคัญที่สุดของ มูรินโญ่ คือนักเตะที่เล่นตามแท็กติก มีระเบียบวินัย ขยันเมื่อยามต้องไปช่วยเกมรับ จากการเก็บคลีนชีตมาติดต่อกัน 4 เกม และเสียประตูเดียวจาก 6 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
ซึ่ง เบล ยังไม่ตอบโจทย์ของ มูรินโญ่ ในเวลานี้
เพราะถ้าต้องให้ เบล วิ่งขี้แตกขี้แตนลงไปช่วยเกมรับเหมือนอย่าง เบิร์กไวน์
หรือให้ เบล เป็นคนปิดทองหลังพระให้ เคน กับ ซน ขึ้นพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งกันอยู่สองคน คงเป็นไปได้ยาก
อนาคตของ เบล จึงเริ่มคลุมเครือแล้วว่าเมื่อหมดสัญญายืมตัวกับ ท็อตแน่ม จะเป็นอย่างไรต่อไป ขณะที่สัญญากับ เรอัล มาดริด ก็ยังเหลืออีกหนึ่งปีในฤดูกาล 2021-22

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด