ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ของ เรอัล มาดริด เคยตกอยู่ภายใต้ความกดดันหลังทีมชุดขาวพ่าย 2 เกมติดต่อ อลาเบส (1-2) บนเวทีลีกา ต่อด้วย ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (0-2) ในรายการแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
จากผลงานดังกล่าวทำให้มีการอ้างถึงการหาตัวแทนของ ซีดาน หากสถานการณ์ของทีมชุดขาวไม่ดีขึ้นหลังสุ่มเสี่ยงต่อการตกรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก ดังนั้นข่าวกับ เมาริซิโอ โปเช็ตตีโน่ อดีตกุนซือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จึงถูกนำเสนอผ่านสื่ออีกครั้ง โดยมี ราอูล กอนซาเลซ ตำนานกองหน้าของทัพ'โลส บลังโกส' ฐานะเทรนเนอร์ของ เรอัล มาดริด กาสตีย่า เป็นอีกหนึ่งทางเลือก
อย่างไรก็ตามทั้ง ซีดาน กับลูกทีมตอบสนองได้เป็นอย่างดี เรอัล มาดริด บุกคว้าชัยชนะเหนือ เซบีย่า 1-0 ถึงสังเวียนยากอย่าง 'ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน' ก่อนทีมชุดขาวจะเปิด 'อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่' ทุบ มึนเช่นกลัดบัค 2-0 คว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมรายการแชมเปี้ยนส์ลีก ฐานะแชมป์กลุ่ม บี สยบทุกข่าวลือข่าวเล่าอ้างก่อนหน้านี้
ช่วงที่ผ่านมาสื่อเมืองกระทิงมักจะพูดถึงความมั่นคงในหน้าที่การงานของ ซีดาน เป็นส่วนใหญ่ แต่ภาพรวมผลงานในปัจจุบันของทีมชุดขาวแม้ยังไม่ดีแต่ไม่ถึงกับแย่นัก จากการเข้ารอบน็อกเอาท์แชมเปี้ยนส์ลีก ฐานะแชมป์กลุ่ม พวกเขายังอยู่อันดับ 4 ของลีกเมืองกระทิง มี 20 คะแนนจากการลงสนาม 11 เกมตามหลังจ่าฝูง แอตเลติโก มาดริด 6 คะแนน ก่อนทั้งสองทีมจะลงทำศึกมาดริดดาร์บี้แมตช์วันเสาร์นี้
ถ้าหากว่า เรอัล มาดริด ทำผลงานช่วงออกสตาร์ทซีซั่นนี้แย่จนถึงขั้นต้องมีการเปลี่ยนแปลงเทรนเนอร์แล้ว สถานการณ์ของทีมคู่ปรับสำคัญอย่าง บาร์เซโลน่า เลวร้ายกว่า นั่นหมายความว่า โรนัลด์ คูมัน ทำงานภายใต้ความกดดันไม่แพ้กันและเทรนเนอร์ชาวดัตช์มีโอกาสเด้งตกเก้าอี้มากกว่ากุนซือชาวฝรั่งเศสด้วยซ้ำ
บาร์เซโลน่า ยุค คูมัน ปรับสถานะจากทีมลุ้นแย่งแชมป์กลายเป็นสโมสรกลางตารางหลังหลุดมาอยู่อันดับ 9 มีเพียง 14 คะแนนจากการลงเล่น 10 เกม สถิติ ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 4
นั่นคือผลงานการออกสตาร์ทแย่สุดในรอบ 32 ปี นับตั้งแต่ซีซั่น 1987-1988 ก่อนทัพอาซูลกราน่าจะปิดฉากฤดูกาลนั้นเพียงอันดับ 6 ส่วนสถานการณ์ปัจจุบัน พวกเขาตามหลังจ่าฝูง แอตเลติโก มาดริด ถึง 12 คะแนนและอยู่ห่างจากอันดับ 4 เรอัล มาดริด 6 แต้มและลงเล่นน้อยกว่าทีมชุดขาว 1 เกม
บาร์เซโลน่า ยังเสียหน้าเกมล่าสุดที่ถูก ยูเวนตุส บุกมาปล้นแชมป์กลุ่ม จี ในการลงเล่นเกมส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทั้งที่คว้าชัยมาตลอด 5 เกมแรกและเคยบุกโค่นทีมม้าลายถึงคอก 2-0 แต่กลับพ่ายคารังต่อทัพเบียงโคเนรี่ด้วยสกอร์ 0-3
การปราชัยต่อทีมม้าลายเกมล่าสุดเป็นการตอกย้ำปัญหาที่เกิดขึ้นกับทีมอาซูลกราน่าของ คูมัน หลังการพ่ายพลิกล็อกต่อทีมน้องใหม่ กาดีซ 1-2 บนเวทีลีกาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สื่อแคว้นกาตาลุนย่าอย่าง 'สปอร์ต' รายงานว่าในห้องแต่งตัวของ บาร์เซโลน่า เริ่มมีการพูดถึงระบบที่ คูมัน เลือกใช้งานว่ามีความเหมาะสมกับขุมกำลังของทัพอาซูลกราน่าตามการกล่าวอ้างของเทรนเนอร์ชาวดัตช์หรือไม่
นับตั้งแต่ บาร์เซโลน่า ลงเล่นเกมแรกภายใต้การกุมบังเหียนของ คูมัน ราว 10 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่เทรนเนอร์ชาวดัตช์ยืนยันด้วยความมั่นใจว่าระบบ 4-2-3-1 เหมาะกับกลุ่มนักเตะชุดปัจจุบันของทีมอาซูลกราน่ามากกว่าระบบ 4-3-3 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอัตลักษณ์ของสโมสร
คูมัน เชื่อมั่นกับความคิดของตนเอง แต่ใช่ว่าความคิดของเขาจะถูกต้องเสมอไป ผลงานช่วงกว่า 2 เดือนที่ผ่านมาถือเป็นข้อพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี บาร์เซโลน่า ยังทำผลงานขาดความคงเส้นคงวา ปัจจุบันพวกเขาอยู่อันดับ 9 ของลีกเมืองกระทิง ซึ่งเป็นการออกสตาร์ทแย่สุดในรอบ 32 ปี แถมตามหลังจ่าฝูงไกลถึง 12 คะแนน
ทีมของ คูมัน ยังหลุดเข้ารอบน็อกเอาท์แชมเปี้ยนส์ลีก ฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม มีแนวโน้มว่าจะต้องเผชิญหน้ากับของแข็งในรอบ 16 ทีม โดยเฉพาะ บาเยิร์น มิวนิค ที่เคยทิ้งบอมบ์พวกเขาด้วยสกอร์ 8-2 เมื่อซีซั่นก่อน
นอกจากนี้ยังมี แมนฯซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ และ เชลซี ของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด สามตอจากเมืองผู้ดี ส่วนอีก 2 แชมป์กลุ่มที่เหลือคือ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ของฝรั่งเศส กับ ดอร์ทมุนด์ ของเยอรมัน ซึ่งต่างเป็นคู่แข่งที่พร้อมสร้างปัญหาให้ทีมของเทรนเนอร์ชาวดัตช์ทั้งสิ้น แต่ คูมัน จะมีโอกาสคุมทีมไปจนถึงการลงเล่นรอบน็อกเอาท์หรือไม่เท่านั้น
คูมัน ยังคงเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าระบบ 4-2-3-1 มีความเหมาะสมกับ บาร์เซโลน่า มากกว่าระบบ 4-3-3 จากการเล่นด้วย 4 ตัวรุก 4 ตัวป้องกันและอีก 2 มิดฟิลด์ตัวกลางที่จะมีส่วนร่วมทั้งรุกและรับ
ทว่าการประเมินจากผลงานในช่วงกว่า 2 เดือนที่ผ่านมายังไม่ดีทั้ง 2 ส่วน บาร์เซโลน่า ลงเล่นซีซั่นนี้ 16 เกม ยิง 36 ประตู เฉลี่ยยิงนัดละ 2.25 ประตู พวกเขาเสีย 16 ประตู เฉลี่ยเสียเกมละ 1.0 ประตู
นับตั้งแต่เปิดซีซั่นเป็นต้นมา บาร์เซโลน่า ของเทรนเนอร์ชาวดัตช์ไม่เสียประตูเพียง 6 จากการลงเล่น 16 เกม และยิงคู่แข่งไม่ได้เพียง 3 นัดเท่านั้น
มันมีประเด็นข้อถกเถียงเกี่ยวกับระบบที่ คูมัน เลือกใช้งานว่ายังขาดความไหลลื่น, เปิดช่องว่างให้คู่แข่งและยังทำให้ทีมอาซูลกราน่าสร้างโอกาสได้น้อยในพื้น 3 ส่วนสุดท้าย เนื่องจาก ลิโอเนล เมสซี่ ต้องถอยลงต่ำเพื่อลงมาล้วงบอลสร้างสรรเกมด้วยตัวเอง
มันมีการพูดคุยกันระหว่างนักเตะในห้องแต่งตัวว่าไม่มีผู้เล่นคนใดทำผลงานแจ่มตามระบบที่ คูมัน เลือกใช้งาน อีกทั้งรูปแบบดังกล่าวยังไม่ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพของนักเตะคนใดเลยเช่นเดียวกัน มีแต่จะทำให้แย่ลงด้วยซ้ำ ซึ่งเห็นได้ชัดจากกรณีของ เมสซี่
จากระบบ 4-2-3-1 ของ คูมัน มันจำเป็นต้องมีกองหน้าตัวเป้าระดับอ๋องที่คอยพักบอล, ดึงตัวประกบ, วิ่งหาช่องเข้าทำประตูหรือทำทางให้เพื่อนร่วมทีม แต่น่าเสียดายที่ บาร์ซ่า ปล่อยตัว หลุยส์ ซัวเรซ ออกจาก 'คัมป์ นู' ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ขณะที่ คูมัน สลับใช้งานนักเตะหลายคนลงเล่นตำแหน่งดังกล่าวทั้ง เมสซี่, อองตวน กรีซมันน์ หรือ มาร์ติน เบรธเวต ซึ่งทำผลงานได้ดีในช่วงหลัง แต่ภาพรวมยังไม่ดีพอสำหรับเกมโจมตีตามความคาดหวังของสาวกบาร์เซโลนิสต้า
คูมัน อาจมีข้ออ้างเกี่ยวกับการทำผลงานย่ำแย่ของ บาร์เซโลน่า ว่ามาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการพลาดเซ็นสัญญากับนักเตะเป้าหมายอย่าง เมมฟิส เดอปาย, เอริก การ์เซีย หรือ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา รวมถึงการบาดเจ็บของขุมกำลังหลักอย่าง เคราร์ด ปีเก้, อันซู ฟาตี หรือ เซร์จี้ โรเบร์โต้
ทว่าทุกปัจจัยคงไม่สามารถนำมาเป็นข้ออ้างสำหรับการปราชัยต่อ กาดีซ 1-2 เมื่อสัปดาห์ก่อน เนื่องจากขุมกำลังที่ คูมัน เลือกใช้งานยังเหนือกว่าทีมน้องใหม่หลายขุม
การปราชัยแบบน่าอายดังกล่าวมาจากการขาดสมาธิระหว่างเกมจนทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการเล่นเกมป้องกันจนพลาดท่าเสียประตู ซึ่งไม่ต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมพ่ายคารังต่อ ยูเวนตุส 0-3 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
นอกจากนี้ คูมัน ยังไม่สามารถหาพื้นที่ที่ทำให้การเล่นระหว่าง เมสซี่ กับ กรีซมันน์ ลงตัวและทำให้เกมรุกของทีมอาซูลกราน่าไหลลื่นตลอดการทำงานกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ ฟิลิปเป กูตินโญ่ ที่ยังทำผลงานน่าผิดหวังฐานะนักเตะบาร์ซ่า
จากผลงานย่ำแย่ของ บาร์เซโลน่า ทำให้ผู้สื่อข่าวยิงคำถามถึง การ์เลส ตูสเก็ตส์ รักษาการประธานสโมสร บาร์เซโลน่า เกี่ยวกับอนาคตของ โรนัลด์ คูมัน ซึ่งได้รับการยืนยันชัดเจนว่าเทรนเนอร์ชาวดัตช์ยังคงอยู่ทำงานในถิ่น 'คัมป์ นู' ต่อไป
แต่ คูมัน จะอยู่นานแค่ไหน? หรืออาจจะเป็นการตัดสินใจของประธานสโมสรคนต่อไปหลังการเลือกตั้งในวันที่ 24 มกราคม 2021 ทว่ามันมีโอกาสตัดสินใจเร็วกว่านั้นถ้าหากทีมอาซูลกราน่าแพ้สวยๆอีก 2-3 เกม
บาร์เซโลน่า ต้องหันมาโฟกัสเพื่อเร่งทำผลงานบนเวทีลีกาให้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่ง คูมัน จะนำทีมลงสนาม 5 เกมส่งท้ายปี 2020 กับ เลบันเต้ (เหย้า), เรอัล โซเซียดาด (เหย้า), บาเลนเซีย (เหย้า), เรอัล บายาโดลิด (เยือน) และ เออิบาร์ (เหย้า)
หากพิจารณาถึงศักยภาพคู่แข่งทั้ง 5 ทีม คูมัน คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการนำทัพอาซูลกราน่าคว้าชัยชนะทั้ง 5 เกมเพื่อลดแรงกดดันก่อนย่างเข้าสู่ศักราชใหม่
ทีมอาซูลกราน่ายังมีคิวลงเตะอีก 5 เกมในช่วงเดือนมกราคม แม้ว่าจะเป็นการเล่นนอกบ้านถึง 4 นัดกับ อ้วยส์ก้า, แอธเลติก บิลเบา, กรานาด้า และ เอลเช่ ตบท้ายด้วยเกมรับ แอธเลติก บิลเบา ส่งท้ายเดือนแรกของปี 2021
คูมัน จำเป็นต้องนำทีมอาซูลกราน่าคว้าชัยชนะมากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงของระดับบริหารเพื่อรักษาโอกาสในการทำอันดับไปเล่นรายแชมเปี้ยนส์ลีกและเพื่อรักษางานของตนเอง เพียงแต่เทรนเนอร์ชาวดัตช์จะทำได้อย่างที่เขาคาดหวังหรือไม่เท่านั้น
