:::     :::

ก้าวเดินสู่ระดับโลกของ "ฮาเมส โรดริเกซ"

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม 2563 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
7,305
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หนึ่งในนักเตะที่เริ่มต้น ในศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้อย่างน่าประทับใจ

นั่นคือฮาเมส โรดริเกซดาวเตะของเอฟเวอร์ตัน ที่กลับมาร่วมงานกับกุนซือคู่ใจอย่างคาร์โล อันเชล็อตติ อีกครั้ง ทำให้เขางัดฟอร์มเก่งออกมาทั้งในแง่ของการยิงประตู และการแอสซิสต์ แน่นอนว่า มันยังเหลือหนทางอีกยาวไกลให้เขาพิสูจน์ตัวเอง 


หากนับรวมจนถึงเวลานี้ ฮาเมส มีส่วนร่วมกับเอฟเวอร์ตัน ในพรีเมียร์ลีก 6 ประตู แบ่งออกเป็นการยิง 3 และแอสซิสต์ 3 เป็นการลบคำปรามาสของแฟนบอลหลายคนที่ว่า เขาน่าจะเอาชื่อมาทิ้งที่พรีเมียร์ลีก ที่ขึ้นชื่อเรื่องของความหนักหน่วง และความรวดเร็วเป็นหลัก 


ช่วงนี้ เรายอดกลับไปดูความเป็นมาเป็นไปของเขากันหน่อยว่า ... ทำไมเด็กชายธรรมดาจากอเมริกาใต้ คนนี้ ถึงต่อสู้กับอะไรหลายอย่าง จนสามารถก้าวมาเป็นนักฟุตบอลระดับโลกได้เหมือนทุกวันนี้ 

ฮาเมส โรดริเกซ คือเด็กจากเมืองคูคูต้า ประเทศโคลอมเบีย โดยเริ่มต้นเส้นทางลูกหนัง ด้วยการลงเล่นกับทีมเยาวชนของทีมเอ็นวิกาโด้ เอฟซี 


นึ่เป็นสถานที่ที่ขัดเกลาฝีเท้า จนพรสวรรค์เริ่มที่จะผลิดอกออกผล หลายคนมองเหมือนกันว่า มันไม่ได้มาเพราะความสามารถเพียงอย่างเดียว เรื่องของทัศนคติ ก็เป็นสิ่งที่เขามีติดตัวเช่นเดียวกัน


ฮูโก้ คาสตาโน่ อดีตโค้ชของทีม เอ็นวิกาโด้ เอฟซี ย้อนความทรงจำถึงลูกศิษย์คนนี้เอาไว้ว่า "ย้อนกลับไปช่วงเวลานั้น ผมไม่เคยเห็นเด็กอายุเท่านี้ ที่ขยันฝึกซ้อมวันละ 2 ครั้ง โดยที่ไม่เคยปริปากบ่นเลยแม้แต่น้อย"


คาสตาโน่ กล่าวต่อว่า "สิ่งเหล่านี้ คอยหล่อหลอมให้ฮาเมส เต็มไปด้วยความมีระเบียบวินัย เขามักจะใช้เวลาหลังจากฝึกซ้อมเสร็จแล้ว เพื่ออยู่ในสนามต่อเพียงลำพัง แม้ว่าเด็กคนอื่นจะกลับบ้านแล้วก็ตาม"


"หลังจากนั้น ฮาเมส จะทำการฝึกซ้อมยิงประตูเพิ่มเติม ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุ ผลสุดท้าย เขาสามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เป็นผลสำเร็จ" 

การลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ของ เอ็นวิกาโด้ เอฟซี ส่งผลให้ฮาเมส สามารถสร้างสถิติเป็นนักเตะโคลอมเบีย ที่อายุน้อยสุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ ที่ลงเล่นลีกอาชีพ ด้วยวัยเพียงแค่ 14 ปีเท่านั้น


กระทั่งอายุ 16 ปี ฮาเมส ตัดสินใจมุ่งหน้าลงใต้ ข้ามพรมแดนจากประเทศบ้านเกิด เพื่อที่จะมาค้าแข้งในอาร์เจนติน่า กับสโมสรบานฟิลด์


ทำให้เขาต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนัก นอกจากชีวิตความเป็นอยู่, สภาพแวดล้อม และวัฒนธรรม เขาต้องเริ่มนับ 1 กับลูกหนังอาชีพที่ต่างแดน


ชีวิตช่วงแรกที่บานฟิลด์ ฮาเมส เป็นเพียงเด็กที่ไม่มีเงินค่าเหนื่อยมากนัก เขาจึงจำเป็นต้องพักอาศัยในห้องเช่าเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากสโมสรประมาณ 2 ชั่วโมง


นอกจากนี้ เขายังต้องนั่งรถโดยสารไปซ้อมบอลทุกวัน บางครั้งเขาก็ขาดแคลน และต้องยืมเงินคนอื่นในการเดินทาง นี่คือแบบทดสอบสุดหินที่เขาต้องเผชิญหน้า


ความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตฮาเมส ทีละเล็กทีละน้อย จากเด็กหนุ่มที่ต้องจากบ้านมาคนเดียว ร้องไห้ทุกวัน ต้องการคำปลอบใจ ด้วยการโทรศัพท์ทางไกลไปคุยกับคุณแม่ สู่การพาบานฟิลด์ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดแดนฟ้าขาว เป็นครั้งแรก และครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ของทีม


ผลงานที่ยอดเยี่ยมเหล่านั้น ทำให้ฮาเมส ถูก เอฟซี ปอร์โต้ ทีมจอมปั้นแห่งภาคพื้นยุโรป ดึงตัวมาพัฒนาฝีเท้าอีกต่อ ผ่านการคว้าแชมป์สำคัญ ทั้งลีกสูงสุดโปรตุเกส และยูโรป้า ลีก จนถูกโมนาโก คว้าตัวไปร่วมทัพ

หลังจากการคว้าดาวซัลโว ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย ฮาเมส ถูกเรอัล มาดริด ดึงตัวไปร่วมทีม ด้วยค่าตัว 80 ล้านยูโร ส่งผลให้เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ และยังเป็นเครื่องหมายว่า เขาต้องผ่านการตอสู้มาอย่างยากลำบากแค่ไหน


ฮาเมส ย้อนความทรงจำว่าย้อนกลับไปสมัยวันวาน ผมจำได้เสมอว่า ผมเคยเฝ้ามองนักเตะเรอัล มาดริด นั่งอยู่บนรถบัส พวกเขาเหล่านั้นถือเป็นซูเปอร์สตาร์


ผู้คนต่างพากันตะโกนเรียกชื่อของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ รวมถึงเซร์คิโอ รามอส ผมบอกตัวเองว่า สักวันต้องไปอยู่ตรงจุดนั้น และขึ้นไปอยู่บนรถบัสคันนั้นให้ได้ ผมต่อสู้เสมอมา เพื่อสิ่งๆนี้ฮาเมส เล่าต่อ ซึ่งเขาก็สามารถทำได้ตามความตั้งใจ 


นี่คือการต่อสู้ ในแบบฉบับของฮาเมส โรดริเกซแม้วันนี้เขาจะย้ายมาร่วมทีมเอฟเวอร์ตัน ที่ถือว่าเป็นสโมสรที่มีขนาดเล็กลงอย่างไรก็ตาม การพิสูจน์ตัวเองในเวทีพรีเมียร์ลีก สามารถยืนยันเป็นอย่างดีว่า เขาไม่เคยยอมแพ้ต่ออุปสรรคที่ผ่านเข้ามา

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด