น้าแมว ปั่นงานชิ้นนี้ก่อนเกม คริสตัล พาเลซ vs สเปอร์ศ ที่ เซลเฮิร์สต์ ปาร์ค จะเริ่มขึ้นราว 3-4 ชั่วโมง โดยซีซั่นนี้เห็นได้ชัดเจนนะครับว่า สเปอร์ส ดีขึ้น โชเซ่ มูรินโญ่ พา สเปอร์ส สอบผ่านด่านสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งได้สวยงามเหลือเกินนะครับ นั่นก็คือการเจอกับทีมระดับ "บิ๊ก 6" สเปอร์ส เจอไปแล้ว 4 จาก 5 ทีม (นับตัวเองเป็นบิ๊ก 6 ด้วย) ผลที่ออกมา ชนะ แมนฯยูไนเต็ด 6-1 (เยือน), ชนะ แมนฯซิตี้ 2-0 (เหย้า), เสมอ เชลซี 0-0 (เยือน) และ ชนะ อาร์เซน่อล 2-0 (เหย้า)
นี่คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่เฮียมูทำได้ เอาเป็นว่าเล่นไป 11 เกม สเปอร์ส มีสถิติ 7-3-1 ได้มากกว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่ทำได้ซีซั่นก่อน 11 นัดแรก ถึง 11 แต้มแหนะ เฮียมู ให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดีว่า ไก่เดือยทอง ในเวลานี้เล่นได้อย่างที่เขาต้องการ แฮ่ม !
ด่านสุดท้ายใน บิ๊ก 6 ลูปแรกที่จะต้องเจอก็คือ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล นะครับ ในคืนวันพุธนี้ที่ แอนฟิลด์ ถามว่า ลิเวอร์พูล ได้เปรียบเยอะมั้ย ตอบเป็นภาษานักรบออนไลน์ว่า "ครึ่งควบลูกลบ 10-9"
ซีซั่นนี้ เฮียมู ทำให้นักเตะ 3 คนที่ทำท่าจะหมดอนาคตกับ ไก่เดือยทอง ไปแล้วได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอย่างน่าทึ่งอันได้แก่ เอริก ดายเออร์, แซร์ช โอริเย่ร์ และ ต็องกี เอ็นดอมเบเล่
ดายเออร์ เล่นดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา เหมือนจะเก่งขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน มิน่าเขาถึงขอ เฮียมู เล่นเซนเตอร์แบ็ก ไม่ใช่มิดฟิลด์ตัวรับ เมื่อคนเราได้ทำอะไรที่ชอบ ทำอย่างมีความสุข ผลงานมันก็ออกมาดี เขาเล่นได้แข็งแกร่งแน่นอนจนยึดตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กอันดับ 1 ของ สเปอร์ส ในเวลานี้ไปแล้ว โดยอันดับ 2-3-4-5 ก็เป็น อัลเดอร์ไวเรลด์, โรด้อน, ซานเชซ และ แทนกันก้า นะครับ
แซร์ช โอริเย่ร์ ก็คืนชีพตำแหน่งแบ็กขวาได้ดีเหลือเชื่อ ซีซั่นนี้เขาเด่นทั้งรุกและรับ อะไรที่เคยรั่วแทบจะมลายหายไปหมดเลย การซื้อ แมตต์ โดเฮอร์ตี้ มาจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน เป็นตัวกระตุ้นชั้นดีจริงๆ โอริเย่ร์ คือแบ็กขวาตัวจริงโดย โดเฮอร์ตี้ นับว่าเป็นอะไหล่ชั้นดี
เอ็นดอมเบเล่ ก็เช่นกัน น้าแมวขอเรียกเขาว่า "จังหวะนรก" เพราะไม่รู้ว่ามันจะมาหรือจะไป จับทางจับจังหวะได้ยากมาก จุดเด่นของ เอ็นดอมเบเล่ คือบอลแรกดีมาก เขามีขาเป็นตะขอเกี่ยวบอลได้เหนียวหนึบไปกับบอลดี แม้จะดูเก้ๆกังๆ แต่ก็มีประสิทธิภาพ แย่งบอลก่อน ทะลุทะลวงในเกมรุกได้ ออกบอลดี มีประโยชน์กับทีมอย่างยิ่ง
แต่ก็แน่นอนนะครับ ทีมที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ คุณไม่มีทางที่จะทำให้นักเตะทุกคน "พอใจ" ได้ และ 2 คนที่แสดงตัวเด่นชัดในเวลานี้ก็คือ เดเล่ อัลลี่ กับ แฮร์รี่ วิงค์ส นั่นเอง
อัลลี่ เคยยึดตำแหน่งตัวจริงของ สเปอร์ส ได้ แต่ก็อย่างที่ทราบเขามีความ "ติสต์" สูง บางครั้งดูจะมีปัญหาเรื่องวินัยซึ่งเป็นสิ่งที่ มูรินโญ่ ถือซะด้วย เมื่อมีการเสริมตัวรุกในทีม ทำให้ ไก่ มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ตัวรุกอย่าง อัลลี่, ลูคัส มูร่า, คาร์ลอส วินิซิอุส หรือแม้แต่ แกเรธ เบล ยังต้องนั่งสำรอง
นักเตะรูปหล่อตกเป็นตัวเลือกรองจาก ปิแอร์ เอมิล-ฮอยจ์เบิร์ก, มูสซ่า ซิสโซโก้, ต็องกี เอ็นดอมเบเล่ และ โจวานนี่ โล เซลโซ่ หลายครั้งที่ไม่มีชื่อที่ม้านั่งสำรอง อย่าลืมว่า วิงค์ส ติดทีมชาติอังกฤษ ถ้าเขาได้เล่นน้อยอย่างนี้ กระเทือนต่อตำแหน่งใน ยูโร 2020 รอบสุดท้ายแน่ๆ
ดังนั้นเราอาจจะได้เห็น วิงค์ส กับ อัลลี่ ย้ายไปเล่นในลีกต่างประเทศ โดยเฉพาะ อัลลี่ มีข่าวกับ เปแอสเช ซึ่งอาจจะเป็นการย้ายแบบถาวรเลยด้วยซ้ำ นั่นจะเป็นการปิดฉากการค้าแข้งกับ ไก่เดือยทอง ครบ 5 ปีพอดี ถ้าเขาย้ายออกไปในเดือนมกราคมนี้
สเปอร์ส ซื้อ เดเล่ อัลลี่ มาจาก เอ็มเค ดอนส์ ในลีก วัน ด้วยเงินเบื้องต้น 5 ล้านปอนด์ ในตลาดนักเตะเดือนมกราคมของปี 2015อัลลี่ เล่นให้ ไก่ ในลีกไป 158 เกมทำได้ 50 ประตูเป็นกำลังสำคัญตลอดมา โดยมีจุดอ่อนเรื่องของวินัยและการควบคุมอารมณ์ ทว่าบางขณะค่าตัวของเขาพุ่งเกินหลัก 100 ล้านปอนด์กันเลยทีเดียว
น้าแมว ไม่อยาก เห็น เดเล่ อัลลี่ และ แฮร์รี่ วิงค์ส ย้ายออกไปจาก ไก่เดือยทอง เลย ยังไงซะขุมกำลังมีล้นๆเอาไว้ก่อนมันก็ย่อมต้องดีกว่ามีน้อยใช่มั้ยล่ะ และก็มีตัวอย่างให้เห็น เอริก ดายเออร์, แซร์ช โอริเย่ร์ และ ต็องกี เอนดอมเบเล่ ยังกลับมาแจ้งเกิดได้เลย ทำไมนักเตะมีดีกรีทีมชาติอังกฤษอย่าง อัลลี่ กับ วิงค์ส จะคัมแบ็กบ้างไม่ได้ล่ะ
ถ้าคู่นี้หายงอน คุยกับ มูรินโญ่ ดีๆ ตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก เดี๋ยวโอกาสก็ย่อมต้องมาถึงเอง น้าแมวอยากจะให้เป็นอย่างนั้นมากกว่า ซึ่งเรื่่องนี้เ็นงานของ เฮียมู ที่ต้องบริหารให้ดีครับ
ถ้ารั้งตัวสำรองเหล่านี้เอาไว้ได้ทั้งหมด ก็ถือว่าเยี่ยม แต่ถ้าเอาไม่อยู่ก็ต้องทำใจ
"แมวเพชร"
