:::     :::

แกว่ง !

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2563 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
3,096
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ก่อนเกมเริ่ม แฟนๆ หงส์แดงหมายมั่นปั้นมือเหลือเกินครับ ว่าหลังจบนัดนี้ที่พบกับฟูแล่ม พวกเขาจะก้าวขึ้นเป็นจ่าฝูงเดี่ยวๆ ครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์เสียที เพราะคู่แข่งของพวกเขาต่างทำแต้มหลุดกันไปหมดแล้ว แต่ด้วยมาตฐานที่แกว่งไปแกว่งมาในหลายๆ อย่างในเกมนี้ทำให้อะไรหลายๆ อย่างไม่เป็นอย่างที่คิด



ฟูแล่มแกว่งขึ้น

           ต้องยอมรับล่ะครับ ว่าด้วยชื่อชั้นและผลงานที่ผ่านๆ มาของน้องใหม่อย่างฟูแล่ม ทำให้หลายๆ คนคิดว่า เกมนี้ไม่น่าจะเป็นเกมที่ยากอะไรของลิเวอร์พูล แต่เกมนี้แชมป์เก่าต้องเจอกับเซอร์ไพรซ์จังๆ เลยครับ ต้องยอมรับและปรบมือดังๆ ให้จริงๆ ว่าฟูแล่มนั้นยกระดับการเล่นของตัวเองในเกมนี่ได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ พวกเขาทำการบ้านมาอย่างดีมาก ใช้พื้นที่ว่างในสนามที่เกิดจากการเดินเกมของแชมป์เก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากๆ นักเตะของฟูแล่มเพรสซิ่งด้วยความรวดเร็ว ขยันขันแข็งกันทุกตำแหน่ง เข้าบอลดุดัน และกดดันลิเวอร์พูลอยู่ข้างเดียวอยู่พักใหญ่ๆ และเล่นเอาทางนักเตะหงส์แดงนั้นตั้งเกมไม่ติดกันเลย และหาโอกาสยิงเน้นๆ ได้อยู่เรื่อยๆ เลย แต่เป็นอาลิสซงที่กลับมาลงสนามในเกมนี้เป็นเกมแรกที่ช่วยทีมไว้ได้หลายต่อหลายครั้ง (กลับมาเกมแรกก็งานชุกเชียว ฮา) แต่สุดท้ายก็ไม่รอดครับ เมื่อฟูแล่มได้โอกาสจากที่ลิเวอร์พูลเคลียร์บอลไม่ขาด  ลุคแมนแทงบอลทะลุให้  บ็อบบี้ รีด หลุดเข้าไปตะบันด้วยขวาเต็มแรงบอลพุ่งเป็นจรวดหนีมืออลีสซง เบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้ลิเวอร์พูลตกเป็นรองไปก่อนอย่างสุดช๊อค ..... และน่าจะทำให้หลายๆ คนสงสัยว่า ฟูแล่มเล่นได้ขนาดนี้ ไปอยู่โซนตกชั้นแบบนี้ได้ไง (วะ) เนี่ยยยยย ????




ลิเวอร์พูลแกว่งลง

           ลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้มีปัญหาไม่หยุดหย่อนจริงๆ ครับ หลักๆ ก็คือปัญหาอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนนี่แหละ คนนั้นหาย คนนี้เจ็บ มันกลายเป็นลูปนรกของหงส์แดงในช่วงนี้จริงๆ ล่าสุดทีมก็เสียดิโอโก้ โชต้าไปอีก 2 เดือน จากอาการบาดเจ็บที่เข่าในเกมส่งท้ายของถ้วย UCL กับมิดทิลแลนด์ ไปอีกคน และจากปัญหาตรงนี้มันก็ส่งผลให้เกมของลิเวอร์พูลแกว่งไปแกว่งมาเหมือนไวกิ้งแดนเนรมิตรทีเดียวครับ (ถ้าไม่รู้จักก็เป็นดรีมเวิล์ดก็ได้นะ  ฮ่า) แผงหลัง และกองกลางของทีมนั้นสลับหมุนเวียนกันลงเหมือนเก้าอี้ดนตรีเลยทีเดียว คนนั้นมา คนนี้ไป นั่นทำให้รูปเกมของลิเวอร์พูลนั้นไม่เหมือนเดิม และขาดความสม่ำเสมอไปเลยครับ แต่ละเกมเหมือนการวัดดวงกันไปเลยว่าเกมนี้แท็กติกและตัวผู้เล่นที่คล็อปป์วางแผนไว้มันจะเวิร์กหรือเปล่า ทำให้เราลิเวอร์พูลในช่วงนี้ผลงานจะขึ้นๆ ลงๆ เป็นนัดๆ ไปนั่นแหละครับ และเกมนี้ก็เป็นอีกเกมที่แท็กติกของคล็อปป์นั้นโดนสก๊อต ปาร์กเกอร์กุนซือของฟูแล่มวางแผนแก้ไว้ได้ทะลุปรุโปร่งหมดจดจริงๆ ทำให้ช่วงแรกนั้นเกมเป็นของฟูแล่มแทบจะทั้งหมดเลยก็ว่าได้ครับ เป็นทางฟูแล่มที่ขี่ลิเวอร์พูลอยู่ข้างเดียว กว่าลิเวอร์พูลจะโงหัวขึ้นมาได้ พวกเขาก็ตกเป็นรองไปเสียแล้ว และนั่นทำให้พวกเขาเจองานยากยิ่งกว่าเดิมเข้าไปอีก และถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่าทั้งเกมหลังจากโดนนำไปแล้ว แต่พวกเขาก็กดดันฟูแล่มได้น้อยเหลือเกินครับ ส่วนนึงก็ต้องยอมรับว่าปาร์กเกอร์นั้นวางแผนมาได้ดีจริงๆ แต่อีกมุมนึงก็ต้องบอกว่าลิเวอร์พูลนั้นเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานแบบผิดหูผิดตาไปมากเหมือนกัน ว่ากันตามตรงเลย.... ถ้าไม่ได้จุดโทษแบบงงที่กรรมการแจกให้ ยังดูไม่ออกเหมือนกันครับ ว่าลิเวอร์พูลจะหาอะไรไปเจาะเกมรับของฟูแล่มในเกมนี้






VAR แกว่งไปมา

           VAR ยังเป็นของแสลงและสร้างปัญหาให้กับลิเวอร์พูลและแฟนบอลไม่หยุดหย่อนเหมือนเดิมครับ และถึงตอนนี้เองก็ยังไม่รู้เหมือนกันครับ ว่ามาตรฐานของการใช้งาน VAR นั้นมันอยู่ที่จุดไหนกันแน่ ในเกมนี้ก็เช่นกันครับ การตัดสินของ VAR ก็สร้างความหงุดหงิดใจให้แฟนลิเวอร์พูลหลายครั้ง เช่นในจังหวะที่ฟาบินโญ่สกัดคาวาเลโร่ ที่ดูจากในเกมแล้วก็ไม่น่ามีอะไร แต่ก็มีการเช็ค VAR ในจังหวะนี้ละเอียดมาก มีการรีเพลย์ซ้ำไปซ้ำมาหลายมุมและหลายรอบมาก ว่ากันตรงๆ ในจังหวะนี้มันไม่เหมือนกับ VAR หาข้อชัดเจนให้เคลียร์ครับ มันเหมือนกับว่าทีมงาน VAR พยายามหาข้อหาและพยายามจะหามุมที่จะยัดเยียดให้ลูกเสียบสกัดลูกนี้ให้มันเป็นจุดโทษให้ได้ไปเสียมากกว่า แต่เมื่อกรรมการอังเดร มาร์ริเนอร์ วิ่งไปดูจอด้วยตัวเองก็ยืนยันให้เป็นเตะมุมไปเหมือนเดิมครับ แต่นั่นก็สร้างความข้องใจให้บรรดาเดอะ ค็อปไปแล้วครั้งนึง และเดอะ ค็อปต้องมาหัวเสียสุดๆ กับ VAR อีกครั้งเมื่อจังหวะเคลียร์ลูกเตะมุมของลิเวอร์พูล และบอลกำลังไปเข้าทางโม ซาล่าห์กำลังจะเข้าไปหาบอล แต่เขาโดนโรบินสัน ผลักเข้าไป และจากจังหวะนี้ทำให้ลุคแมนได้จังหวะแทงให้บ็อบบี้ รีดยิงเข้าไปในที่สุด ทางฝั่งลิเวอร์พูลเองก็ยกมือกันพรึ่บพรั่บหวังจะให้มี VAR มาเชคดูถึงความโปร่งใสในจังหวะนี้ แต่ก็ไม่ได้มีการรีเชคเลยซักครั้ง ซึ่งโดยปกติแล้วจังหวะที่น่ากังขาแบบนี้ยังไงก็ควรมีการเชคอีกครั้งให้หายคาใจกันไปครับ และถึงแม้จะดูว่าผลักไม่แรงและโม ซาล่าห์จะโอเวอร์แอคติ้งไปซักหน่อย แต่ภาพที่เห็นยังไงโม ซาล่าห์ก็โดนผลักจริงๆ อยู่ดีนั่นแหละครับ และนอกจากนี้เรื่องไลน์ล่ำหน้าก็โดนมองข้ามไปอีก จริงอยู่ครับที่ถึงแม้จังหวะนี้ดูไม่น่าเป็นการล้ำหน้า แต่ในยุคที่แม้แต่ “แขนเสื้อ” เกินออกไปก็ทำให้โดนริบประตูได้แล้ว นั่นทำให้แฟนๆ ยิ่งสงสัยครับ ว่าทำไมถึงไม่มีการรีเชคให้ดูอีกครั้ง ?  แต่จะว่าไปลิเวอร์พูลเองก็โชคดีจากความมึนของ VAR หรือการตัดสินเช่นกันครับ เมื่อในท้ายครึ่งหลังลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกและเป็นไวนัลดุ้มที่ยิงไปติดแขนอบูบาการ์ คามาร่า ทำให้กรรมการให้จุดโทษในจังหวะดังกล่าวเช่นกัน .... ซึ่งถ้าจะว่ากันจริงๆ แล้ว จังหวะนี้ก็น่าเห็นใจฟูแล่มและเป็นโชคดีของลิเวอร์พูลครับ เพราะถ้าดูจากภาพช้าแล้วลูกบอลที่ไปถูกแขนของกามาร่านั้น กามาร่าเองก็ไม่ได้กางแขนออกมาแต่อย่างใดครับ ถึงเขาจะยกมือขึ้นก็จริงแต่มือก็ยังแนบลำตัวอยู่ อันนี้ก็น่าจะเป็นบรรทัดฐานใหม่ของกำแพงฟรีคิกอีกครั้งหนึ่งครับว่าต่อไปถ้าจะโดดกันฟรีคิกมือต้องไขว้หลังเท่านั้น ......  ให้มันได้อย่างนี้สิ !!!!!

           ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่นะครับ กับสถานการณ์อย่างนี้ที่ทีมลิเวอร์พูลเล่นไม่ดีแต่ก็ยังมีแต้มติดมือ และหลายๆ ทีมที่พลาดทำแต้มตกหล่นไปแล้ว แต่ลิเวอร์พูลเองก็ดันทำแต้มตกหล่นตามไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้ลิเวอร์พูลก็ยังอยู่ในตำแหน่งที่แต้มเท่าจ่าฝูงอยู่ดี ..... อารมณ์มันก็แกว่งไปแกว่งมาเหมือนกันนะครับ YNWA ครับ ทุกคน   

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})