ในตอนแรก ทีมปืนใหญ่เริ่มต้นได้ดีประเดิมคว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ด้วยการดวลจุดโทษชนะ ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก ก่อนเปิดสนามดุดันบุกอัด ฟูแล่ม 3-0
ทีมเกาะกลุ่มนำหลังผ่านไป 4 นัดแรกที่เก็บ 9 คะแนนและแพ้เพียงนัดเดียวในเกมสุดยากไปเยือน แอนฟิลด์ ของ ลิเวอร์พูล ซึ่งน้อยทีมนักจะเอาตัวรอดกลับมาได้
ทว่าหลังจากนั้น ผลงานของ อาร์เซน่อล กลับดิ่งเหวเก็บชัยชนะในเกมพรีเมียร์ลีกได้เพียงนัดเดียวจาก 9 นัดหลังสุด แถมสร้างสถิติน่าผิดหวังอีกนับไม่ถ้วนโดยเฉพาะการแพ้คาบ้าน 4 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกในรอบ 61 ปีของสโมสร
มิเกล อาร์เตต้า จึงถูกดันเข้ามาติดในลิสต์กุนซืออันดับต้นๆ ที่จะโดนปลดคนต่อไปหลังคุมทีมได้เพียงปีเดียว
ผลงานในสนามช่วงหลังเป็นสิ่งที่แฟนบอลทั่วไปเห็นกันอยู่แล้วว่า อาร์เซน่อล น่าเป็นห่วงมากเพียงใด แต่อีกสิ่งที่เป็นเหมือนภูเขาไฟรอวันปะทุคือ "ปัญหาภายใน" ของ อาร์เซน่อล เอง
มีรายงานข่าวว่าในตอนนี้ อาร์เซน่อล ไม่ได้มีความกลมเกลียว สมัครสมานสามัคคีเหมือนช่วงท้ายฤดูกาลก่อนที่ช่วยกันคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาครอง
ประเด็นการถูกดร็อปของ เมซุต โอซิล ที่เป็นตัวหลักของทีมมาหลายปี ก่อให้เกิดการตั้งคำถามของผู้เล่นในทีมหลายคน แต่ด้วยความที่ไม่สามารถพูดออกมาได้โต้งๆ แต่คนละคนจึงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาซ้อมต่อไป
ในตอนที่ อาร์เซน่อล พยายามขอร้องกึ่งบังคับให้นักเตะลดค่าเหนื่อยช่วงวิกฤตโควิด-19 ระบาด โอซิล ไม่ได้เป็นคนเดียวที่ออกมาคัดค้านในเรื่องนี้ แต่คนอื่นไม่ถูกระบุชื่อเท่านั้นเอง
ยิ่งพอผลงานของ อาร์เซน่อล ออกมาน่าผิดหวังซ้ำซากตลอด 2-3 เดือนหลัง โดยเฉพาะเกมรุกที่นัดกันปืนฝืดยิงประตูแทบไม่ได้ และขาดการสร้างสรรค์เกมที่ดี การหลุดทีมของ โอซิล ยิ่งทำให้หลายคนคาใจมากยิ่งขึ้นเพราะเขาคือหนึ่งในเพลย์เมกเกอร์ที่ดีที่สุดในโลก
ล่าสุด ดิ แอธเลติก สื่อดังระดับโลกรายงานว่า ความสัมพันธ์ของ อาร์เตต้า กับลูกทีม "ไม่เหมือนเดิม" กับช่วงแรกที่เข้ามารับงาน
อาร์เตต้า เอาใจ วิลเลี่ยน เป็นพิเศษ?!?
หลังจบเกมที่ อาร์เซน่อล พ่ายคาบ้านต่อ เบิร์นลี่ย์ 0-1 เมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา อาร์เตต้า ไม่ประชุมทีมกับนักเตะหลังจบเกมเหมือนเช่นปกติ เขาปล่อยให้ข้ามไปอีกวันก่อนพูดคุยอีกครั้งในการซ้อม
อาร์เตต้า มีสิทธิ์โมโหผลงานในสนามของลูกทีมได้ แต่ในฐานะโค้ชก็ควรต้องรีบเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด ไม่ควรปล่อยล่วงเลยไปอีกวัน บรรยากาศที่แย่อยู่แล้ว ยิ่งแย่ไปกันใหญ่
นอกจากนี้ หลายคนในทีมรู้สึกว่า อาร์เตต้า ปฏิบัติกับลูกทีมไม่เท่าเทียมกันโดยระบุถึงเหตุการณ์ของ วิลเลี่ยน ปีกจอมเก๋าชาวบราซิเลียนเป็นกรณีตัวอย่าง
วิลเลี่ยน ไม่ถูกลงโทษ หรือดร็อปออกจากทีมหลังเดินทางไปเที่ยวดูไบในช่วงที่ทุกคนต้องเข้มงวดกับมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และยังได้ลงตัวจริงต่อทันทีในเกมเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่เสมอกันไป 0-0
ตรงนี้ทำให้เกิดความรู้สึกว่า อาร์เตต้า "โอ๋" หรือ เอาใจแข้งหน้าใหม่มากเกินไป และหากว่ากันที่ฟอร์มการเล่นอย่างเดียว วิลเลี่ยน ก็ไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งเหมือนนัดเปิดสนามออกมาได้อีกเลย ทว่าแทบการันตีตัวจริงเกือบทุกนัด
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า ดาวิด ลุยซ์ มีความสัมพันธ์กับ มิเกล อาร์เตต้า แย่ลงในทุกวัน ตรงกับ ดิ แอธเลติก รายงานล่าสุดว่าแนวรับบราซิเลียนไม่พอใจที่ถูกตัดชื่อออกจากทีมในเกมเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ทั้งที่กลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว
อีกกรณีที่ อาร์เตต้า ถูกตั้งคำถามถึงความมี "สองมาตรฐาน" คือการจัดการภายในหลังกรณีที่ กรานิต ชาคา บีบคอคู่แข่งจนได้ใบแดงไล่ออกในเกมพ่าย เบิร์นลี่ย์
จังหวะนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนในเกมเพราะหลังจากนั้น เบิร์นลี่ย์ กล้าโหมบุกเข้าใส่มากขึ้นและมาได้ประตูที่ต้องการจากการเปิดบอลกดดันจนทำให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง โหม่งผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง
อาร์เตต้า ไม่ได้ลงโทษใดๆ กับ ชาคา พร้อมทั้งยืนยันด้วยว่ายังมีอนาคตกับทีม ซึ่งต่างจากกรณีของ มัตเตโอ เก็นดูซี่ ที่เคยสติหลุดบีบคอคู่แข่งช่วงท้ายฤดูกาลก่อน และไม่ได้ลงเล่นอีกเลย อีกทั้งปล่อยให้ทีมอื่นยืมใช้งานในฤดูกาลนี้
ดาวิด ลุยซ์ มีเรื่องไม่พอใจ อาร์เตต้า
ขณะที่การออกมาให้สัมภาษณ์ของ แบรนด์ เลโน่ ผู้รักษาประตูของทีมที่ปกติแล้วไม่ใช่คนที่ชอบแสดงความเห็นมากนัก ก็ยิ่งทำให้เห็นถึงความไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของผู้เล่น อาร์เซน่อล
เลโน่ ออกโรงโวยเพื่อนร่วมทีมว่ามีทัศนคติย่ำแย่ ซึ่งกลายเป็นสาเหตุหลักของผลงานออกทะเลไปไกลในเวลานี้ พร้อมระบุว่าไม่ใช่ความรับผิดชอบของ มิเกล อาร์เตต้า เพียงคนเดียว
"แน่นอนว่าโค้ชคือคนสุดท้ายที่จะโดนด่าตามข้อเท็จจริงของสถานการณ์ของเราในตอนนี้"
"แต่หากคุณมองไปที่วิธีการที่เราวิ่งไปทั่วสนามในหลายต่อหลายครั้งนั้น คุณจะเห็นว่านักเตะจะต้องโดนตำหนิด้วย"
"เรามีทัศนคติแย่มาก ไม่มีระเบียบวินัย และไม่มีความมั่นใจในตัวเองกันเลย มันมีปัจจัยหลายอย่างทีเดียว ได้ใบแดง ทำพลาดง่ายๆ ยืนผิดตำแหน่งกันไปหมด"
"เราจัดการแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้เป็นการภายในอย่างชัดเจน และทุกคนเห็นด้วยว่าเราต้องเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ให้เร็วที่สุด
"สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เราต้องมาแก้ไขกันเป็นพันๆ ครั้ง สรุปก็คือนักเตะขาดสมาธิกันไปเอง โค้ชไม่มีประเด็นอะไร ไม่มีคำวิจารณ์จากเขา เราวิจารณ์ตัวเราเองและนักเตะก็ทราบดีว่าพวกเขาต้องรับผิดชอบ"
เป็นการแสดงความเห็นแบบจัดหนักทีมตัวเองอย่างไม่ไว้หน้า และทำให้หลายคนได้ตระหนักว่าสิ่งที่น่าห่วงของ อาร์เซน่อล ในตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่ผลการแข่งขัน
แต่ยังรวมถึง "รอยร้าว" ภายในทีมที่หากไม่สามารถแก้ไขได้ก็จะกลายเป็นแผลใหญ่ที่มีแต่เน่าเฟะไม่สามารถรักษาได้ และต้อง "ตัดทิ้ง" อย่างเดียว
