:::     :::

สามัญกลับคืนสูงสุด !

วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
2,855
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลายคนน่าจะแอบๆ หวั่นใจนิดๆ เมื่อดูสถิติเกมเยือนของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ ที่พวกเขาไม่ชนะมาหลายนัดแล้ว แถมในเกมนี้พวกเขาเจอกับทีมจอมแสบ ที่ปีนี้ชอบสร้างเซอร์ไพรซ์ให้กับทีมใหญ่ๆ ไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งผลการแข่งขันก็ออกมาอย่างสุดเซอร์ไพรซ์จริงๆ นั่นแหละครับ แต่เป็นเซอร์ไพรซ์ที่แฟนๆ ลิเวอร์พูลสุดแสนจะมีความสุขซะจริงๆ


ของขวัญของทาคิ!

          เกมนี้ลิเวอร์พูลได้สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนนักเตะบางตำแหน่งไปครับ  นาบี เกอิต้า และโชเอล มาทิปได้กลับมาลงสนามอีกครั้ง แต่ที่น่าจับตาคือคล๊อปป์จัดการดร๊อป โม ซาล่าห์ไว้ข้างสนาม และให้โอกาสทาคุมิ มินามิโนะลงสนามมาแทน นอกเหนือจากนั้นยังมีเรื่องน่าสนใจเพิ่มขึ้นอีก คือ ตำแหน่งของทาคิในเกมนี้ ถูกจับไปให้เล่นในตำแหน่ง “หน้าซ้าย” ส่วนมาเน่ที่เป็นเจ้าของตำแหน่งเดิมนั้น ถูกจับให้มายืนในด้านขวาที่โดยปกติจะเป็นตำแหน่งของโม ซาล่าห์แทน ..... และในเกมนี้นั้นมีความบังเอิญอยู่ 1 อย่าง ก็คือ ในวันที่ 19 ธันวาคมเมื่อปีที่แล้วนั้น เป็นวันที่ทาคุมิ มินามิโน๊ะนั้นได้จรดปากกาเซ็นสัญญามาร่วมทีมลิเวอร์พูล ซึ่งนั่นเท่ากับว่านี่เป็นวันที่ “ครบรอบ 1 ปี” ของเจ้าหนุ่มซามูไรในสีเสือแดงเพลิงนี้นั่นเอง

            ถ้าจะว่ากันตรงๆ แล้ว ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา น่าจะเป็นปีที่สาหัสสากรรจ์ของไอ้หนุ่มหน้าหล่อขวัญใจสาวๆ คนนี้พอสมควรครับ ฟอร์มการเล่นของเขานั้นยังไม่สามารถสร้างความประทับใจอะไรได้แบบเป็นชิ้นเป็นอันเลยจริงๆ อาจจะเพราะด้วยอุปสรรค์ทางด้านร่างกาย หรือวัฒนธรรมด้วยหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่มินามิโนะที่แฟนๆ ลิเวอร์พูลเอาใจช่วยเป็นพิเศษนี้ยังห่างไกลจากความคาดหวังของแฟนๆ จริงๆ ครับ ย้อนกลับไปในวันที่เราเห็นเขาในชุดของเร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก เราเห็นมินามิโนะที่ขยันขันแข็ง มีการแย่งบอลที่ใช้ได้ และมีความแข็งแกร่งพอสมควร ที่สำคัญคือเขาเป็นคนเล่นบอลฉลาดและเทคนิกแพรวพราวดีเดียว แต่ในวันนี้ดูเหมือนว่าเขาเองก็ยังห่างไกลจากจุดที่เห็นเยอะพอสมควรครับ ทำให้ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาโดนนักเตะหลายๆ คนแซงหน้าไปแล้วและโอกาสของเขาอาจจะถอยห่างออกจากมือเขาออกไปทุกที ดังนั้นนี่เป็นโอกาสอันดีครับ ที่เขาจะแสดงให้ทุกๆ คน โดยเฉพาะเจอร์เก้น คล็อปป์ได้เห็นว่าเขานั้นยังมีดีอยู่และยังสามารถเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนี้ได้อยู่ และเขาก็ใช้เวลาไม่นานครับ เพียงแค่ นาทีที่ 2 ในเกมนี้เขาก็จัดการซัดประตูเบิกร่องให้ทีมขึ้นนำไปอย่างรวดเร็ว และนี่นับเป็นการประเดิมประตูแรกของเจ้าตัวในพรีเมียร์ลีกได้เสียทีหลังจากรอมาถึง 18 เกม และหลังจากปลดล๊อกประตูนี้ได้ ก็เหมือนกับว่าเขาได้ปลดปล่อยความกดดันลงไปได้มากทีเดียวครับ การเคลื่อนไหวของเขาดูเป็นธรรมาชาติ และเข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้ดีขึ้น และจริงๆ เขาน่าจะเพิ่มสกอร์ให้ตัวเองได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ว่าก็พลาดไปอย่างน่าเสียดาย แต่นี่คือ ของขวัญชิ้นแรกที่ทาคิให้กับตัวเองและแฟนๆ ลิเวอร์พูลทุกๆ คนครับ หวังว่าเขาจะมอบของขวัญให้อย่างนี้อีกเรื่อยๆ นะ





จุดเปลี่ยนของเกม

    

            จริงๆ แล้วรูปเกมอาจจะไม่ได้ขาดขนาดนี้ครับ ถ้าเพียงแต่คริสตัล พาเลซนั้นมีความเด็ดขาดและเฉียบคมให้ได้ครึ่งนึงของลิเวอร์พูลในเกมนี้ก็ยังดี หลังจากที่โดนนำไปอย่างรวดเร็วจากลูกยิงของทาคินั้น  พาเลซเองก็มีโอกาสตีเสมอหลายต่อหลายครั้งครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสทองฝังเพชรจากจังหวะที่ จอร์แดน อายิว มีโอกาสได้พาบอลหนีฟาบินโญ่ที่เสียหลักล้มลงไปแล้วทำให้เขานั้นได้โอกาสที่จะผ่านบอลให้เพื่อนยิงในจังหวะนี้อย่างสบายๆ  เขาเลือกปาดเรียดไปให้กับซาฮาแต่บอลมันย้อนหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆ ที่เขามีเวลา มีพื้นที่ให้แบบเหลือเฟือทีเดียว เพียงแต่เจ้าตัวดันไม่ละเอียดพอเอง ทำให้พลาดการตีเสมอในจังหวะนี้อย่างน่าเสียดายสุดๆ จริงๆ เท่านั้นยังไม่พอ พาเลซดันมาเสียประตูเพิ่มอีกในอีกไม่กี่นาทีต่อมาจากการยิงของมาเน่ โดนหนีเพิ่มไปเป็น 2-0 ทันที ซึ่งผลลัพพ์มันต่างกันมากเหลือเกินจริงๆ นะครับ กับการที่ทีมกำลังจะได้ประตูตีเสมออยู่แล้วแต่ดันโดนหนีห่างออกไปซะอย่างนั้น และเหมือนส่งผลให้นักเตะพาเลซเสียสมาธิกับเรื่องดังกล่าวไปพอสมควร และนักเตะลิเวอร์พูลก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป จัดการลงโทษโดยฟีร์มิโน่ ที่โชว์ความเหนือชั้นจัดการจับบอลจากการครอสของโรเบิร์ตสันได้อย่างสุดยอดก่อนจะดีดด้วยข้างเท้าด้านนอกเข้ามุมประตูไปอย่างเหนือๆ ให้หงส์แดงนำห่างไปสุดกู่ 3-0 จนจบครึ่งแรกไป นั่นเท่ากับว่า เกมนี้กลายเป็นของลิเวอร์พูลไปเสียแล้ว .... เพราะการจ่ายบอลพลาดไปนิดเดียวของอายิวแท้ๆ ทำให้เกมนี้พลิกโฉมหน้าไปอย่างเหลือเชื่อจริงๆ




บ๊อบบี้คนเดิม กลับมาแล้ว


            คนที่โดนปัญหาฟอร์มตกมากที่สุดตั้งแต่เปิดฤดูกาลนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ นี่แหละครับ เจ้าตัวถูกมองว่าฟอร์มตกและโดนวิจารย์จากแฟนบอลค่อนข้างหนักหน่วงจริงๆ ทำให้มีช่วงนึงแฟนบอลถึงกับเรียกร้องว่าให้ดร๊อปฟีร์มิโน่ซะ แล้วมาใช้ดิโอโก้ โชต้าแทนไปเลยดีกว่า แต่ก็ได้คล็อปป์มาช่วยดึงสติว่า “เราต้องไม่ลืม ว่าทีมที่มาได้ขนาดนี้ก็เพราะมีฟีร์มิโน่นั่นแหละ” ทำให้กองเชียร์เหล่านั้นให้กลับมามีสติได้ประมาณนึงล่ะครับ แต่นั่นก็ทำให้เจ้าตัวกดดันอยู่พอสมควรทีเดียว ซึ่งจะสังเกตได้ว่าจากจังหวะที่เจ้าตัวโหม่งทำประตูชัยให้ทีมไปเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาเหมือนได้ปลดปล่อยความกดดันทั้งหมดและสะใจแบบสุดเหวี่ยงไปเลย และเมื่อศิลปินลูกหนังคนนี้ได้ปลดปล่อยความกดดันออกไปแล้ว ทำให้เขาวาดลวดลายออกมาในเกมนี้อย่างสุดยอดจริงๆ ครับ ทั้งลูกที่จ่ายทะลุช่องให้มาเน่ไปยิงประตู และกับการทำประตูให้ตัวเอง 2 ประตูแบบเหนือชั้นสุดๆ ทั้งการจับบอล เทคนิกอันเหนือชั้นในการส่งบอลเข้าประตูไปทั้ง 2 ลูก มันทำให้เราสัมผัสได้ครับว่า “ฟีร์มิโน่กลับมาแล้ว” เหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" ใจชื้นขึ้นได้ล่ะครับในช่วงที่ ดิโอโก้ โชต้า กำลังเจอปัญหาบาดเจ็บเล่นงานแบบนี้ก็ได้ “บ๊อบบี้คนเดิม” กลับมาได้ทันเวลาจริงๆ



วันของชาวหงส์

            กลับลงมาครึ่งหลัง แทนที่พาเลซจะทำเกมตีตื้นกลับมาได้บ้าง .... แต่กลายเป็นว่าลิเวอร์พูลกลับโชว์ฟอร์มได้ดียิ่งไปกว่าครึ่งแรกเสียอีกครับ และเหมือนกับว่าวันนี้มันเป็นวันของลิเวอร์พูลจริงๆ นักเตะหลายๆ คนได้ปลดล๊อก นักเตะหลายๆ คนคืนฟอร์มเก่งกลับมา และทำอะไรก็ดี ยิงยังไงก็เข้าไปเสียหมด เริ่มจากการกลับมาคลำเป้าเจออีกครั้งของมาเน่ ที่ช่วงหลังๆ แม้ว่าเจ้าตัวจะยังสร้างความอันตรายในเกมการเล่นได้อยู่ก็จริง แต่การทำประตูด้วยตัวเองของมาเน่นั้นหายไปนานเหลือเกิน และเจ้าตัวก็พยายามอยู่หลายเกมแต่ก็ไม่สำเร็จเสียที จนมาวันนี้นี่แหละครับ ที่เจ้าตัวมีชื่อในสกอร์บอร์ดอีกครั้งจนได้ นอกจากนี้ก็ยังมีประตูแรกในฤดูกาลของกัปตันเฮนโด้ คนเก่ง ที่ยิงเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงาม และพอเปลี่ยนตัวเอาโม ซาล่าห์ลงมาแทนมาเน่ (ซึ่งก็ทำให้มาเน่หงุดหงิดพอสมควรล่ะครับ เพราะโอกาสทำประตูในเกมนี้ค่อนข้างเปิดกว้างให้เขาจริงๆ )  แต่ซาล่าห์เองก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง จัดการบวกประตูเพิ่มให้ตัวเองได้อีก 2 ประตูด้วยกัน จากจังหวะโหม่งเปลี่ยนทางในจังหวะที่มาทิปโหม่งชงมาให้ และปิดท้ายด้วยลูกยิงโค้งๆ เสียบสามเหลี่ยมอย่างสุดสวยในลูกปิดปล่อง ทำให้ลิเวอร์พูลชนะไปอย่างท่วมท้น 7-0 เลยทีเดียวผลจากนัดนี้ทำให้อะไรหลายๆ อย่างกลับมาเข้าข้างลิเวอร์พูลไปแทบจะทั้งหมดจริงๆ ครับ ทั้งลูกประตูได้เสียที่ตอนนี้พวกเขาพาตัวเองเป็นทีมที่มีค่า+/-ประตูได้เสียเป็นอันดับ 1 ไปแล้ว นั่นเท่ากับว่าลิเวอร์พูลเหมือนมีแต้มต่อ 1/2 คะแนนล่ะครับในสถานการณ์ที่แต้มเท่ากัน ต่อไปนี้อันดับ 1 ก็ยังเป็นของลิเวอร์พูลอยู่และดาวซัลโว ก็เป๋็นโม ซาล่าห์คนเดียว ที่นำโด่งแบบไม่มีใครมาร่วมด้วยอีกแล้ว

            เราได้เห็นลิเวอร์พูลเล่นทรงๆ แบบฟอร์มธรรมดาๆ มานาน แต่พวกเขาก็เรียกฟอร์มตัวเองให้กลับมาอยู่ในจุดสูงสุดได้อีกครั้งนึงจนได้ และเรียกมาได้ถูกที่ถูกเวลาจริงๆ ครับ เพราะใกล้จะถึงช่วงบ๊อกซิ่ง เดย์แล้ว นี่คือการ "เตรียมการเปิดกล่องของขวัญ" ที่ดีเยี่ยมของลิเวอร์พูลจริงๆ .... YNWA ครับ

  

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด